ชาวไร่ยาสูบหล่มสักรุมค้านร่าง พ.ร.บ.ยาสูบใหม่ ย้ำรัฐอย่าขืนใจเกษตรกร

เพชรบูรณ์ - ชาวไร่ยาสูบหล่มสักรุมค้านร่าง พ.ร.บ.ยาสูบ ยื่นหนังสือผ่าน ส.จ.ส่งต่อให้ผู้ว่าฯ เสนอถึงรัฐบาล ยันผ่านความเห็นชอบเมื่อไหร่ ชาวไร่ทั่วประเทศลุกฮือแน่ บอกเลี้ยงปากเลี้ยงท้องได้ดีกว่าปลูกข้าวที่ราคาตกต่ำ

วันนี้ (12 ธ.ค.) นางฐิตินันท์ พั้วช่วย สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) เพชรบูรณ์ รับหนังสือคัดค้านร่าง พ.ร.บ.ควบคุมการบริโภคยาสูบ จากนายสงกรานต์ ภักดีจิตร นายกสมาคมชาวไรยาสูบเบอร์เลย์จังหวัดเพชรบูรณ์ และสมาชิก 634 คน ที่รวมตัวกันที่ทำการสมาคม อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์

นางฐิตินันท์กล่าวว่า หลังรับหนังสือจากชาวไร่แล้ว วันที่ 16 ธ.ค.จะนำเสนอให้นายกอบจ.ผ่านความเห็นชอบ พร้อมยืนหนังสือต่อนายอำเภอหล่มสัก และผู้ว่าราชการจังหวัด ผ่านถึงรัฐบาลเพื่อคัดค้านร่าง พ.ร.บ.ยาสูบฉบับใหม่ ซึ่งอยู่ระหว่างคณะรัฐมนตรีพิจารณา

ทั้งนี้ ใบยาสูบถือเป็นพืชเศรษฐกิจของจังหวัด ปลูกกันมานานนับ 100 ปี และเป็นอาชีพหลักของเกษตรกร สร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว ดีกว่าการปลูกข้าวที่ปัจจุบันราคาตกต่ำมาก ใบยาสูบจากเพชรบูรณ์กลายเป็นสินค้าส่งออก ทำเงินเข้าจังหวัดปีละ 1.5 พันล้านบาท ดังนั้นรัฐบาลไม่ควรบังคับจิตใจเกษตรกร ชาวไร่และตนในฐานะผู้นำ จำเป็นคัดค้านร่าง พ.ร.บ.ฉบับใหม่ให้ถึงที่สุด

นายสงกรานต์กล่าวว่า อยากฝากถึงรัฐบาลให้พิจารณายับยั้งร่างพ.ร.บ.ควบคุมยาสูบ เพราะสมาคมเห็นว่าเป็นผลเสียต่อเกษตรกร ทั้งที่ปัจจุบันสามารถเลี้ยงตัวเองได้ก็เพราะการปลูกใบยาสูบ โดยในเพชรบูรณ์มีผู้ปลูกยาสูบกว่า 5 พันครอบครัว รายได้เฉลี่ย 25,000 บาทต่อไร่จากฤดูเพาะปลูกแค่ 2 เดือน

“ถ้าร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวผ่านความเห็นชอบจริง เชื่อว่าเกษตรกรทั่วประเทศไม่ยอมแน่ๆ”

สำหรับร่าง พ.ร.บ.ควบคุมยาสูบฉบับใหม่ กำหนดมาตรการบังคับให้ผู้ขายบุหรี่ทำรายงานขายประจำปี ห้ามแบ่งขายเป็นมวน ห้ามแสดงบุหรี่ ณ จุดขาย บังคับติดสื่อรณรงค์ที่ร้านค้า บังคับและห้ามประชาสัมพันธ์กิจกรรมเพื่อสังคม จำกัดการติต่อระหว่างหน่วยงานของรัฐกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาสูบ และการเปิดช่องให้ออกกฎหมายลูกได้เองจำนวนมาก โดยไม่ต้องผ่านคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา เป็นต้น