น่าน - คนเมืองน่านยังเดินหน้ารุมถล่ม อพท.ทาสีถนนแบ่งเขตเมืองเก่า จี้ถามถึงความโปร่งใสจัดซื้อจัดจ้าง-แถมอ้างคน 350 คนเห็นด้วยแทนชาวน่านทั้งจังหวัดฯ พอเรียกร้องให้ทบทวน-ยกเลิกโครงการ กลับบอกเลิกไม่ได้จะทำให้รัฐเสียประโยชน์ จำเป็นต้องทำต่อหน้าตาเฉย
วันนี้ (8 ธ.ค.) ดร.ชุมพล มุสิกานนท์ ผู้จัดการสำนักงานพื้นที่พิเศษเมืองเก่าน่าน พร้อมด้วยนายสุขสันต์ เพ็งดิษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารแผนงาน องค์การบริหารการจัดการพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) พื้นที่น่าน, นายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน, นายสมเจตน์ วิมลเกษม ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปวัฒนธรรม อพท.น่าน, นายสโรจน์ รัตนมาศ วัฒนธรรมจังหวัดน่าน-เลขาฯ คณะอนุกรรมการเมืองเก่าน่าน และ พ.ต.ท.พิสิษฐ์ ตลับเพชร์สกุล รองผู้กำกับการจราจร สภ.เมืองน่าน ได้แถลงข่าวที่อาคารสโมสรฯ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดน่าน ซึ่งมีการถ่ายทอดภาพและเสียงสดทางวิทยุ เคเบิล และเว็บไซต์
ทั้งนี้ เพื่อชี้แจงกรณีโครงการพัฒนาเมือง และสิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่เมืองเก่าน่านให้เป็นแหล่งท่องเที่ยงเชิงศิลปวัฒนธรรมล้านนาตะวันออก หลัง อพท.ดำเนินการปรับปรุงถนนสุริยะพงษ์, ถนนเจ้าฟ้า และถนนผากอง ด้วยการทาสีให้เป็นสีน้ำตาลแดง เพื่อใช้เป็นจุดนำสายตา และสัญลักษณ์แสดงขอบเขตบริเวณเมืองเก่าน่าน จนกลายเป็นประเด็นร้อนถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม และความคุ้มค่ากับงบประมาณที่ใช้ไป รวมถึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนขึ้นถี่ยิบ
บรรยากาศการชี้แจงเป็นไปด้วยความตึงเครียด ท่ามกลางความคลางแคลงใจของประชาชน ผู้เข้าร่วมต่างพยายามชี้ให้เห็นถึงความไม่เหมาะสมในการใช้งบประมาณ 16 ล้านบาท ซึ่ง อพท.น่านใช้ระเบียบขอ อพท.ที่จัดซื้อจัดจ้างได้เอง แล้วในวิธีการตกลงราคาว่าจ้างผู้รับเหมา ทำให้เกิดความสงสัยในขั้นตอนการพิจารณาจัดซื้อจัดจ้าง
ทาง อพท.ชี้แจงว่า หากประชาชนต้องการดูเอกสารสามารถทำหนังสือมายื่นขอตรวจสอบได้
นอกจากนี้ยังมีประเด็นการอ้างถึงผลประชาคมในการพัฒนาเขตเมืองเก่าด้วยคนจำนวน 350 คน แทนคนน่านทั้งจังหวัดกว่า 4 แสนคน ที่อ้างว่าทั้ง 350 คนเห็นชอบกับโครงการทั้งหมดโดยไม่มีการคัดค้าน ขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่มองว่าขั้นตอนการพิจารณา และการรับฟังความคิดเห็น รวมถึงการมีส่วนร่วมของประชาชน เป็นเพียงการทำให้กระบวนการสมบูรณ์มากกว่าที่จะเล็งเห็นถึงผลความต้องการของประชาชนที่แท้จริง
ประเด็นสำคัญคือ ความปลอดภัยบนท้องถนน ซึ่งพบว่าช่วงวันที่ 5 ธันวาคม 57 ที่ผ่านมา บริเวณถนนที่ทาสีมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ลื่นล้มหลายคัน และบางรายถึงกับต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลน่าน
ด้านตัวแทนวิศวกรที่ออกแบบถนนได้ชี้แจงว่า ถนนที่ทาสีเป็นการออกแบบปรับปรุงพื้นผิวถนน โดยการปูยางแอสฟัลต์หนาเฉลี่ย 3 เซนติเมตร และทาสีทับด้วยอะคริลิกพอลิเมอร์ผสมซิลิกา หรือทราย เพื่อให้เกิดความหนืดและฝืดเพื่อความปลอดภัย แต่กรณีที่เกิดอุบัติเหตุต้องมีการทบทวนว่าควรต้องให้ผู้รับเหมาเพิ่มซิลิกาอีกหรือไม่เพื่อให้พื้นผิวเกิดความหยาบหนามากขึ้น
ในกรณีนี้ประชาชนชาวน่านได้แสดงความกังวลว่า หากเกิดอุบัติเหตุบนพื้นที่ที่หยาบมากเกินไปจะยิ่งทำให้ได้รับบาดเจ็บมากยิ่งขึ้น
ด้านนายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน ชี้แจงว่า แม้จะรับทราบที่มาที่ไปของโครงการ และเป็นหน่วยงานที่อนุญาตให้ อพท.น่านใช้พื้นที่ในเขตเทศบาลฯ ดำเนินโครงการดังกล่าว ก็ยังกังวลถึงผลกระทบโดยเฉพาะเรื่องพื้นผิวที่อาจเป็นจุดเสี่ยงให้เกิดอันตรายบนท้องถนน ซึ่งอาจกระทบต่อภาพลักษณ์ที่เทศบาลเมืองน่าน กำลังเดินหน้าสู่ชุมชนปลอดภัยระดับโลก
นอกจากนี้ก็ยังกังวลถึงความคงทนและงบประมาณที่อาจจะต้องดูแลซ่อมบำรุง และสีที่ใช้ทาเหมาะสมกับความเป็นเมืองเก่าน่านหรือไม่ด้วย
ขณะเดียวกัน ชาวจังหวัดน่านยังได้พยายามส่งคำถามผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งทางโทรศัพท์ และสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตอบคำถาม แต่ในช่วงระยะเวลากว่า 2 ชั่วโมงยังไม่มีคำตอบจาก อพท.ที่จะให้ความกระจ่างแก่สังคมคนเมืองน่านได้เลย นอกจากนี้ ประชาชนเมืองน่านยังเรียกร้องให้ อพท.ทบทวน และยกเลิกโครงการดังกล่าว
แต่ ดร.ชุมพลได้ชี้แจงในประเด็นนี้ว่า การยกเลิกสัญญาหรือโครงการจะทำให้ฝ่ายรัฐ ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างเสียประโยชน์ จึงทำไม่ได้ แต่การเดินหน้าทำโครงการดังกล่าวต่อไป จะพยายามปรับให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด พร้อมทั้งยอมรับในข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น และขอโทษชาวน่านกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม เวทีดังกล่าวยังไม่สามารถหาข้อยุติได้ เนื่องจาก อพท.ยังคงยืนยันเดินหน้าโครงการนี้อยู่ ทั้งที่เต็มไปด้วยกระแสคัดค้าน, ความเคลือบแคลงสงสัยในการบริหารจัดการที่ไม่เหมาะสม และไม่สอดคล้องกับความเป็นเมืองเก่าน่าน