ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - สสจ.เชียงใหม่ร่วมองค์กรเครือข่ายจัดกิจกรรม “วันเอดส์โลก” 1 ธันวาคม ประจำปี 2557 ชูกรอบ “Getting to Zero” ปล่อยคาราวานรณรงค์เข้าถึงสถาบันการศึกษา เผยข้อมูลพบประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อใหม่เฉลี่ยชั่วโมงละ 1 ราย ชี้ประเด็นน่าเป็นห่วงส่วนใหญ่ไม่รู้ตัวทำให้เกิดการแพร่เชื้อเพิ่ม
วันนี้ (1 ธ.ค.) ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ นายนาวิน สินธุสอาด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดกิจกรรมรณรงค์เนื่องในวันเอดส์โลก 1 ธันวาคม ประจำปี 2557 ซึ่งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เทศบาลนครเชียงใหม่ และภาคีเครือข่ายด้านเอดส์ ทั้งภาครัฐ ภาคประชาสังคม จัดขึ้น
โดยการจัดกิจกรรมครั้งนี้มีขึ้นภายใต้กรอบการรณรงค์ประจำปี 2557 ของโครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ ว่า Getting to Zero “ไม่ติด ไม่ตาย ไม่ตีตรา : ร่วมยุติปัญหา เอดส์และเพศสัมพันธ์” ที่มีเป้าหมายว่าภายในปี 2559 จะไม่มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ ไม่มีการเสียชีวิตจากเอดส์ และไม่มีการเลือกปฏิบัติต่อผู้ป่วย ผู้ติดเชื้อเอชไอวี โดยเรียกร้องให้ทุกประเทศรณรงค์เพื่อนำไปสู่เป้าหมายดังกล่าว
ทั้งนี้ มีกิจกรรมหลัก ได้แก่ การมอบรางวัลแก่บุคคลและองค์กรที่ทำงานด้านเอดส์, ขบวนคาราวาน “ยุติปัญหาเอดส์และเพศสัมพันธ์” ไปใน 6 สถาบันการศึกษา ได้แก่วิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการเชียงใหม่, วิทยาลัยเทคโนโลยีเมโทร, วิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงใหม่, วิทยาลัยศรีธนาพณิชยการเชียงใหม่, วิทยาลัยสารพัดช่างเชียงใหม่
ขณะที่ในช่วงเย็นมีการจัดกิจกรรม นิทรรศการให้ความรู้ การประกวดชุดแต่งกาย ที่ทำจากถุงยางอนามัย การประกวด Mr. and Miss Queen World AIDS Day การแสดงดนตรี โดยมีการจัดบริการให้คำปรึกษา และตรวจเลือดหาการติดเชื้อ HIV โดยความสมัครใจ แบบทราบผลภายใน 1 วัน ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจะทำให้สังคมตระหนักถึงปัญหาเอดส์ และเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ นำสังคมเชียงใหม่ไปสู่การยุติปัญหาเอดส์ “Ending AIDS”
ดร.สุรสิงห์ วิศรุตรัตน รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จากข้อมูลการคาดประมาณของกระทรวงสาธารณสุข ในปี 2557 ประเทศไทยจะมีผู้ป่วยเอดส์เสียชีวิต 24,573 ราย เฉลี่ย 3 รายต่อชั่วโมง มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ปีละ 8,535 ราย หรือเฉลี่ยติดเชื้อใหม่ชั่วโมงละ 1 ราย ในขณะที่จังหวัดเชียงใหม่มีผู้ป่วยเอดส์สะสมตั้งแต่เริ่มระบาดเมื่อปี 2531 จำนวน 24,027 ราย ซึ่งสูงเป็นอันดับที่ 3 ของประเทศ ในจำนวนนี้เสียชีวิตไปแล้วประมาณครึ่งหนึ่ง
รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ระบุว่า จำนวนผู้ป่วยใหม่ที่ลดลงเป็นผลมาจากความก้าวหน้าทางการแพทย์ร่วมกับการดำเนินการอย่างจริงจังของทุกภาคส่วน ขณะที่การที่เข้ารับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ แม้จะไม่หายขาดแต่ก็ทำให้ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตในสังคมได้ ทำให้ภาพผู้ป่วยเอดส์ที่ดูน่ากลัวหายไปจากสังคม จนหลายคนเข้าใจว่าเอดส์ไม่เป็นปัญหาสังคมอีกแล้ว
ทั้งนี้ ความเข้าใจดังกล่าวเป็นการเข้าใจผิด เพราะในความเป็นจริงยังคงมีผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์รายใหม่อยู่เรื่อยๆ เนื่องจากเชื้อเอชไอวีใช้เวลานาน 7-10 ปี หลังจากเข้าสู่ร่างกายจนถึงมีอาการป่วย จึงมีผู้ที่ได้รับเชื้อเอชไอวีจำนวนมากที่ไม่รู้ว่าติดเชื้อ เนื่องจากไม่เคยตรวจเลือด ซึ่งกลุ่มนี้อาจจะแพร่เชื้อโดยไม่รู้ตัวและขาดโอกาสการเข้ารับการดูแลที่เหมาะสม ซึ่งเป็นเรื่องน่าห่วงและต้องเร่งรณรงค์สร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง
