โผล่อีก! แก๊งเรียกค่าไถ่รถ หนุ่มขอนแก่นโร่แจ้งความ เชื่องานนี้ตำรวจมีเอี่ยว (ชมคลิป)

ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ผู้เสียหายชาวขอนแก่นร้องสื่อรถยนต์ถูกเชิดหายกว่า 1 ปีหลังส่งอู่ซ่อม แจ้งความนานร่วมปียังไร้วี่แววความคืบหน้า ล่าสุดหัวหน้าแก๊ง โทร.มาเรียกค่าไถ่ 5 หมื่นบาท อ้างเอาไปจำนำบ่อนการพนันที่ร้อยเอ็ด เผยงานนี้ตำรวจอาจมีส่วนเอี่ยวกรรโชกทรัพย์



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (25 พ.ย.) ที่ สภ.ย่อยบ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายประมินทร์ ประวัติพร อายุ 32 ปี อาชีพโฟร์แมน ชาวตำบลบ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ได้เข้าติดตามความคืบหน้าคดีฉ้อโกงทรัพย์จาก ร.ต.ท.เสวต แก้วพิลา พนักงานสอบสวน สภ.ย่อยบ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น กรณีถูกนายสุริยนต์ สารสอน และนายกอบชัย เทียบทิม ร่วมกันกรรโชกทรัพย์

นายประมินทร์ ประวัติพร ผู้เสียหาย เล่าว่า เหตุเกิดเมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคม ปีที่แล้ว รถยนต์ของตน ยี่ห้อมิตซูบิชิ ไทรทัน สีขาว หมายเลขทะเบียนทะเบียน กร 1009 ขอนแก่น ได้ประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำได้รับความเสียหาย ตอนนั้นรถของตนไม่มีประกันภัยชั้น 1 ตนจึงได้นำรถยนต์ไปซ่อมที่อู่ซ่อมแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่บริเวณบ้านขามเจริญ ถ.เหล่านาดี ต.บ้านเป็ด โดยมีนายสุริยนต์ สารสอน หรือนายหมู เป็นผู้มารับรถ แต่ยังไม่ได้แจ้งราคาซ่อมในตอนนั้น ต้องรอตรวจประเมินความเสียหายก่อน ตนจึงได้เดินทางกลับบ้านก่อน

เวลาผ่านไปประมาณ 1 สัปดาห์ นายหมูได้โทรศัพท์แจ้งราคาค่าซ่อมรถกับตนประมาณ 2 แสนบาท ตนถึงกับตกใจพร้อมบอกว่าไม่มีเงินซ่อมให้ชะลอการซ่อมไปก่อน นายหมูจึงแนะนำให้ติดต่อนายกอบชัย ซึ่งมีอู่ซ่อมอยู่ใน จ.ร้อยเอ็ด โดยอ้างว่าน่าจะคิดค่าซ่อมได้ถูกกว่า ตนจึงเชื่อและให้นายหมูประสานติดต่อกับนายกอบชัยซ่อมรถให้

ต่อมานายกอบชัยมาดูสภาพรถยนต์และตกลงให้นำไปซ่อมกับอู่ของเขาที่ จ.ร้อยเอ็ด เวลาผ่านไปประมาณ 1 เดือน ระหว่างที่นำรถเข้าซ่อมนายกอบชัยได้มีการโทร.มาเจรจากับตนว่า “ตอนนี้รถยังซ่อมไม่เสร็จและบอกว่าค่าซ่อมน่าจะแพงพอๆ กับอู่แรก” และยังแนะนำกับตนว่าควรทำการโอนสัญญาเช่าซื้อรถกับไฟแนนซ์ไปเป็นชื่อนายกอบชัย แลกกับการที่ตนต้องส่งผ่อนค่างวดที่ค้างชำระอยู่ 36 งวด

ตนส่งไปแล้ว 24 งวด งวดละ 11,000 บาท รวมเป็นเงิน 264,000 บาท แต่ตนไม่รับข้อเสนอนั้นและจะขอรถคืนแต่ก็ถูกปฏิเสธจากนายกอบชัย ก่อนที่จะติดต่อไม่ได้นับตั้งนั้นเป็นต้นมา ระหว่างนั้นตนได้ย้อนกลับไปดูอู่ซ่อมรถอู่แรกที่จะนำเข้าไปซ่อม จ.ขอนแก่น ปรากฏว่าอู่รถได้ปิดบริการไปแล้ว ตนจึงได้ตัดสินใจเข้าแจ้งความต่อตำรวจ สภ.ย่อยบ้านเป็ด เพื่อให้ช่วยติดตามรถคืน ผ่านไปประมาณ 1 ปีคดีความยังไม่คืบหน้ารถก็ยังไม่ได้คืน

ล่าสุดวันที่ 19 พ.ย. 57 นายกอบชัยได้โทรศัพท์มาหาตนและบอกว่า ถ้าหากอยากได้รถคืนให้นำเงินสดไปให้เขา 5 หมื่นบาท โดยได้มีการนัดหมายไว้ที่บ่อนพนันแห่งหนึ่ง ซึ่งตนเชื่อว่ารถของตนน่าจะถูกนายกอบชัยนำไปจำนำกับบ่อนดังกล่าวแน่นอน ตนจึงได้ตัดสินใจเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อตำรวจ สภ.ย่อยบ้านเป็ดเพื่อเป็นหลักฐานในการนำจับอีกครั้ง

ทั้งนี้ นายประมินทร์ยังกล่าวอีกว่า งานนี้อาจมีตำรวจอยู่เบื้องหลังขบวนการกรรโชกทรัพย์ด้วย หลังพบว่าอู่รถในขอนแก่นที่ปิดบริการไปนั้นมีเจ้าของเป็นนายตำรวจยศระดับ ร.ต.อ.ในพื้นที่ มีฉายาว่า “ผู้กองเป๊ปซี่”

ด้าน ร.ต.ท.เสวต แก้วพิลา พนักงานสอบสวน สภ.ย่อยบ้านเป็ด กล่าวว่า นายกอบชัยถูกออกหมายจับฐานฉ้อโกงทรัพย์ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ยังไม่สามารถจับกุมตัวได้ และมีคดีติดตัวในลักษณะเดียวกันอีก 4 คดีทั้งในจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดร้อยเอ็ด ส่วนกรณีของนายประมินทร์เป็นรายที่ 5 ขณะที่นายสุริยนต์ยังไม่มีการออกหมายจับ

แต่ตำรวจสืบสวนภาค 4 เคยนำตัวมาสอบถามข้อมูล สารภาพว่าได้รับค่าจ้างในการหารถยนต์ที่ประสบอุบัติเหตุคันละ 1 หมื่นบาท โดยวันนี้เพิ่งทราบจากผู้เสียหายว่ามีการโทรศัพท์กรรโชกทรัพย์ด้วย จึงรับแจ้งความจากผู้เสียหายก่อนจะได้มีการประสานงานไปยังตำรวจที่จังหวัดร้อยเอ็ดเพื่อติดตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป