ฉะเชิงเทรา - ถนนสายสุวินทวงศ์ มุ่งหน้าเมืองแปดริ้วสุดเสี่ยง เหตุมีการขยายช่องจราจร ผู้รับเหมาไม่ติดตั้งไฟส่องสว่างบอกแนวเขต ร้านค้าตั้งวางสินค้าโผล่กลางเส้นทางตามแนวเขตถนนเดิม ล่าสุด หนุ่มใหญ่เมืองนนท์ขับเก๋งเสยโฟล์คลิฟต์เจ็บหนัก
เมื่อเวลา 02.50 น. วันนี้ (10 ธ.ค.) ร.ต.ท.ประเสริฐ เดชสุภา ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา รับแจ้งเหตุรถยนต์ส่วนบุคคลขับพุ่งชนรถโฟล์คลิฟต์ที่จอดขายอยู่ริมทาง มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย เหตุเกิดเชิงสะพานคลองขวางขาลงมุ่งหน้า กทม. ใกล้กับสถานีตำรวจทางหลวงสุวินทวงศ์ หมู่ 1 ต.คลองนครเนื่องเขต อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พบรถยนต์นิสสัน สีดำ ทะเบียน วข 5969 กรุงเทพมหานคร สภาพด้านหน้ารถพังยับเยิน เนื่องจากพุ่งชนเข้ากับด้านข้างของรถยก หรือโฟล์คลิฟต์มือสองนำเข้า ไม่ติดป้ายทะเบียนที่จอดอยู่ริมข้างทางถนนสุวินทวงศ์ (304) ฝั่งขาเข้า รถโฟล์คลิฟต์ถูกแรงกระแทกจากจุดจอดขายไปประมาณ 1 เมตร 2 คัน แต่ไม่พบความเสียหายมากนัก
ส่วนคนเจ็บทราบชื่อต่อมา คือ นายชญาพัทธ์ อนันตสมบูรณ์ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 107/77 หมู่ 8 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา นำส่งยังโรงพยาบาลพุทธโสธร ไปก่อนหน้าแล้ว
สอบสวน น.ส.ณัฐกมล พรสุขสวัสดิ์ อายุ 45 ปี ลูกจ้างร้านจำหน่ายรถโฟล์คลิฟต์ เลขที่ 37/10-11 ม.1 ต.คลองนครเนื่องเขต กล่าวว่า ขณะกำลังนอนหลับอยู่บนชั้น 2 ได้ยินเสียงดังโครมใหญ่ จึงได้รีบลงมาดูจึงพบว่า มีรถยนต์พุ่งเข้ามาชนรถโฟล์คลิฟต์ที่จอดอยู่หน้าร้าน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บเดินลงมาจากรถ 1 ราย สภาพมีเลือดไหลเต็มใบหน้าจนโชกท่วมตัว จากนั้นจึงมีหน่วยกูภัยมารับตัวคนเจ็บไปส่งยังโรงพยาบาล โดยเหตุการณ์ลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้าแล้วหลายครั้ง ทั้งรถบรรทุกขนาดใหญ่ และรถเล็ก
ด้าน นายสิทธิพร มณฑลธรรมวิไล อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 429/4 ถ.คลองหนึ่ง ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี กล่าวว่า ตนเป็น รปภ.เฝ้าหน้าร้านแห่งนี้มานานสิบปีแล้ว โดยร้านได้เปิดจำหน่าย รับซ่อม และให้เช่ารถโฟล์คลิฟต์มือสองนำเข้ามาจากญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 2535
ขณะที่ ร.ต.ท.ประเสริฐ กล่าวว่า เบื้องต้นเชื่อว่าคนขับอาจหลับใน หรืออาจเมาสุรา จนทำให้รถออกนอกเส้นทางพุ่งเข้าชนกับรถโฟล์คลิฟต์ที่จอดอยู่ริมไหล่ทาง ซึ่งบริเวณนี้มักเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง เนื่องจากสภาพถนนตอนกลางคืนค่อนข้างมืดจนมองไม่เห็นข้างทาง ซึ่งจะเดินทางไปสอบสวนคนขับที่ได้รับบาดเจ็บอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ถนนสุวิทนวงศ์ ระยะทางกว่า 20 กม. จากช่วงรอยต่อกับเขต กทม.เข้ามาในเขต จ.ฉะเชิงเทรา อยู่ระหว่างการขยายช่องทางการจราจรทั้งขาเข้า และขาออก โดยที่ผู้รับเหมาไม่ได้ติดไฟส่องสว่างบอกถึงแนวเขตการก่อสร้างให้เห็นแต่อย่างใด จึงถือว่าเป็นจุดเสี่ยงของผู้ใช้เส้นทาง และเป็นถนนที่อันตรายมากสำหรับผู้ที่ต้องสัญจรผ่านในเวลากลางคืน
นอกจากนี้ ผู้ทำการค้า และร้านค้าที่เคยตั้งขายสินค้าอยู่ริมไหล่ทาง รวมถึงร้านจำหน่ายรถโฟล์คลิฟต์ดังกล่าวนี้ด้วย ยังคงตั้งวางสินค้าจำหน่ายอยู่ในจุดเดิม ทั้งที่ได้มีการขยายแนวเขตถนน และเสาไฟฟ้าออกไปจากแนวเขตเดิมแล้ว จึงทำให้เกิดความเสี่ยงต่อผู้ที่ใช้เส้นทางสัญจรผ่านมากขึ้น โดยเฉพาะในเวลากลางคืนที่มักเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง