ลูกจ้าง ม.ราชภัฏบุรีรัมย์ร้องจ๊าก ถูกผู้ให้บริการเน็ตฟ้องเก็บหนี้กว่าแสนบาท(ชมคลิป)

บุรีรัมย์ - พนักงาน ม.ราชภัฏบุรีรัมย์ร้องสื่อ ถูกผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตชื่อดังฟ้องเก็บหนี้กว่า 1 แสนบาท หลังซื้อแอร์การ์ดแบบเหมาจ่ายเดือนละ 399 บาท พร้อมโปรโมชันฟรี 3 เดือนแรก แต่หลายเดือนต่อมาไปชำระค่าบริการ กลับพบเป็นหนี้กว่า 92,000 บาท ตรวจพบมีค่าแพกเกจ ECGE/GPRS เดือนละ 42,000 บาทถึง 2 เดือน โอดไม่มีปัญญาจ่าย วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยตรวจสอบ



วันนี้ (4 ธ.ค.) นายสันติ บุราณสุข อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48 หมู่ 18 ต.สะแกโพรง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ นำเอกสารหลักฐานคำฟ้องของศาลจังหวัดบุรีรัมย์ออกมาร้องขอความเป็นธรรมผ่านถึงทางบริษัทหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังถูกบริษัทเครือข่ายอินเทอร์เน็ตชื่อดัง (ทรู) ฟ้องเก็บเงินค่าอินเทอร์เน็ตเป็นเงินกว่า 100,282.92 บาท โดยคำฟ้องระบุว่ามียอดค้างชำระแพกเกจ EDGE/GPRS จำนวน 2 เดือน รวมเป็นเงิน 92,438.33 บาท เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2556 ไม่มาชำระตามกำหนดรวม 413 วัน คิดเป็นดอกเบี้ย 7,844.59 บาท รวมเป็นเงินที่บริษัทฟ้องร้อง 100,282.92 บาท ยังไม่รวมค่าทนายความ

นายสันติ บุราณสุข ประกอบอาชีพพนักงานทั่วไปในมหาวิทยาราชภัฏบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า เมื่อประมาณต้นปี 2556 ได้มีพนักงานบริษัทอินเทอร์เน็ตชื่อดังมาเปิดบูทขายอินเทอร์เน็ตเคลื่อนที่ในมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ จึงตัดสินใจซื้อตัวรับสัญญาณ (แอร์การ์ด) ในราคา 1,200 บาท และซื้อแพกเกจอินเทอร์เน็ตแบบเหมาจ่ายเดือนละ 399 บาทไปให้ลูกชายขณะนั้นอายุ 13 ปีไว้ใช้ที่บ้าน โดยตัวแทนบริษัทระบุว่ามีโปรโมชันใช้ฟรี 3 เดือน

“ยอมรับว่าผมไม่ค่อยมีเวลาตรวจสอบบิลเก็บค่าบริการ ประกอบกับการใช้ฟรี 3 เดือนแรกจึงไม่สนใจ กระทั่งเมื่อเดือนกรกฎาคม 2556 ได้ไปขอจ่ายเงินค่าใช้บริการอินเทอร์เน็ต พนักงานแจ้งว่าค้างชำระทั้งหมดกว่า 92,000 บาท จึงตกใจและไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ เมื่อตรวจสอบหลักฐานพบมีค่าแพกเกจ ECGE/GPRS ที่ถูกซื้อไปเดือนละ 41,427 บาทถึง 2 เดือน กระทั่งได้รับหมายศาล เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2557 ที่ผ่านมาว่า ผมเองเป็นหนี้ถึงกว่า 100,000 บาท”

นายสันติกล่าวต่อว่า การฟ้องร้องของบริษัทถือว่าทำไปตามหน้าที่ แต่ตนยังไม่เข้าใจการทำงานของบริษัทเกี่ยวกับการสั่งซื้อแพกเกจต่างๆ โดยเฉพาะในราคาสูงถึงกว่า 41,000 บาทต่อเดือน ทำไมไม่มีการตรวจสอบการเงินหรือโทรศัพท์สอบถามผู้ใช้ กลับปล่อยให้ใช้บริการทั้งที่ไม่ทราบอาชีพและสถานะของลูกค้าว่ามีกำลังจ่ายหรือไม่

และเมื่อผ่านไป 1 เดือนไม่มีการชำระ ทำไมบริษัทไม่ระงับการให้บริการ จึงอยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบ เพราะตนเองมีเงินเดือนจากการทำงานเพียงเดือนละ 7,380 บาท ต้องใช้จ่ายในครอบครัวและส่งเสียลูกเรียนด้วย คงไม่มีปัญญาไปจ่ายเงินค่าอินเทอร์เน็ตดังกล่าวได้ จึงออกมาร้องขอความเป็นธรรมและความช่วยเหลือกรณีดังกล่าวด้วย