ชาวตำบลพลวงร้อง นอภ.เขาคิชฌกูฏ สั่งย้ายหัวหน้า-ผช.อุทยานฯ ไม่ให้ความร่วมมือชาวบ้านจัดงาน

จันทบุรี - ชาวบ้านตำบลพลวงกว่า 200 คน รวมตัวเรียกร้องนายอำเภอเขาคิชฌกูฏ สั่งย้ายหัวหน้าอุทยาน และผู้ช่วยอุทยานฯ เขาคิชฌกูฏ อ้างไม่ให้ความร่วมมือจัดงานโครงการเทิดพระเกียรติบวชชีพราหมณ์บนยอดเขาคิชฌกูฏ ด้านหัวหน้าอุทยานฯ แจงไม่ได้ปิดกั้น เพียงต้องทำหนังสือขออนุญาตก่อน

วันนี้ (2 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า ไม่ได้รับความสะดวกในการขึ้นไปจัดโครงการเทิดพระเกียรติบวชชีพราหมณ์บนยอดเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี หลังถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไม่ยอมให้ขึ้นไปจัดกิจกรรม เนื่องจากไม่มีหนังสือมาขออนุญาตจากอุทยานแห่งชาติเป็นลายลักษณ์อักษร ทำให้จึงไม่สามารถที่จะขึ้นไปจัดกิจกรรมบนยอดเขาคิชฌกูฏได้ ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจ จึงได้รวมตัวกันมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมเพื่อให้ นายศิริศักดิ์ ศิริมังคลา นายอำเภอเขาคิชฌกูฏ ได้ช่วยเหลือ และย้ายหัวหน้าอุทยานแห่งชาติ และผู้ช่วยอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ ออกนอกพื้นที่โดยด่วน

หลังรับแจ้งผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่พบชาวบ้าน และผู้นำท้องถิ่นที่ นำโดย นายภานุ วิทูธีรศานต์ กำนันตำบลพลวง และชาวบ้านตำบลพลวงกว่า 200 คน ยืนถือป้ายไปเรียกร้องอยู่หน้าที่ว่าการอำเภอเขาคิชฌกูฏเพื่อให้ย้าย นายนุกูลกิจ วิชกูล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ และนายกิตติศักดิ์ รัตนะดาดาษ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ เนื่องจากชาวบ้านไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ได้ขัดขวางชาวบ้านไม่ให้ขึ้นไปบนยอดเขาคิชฌกูฏ ในการจัดโครงการเทิดพระเกียรติบวชชีพราหมณ์บนยอดเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี โดยโครงการนี้จะเริ่มจัดวันนี้เป็นวันแรกไปจนถึงวันที่ 5 มกราคม 2558

ต่อมา นายศิริศักดิ์ ศิริมังคลา นายอำเภอเขาคิชฌกูฏ ได้เชิญตัวแทนชาวบ้าน ผู้นำท้องถิ่นไปร่วมประชุมชี้แจงเพื่อหาข้อสรุป แต่ในช่วงที่ชาวบ้านยืนประท้วงเรียกร้องอยู่นั้น หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ และผู้ช่วยฯ ไม่ได้มาทำการชี้แจงต่อชาวบ้านแต่อย่างใด และไม่มีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติมาร่วมประชุมกับชาวบ้านด้วย ทำให้ชาวบ้านเกิดความไม่พอเป็นอย่างมากที่ทางอุทยานแห่งชาติไม่เข้ามาประชุมชี้แจงให้ชาวบ้านได้รับรู้ และขัดขวางการไม่ให้ขึ้นไปจัดกิจกรรม ทำให้ชาวบ้านให้อยากนายอำเภอได้ช่วยเหลือให้ชาวบ้านขึ้นไปจัดกิจกรรมได้ และชาวบ้านยังยืนกรานยังคงเรียกร้องให้ย้ายหัวหน้าอุทยาน และผู้ช่วยอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ ออกนอกพื้นที่อยู่

ในเรื่องนี้ นายศิริศักดิ์ ได้รับเรื่องของชาวบ้าน และได้โทรศัพท์ติดต่อกับหัวหน้าอุทยานแห่งชาติ เพื่อขอเหตุผลว่าทำไม่ถึงได้ขัดขวางไม่ให้ชาวบ้านขึ้นไปจัดกิจกรรม ซึ่งนายอำเภอได้รับคำตอบว่า การที่ทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏไม่ให้ชาวบ้านขึ้นไปจัดกิจกรรมนั้น เนื่องจากชาวบ้านไม่มีหนังสือทำเป็นลายลักษณ์อักษรมาถึงทางอุทยานแห่งชาติ

ประกอบในช่วงนี้เป็นช่วงปิดเขา ทำให้ทางเจ้าหน้าที่จึงไม่สามารถที่จะปล่อยให้ชาวบ้านขึ้นไปจัดกิจกรรมได้ หลังที่ทางนายอำเภอได้มีการเจรจาพูดคุยกับหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ ก็ได้รับคำตอบเป็นที่แน่ใจว่า ทางอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ ได้เปิดให้ชาวบ้านสามารถที่จะขึ้นไปจัดกิจกรรมบนยอดเขาได้แล้ว แต่ชาวบ้านจะต้องมีการนำหนังสือมาถึงอุทยานแห่งชาติให้ถูกต้อง ทำให้ชาวบ้านเกิดความพอใจ และได้แยกย้ายกันกลับ และขึ้นไปเตรียมการจัดกิจกรรมดังกล่าวต่อไป