พะเยา - ชาวบ้านร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดฯ ถูกคณะกรรมการเชิดเงินกองทุนหมู่บ้าน-SML ยัดหนี้เก่ากว่า 2 ล้านบาทให้ชาวบ้านไม่พอ ยังอ้างชื่อสมาชิกกองทุนฯ กู้เงินต่อยอดจากแบงก์เพิ่มอีก 2 ล้าน พอไปแจ้งความ ตร.กลับไม่รับแจ้ง บอกหลักฐานไม่ชัดเจน ร้องศูนย์ดำรงธรรมอำเภอฯ นับเดือนเรื่องไม่คืบ
วันนี้ (3 ธ.ค.) นายศรีมูล ศรีวิชัย กำนันตำบลขุนควร อ.ปง จ.พะเยา พร้อมคณะกรรมการหมู่บ้าน, กรรมการกองทุน SML และชาวบ้านสบเกี๋ยง หมู่ 3 ต.ขุนควร รวมกว่า 100 คน ได้เดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดพะเยา เพื่อขอให้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพะเยาให้ความช่วยเหลือ
นายศรีมูลกล่าวว่า นางรำเพียร นันทโชติ หรือนางสาวรำเพียร ปัญญาอ้าย (ปัจจุบัน) ซึ่งเป็นคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองบ้านสบเกี๋ยง หมู่ 3 ต.ขุนควร ยักยอกเงินที่ต้องชำระหนี้กองทุนหมู่บ้าน กับธนาคารออมสินสาขา อ.ปง ไปกว่า 2 ล้านบาท ทำให้ได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก
นายศรีมูลระบุว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นโดยทางสมาชิกกองทุนหมู่บ้านจำนวน 50 ราย ซึ่งทำสัญญากู้เงินกองทุนหมู่บ้านรายละประมาณ 40,000-50,000 บาท ในปี 2555 ยอดเงินรวมราว 2.3 ล้านบาท และครบกำหนดชำระหนี้เมื่อ พ.ย. 55 โดยทางสมาชิกทั้ง 50 รายได้มอบหมายให้ทางเหรัญญิกกองทุนนำเงินไปชำระหนี้กับธนาคารออมสินตามกำหนด
เมื่อผ่านมาระยะหนึ่ง นางสาวรำเพียร ปัญญาอ้าย ก็ไม่ได้มีการนำเงินไปชำระกับทางธนาคาร ซ้ำยังได้ไปแจ้งกับทางธนาคารว่าสมาชิกไม่มีเงินมาชำระ จึงติดต่อกับทางธนาคารออมสินเพื่อขอกู้เงินต่อยอดอีก 2 ล้านบาทเพื่อนำเงินมากลบหนี้ให้ชาวบ้าน โดยมีการลงนามเพียงแค่คณะกรรมการเท่านั้น ซึ่งธนาคารก็ปล่อยให้กู้ แม้ทางคณะกรรมการจะมีระเบียบว่าต้องมีประธานฯ ลงนามร่วมกับคณะกรรมการด้วยก็ตาม ทำให้สมาชิกกองทุนสงสัยในการกระทำในครั้งนี้อย่างมาก
อีกทั้งเมื่อสมาชิกขอดูเอกสารทางการเงิน นางสาวรำเพียรก็ไม่ได้นำมาชี้แจง หรือเปิดเผยกับสมาชิกเลย ส่วนเงินกู้ต่อยอดอีก 2 ล้านบาทนั้นมีการกู้ โดยมีการโอน-ถอนเงินในวันเดียวกัน
ขณะเดียวกัน สมาชิกได้มีการตรวจสอบบัญชีของนางสาวรำเพียร รวมถึงอดีตสามี (เพิ่งหย่า) และบุตร พบว่ามียอดเงินโอนเข้าบัญชีครั้งละ 50,000-60,000 บาท หลายครั้ง รวมแล้วประมาณ 700,000 บาท ซึ่งก็ไม่ทราบที่มาของเงินดังกล่าว
นอกจากนี้ นางสาวรำเพียรยังมีการยักยอกเงินสัญญาอื่นอีกรวมเป็นเงินไม่น้อยกว่า 4 ล้านบาท โดยทั้งหมดถูกแจ้งความดำเนินคดีแล้ว ยกเว้นคดีเงินกู้ SML เท่านั้น ทางสมาชิกได้เคยไปแจ้งความกับ สภ.ปง แล้วแต่เจ้าหน้าที่ไม่รับแจ้งโดยให้เหตุผลว่าหลักฐานยังไม่ชัดเจน และเคยร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอปง เมื่อ 1 เดือนก่อนหน้านี้เรื่องก็ไม่คืบหน้า
“ตอนนี้นางสาวรำเพียรได้หลบหนีไปแล้ว ชาวบ้านจึงพากันมาร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดฯ อีกครั้ง”
ต่อมานายพรเทพ ผ่องศรี หัวหน้าสำนักงานจังหวัดพะเยา พร้อมด้วยนายอำเภอปง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ตัวแทนชาวบ้านเข้าชี้แจง พร้อมรับปากจะเร่งรัดดำเนินการให้ โดยจะตั้งคณะกรรมการจากหลายหน่วยงานเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง และตรวจสอบบัญชี พร้อมกับประสานงานกับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด สั่งการเร่งรัดไปยังพนักงานสอบสวน ติดตามคดีที่ชาวบ้านได้เข้าแจ้งความแล้ว
ในวันพรุ่งนี้ (4 ธ.ค.) ได้มอบหมายให้นายอำเภอปงเชิญเจ้าหน้าที่ธนาคารมาชี้แจงการกู้เงิน และโอนเงินดังกล่าวด้วย เพื่อรวบรวมหลักฐาน ตรวจสอบข้อเท็จจริงของปัญหาดังกล่าวต่อไป
นายพรเทพยังได้รับปากว่า จะรายงานความคืบหน้าให้ตัวแทนสมาชิกกองทุนทราบเป็นระยะๆ ทำให้ชาวบ้านพอใจแยกย้ายกันกลับในเวลาต่อมา