สธ. แจง “นายซีเซ” ชาวเซียร์ราลีโอนไม่ได้ติดเชื้ออีโบลา แต่อยู่ระยะเวลา 21 วันต้องเฝ้าระวังโรค เผยต้องแจ้งจับเพราะหลบหนีการติดตามตามกฎหมาย คาดยังอยู่ใน กทม. ด้าน WHO ห่วงเซียร์ราลีโอนผู้ติดเชื้อพุ่งสัปดาห์ละพันคน จับตามาลีหลังระบาดรอบ 2
จากกรณีที่ นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อ กรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เข้าแจ้งความที่ สน.ยานนาวา เมื่อวันที่ 21 พ.ย. ที่ผ่านมา ว่า นายซีเซ ซามูลเอล อายุ 31 ปี ชาวสาธารณรัฐเซียร์ราลีโอน เป็นผู้ต้องติดตามสถานการณ์ด้านสุขภาพอย่างต่อเนื่อง 21 วัน เพื่อป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา หลังจากเดินทางจากประเทศติดเชื้อเข้ามาประเทศไทยเมื่อวันที่ 13 พ.ย. และหายตัวไปจากโรงแรมโหมดสาทรนั้น ล่าสุด วันนี้ (24 พ.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัด สธ. ได้ประชุมวอร์รูม “มาตรการติดตามเฝ้าระวังโรคอีโบลา” โดยด่วน โดยมี นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ ผอ.สำนักระบาดวิทยา นพ.รุ่งเรือง และ นพ.ศุภมิตร ชุณห์สุทธิวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิ คร. เข้าร่วมประชุมด่วน
นพ.วชิระ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า นายซีเซ เข้ามาประเทศไทยวันแรกเมื่อวันที่ 15 พ.ย. จากการวัดอุณหภูมิ สอบประวัติแล้วไม่พบว่าเข้าข่ายผิดปกติ จึงได้นำตัวไปส่งยังโรงแรมที่พัก แต่นายซีเซ กลับไม่ได้รายงานตัวเข้าพักที่โรงแรมดังกล่าว และหายจากการติดตามตัวของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ดังนั้น จึงได้อาศัยอำนาจตามมาตรา 8 พ.ร.บ. โรคติดต่อ พ.ศ. 2523 แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้มีอำนาจในการเรียกตัวชายคนดังกล่าวให้มารายงานตัว ตามมาตรการควบคุมป้องกันโรคของ สธ. อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ไม่มีอะไรน่าห่วง เพราะชายคนนี้สุขภาพแข็งแรง เพียงแต่ไม่ปฏิบัติตามกฎการเฝ้าระวังโรคติดต่อของไทย จึงต้องแจ้งความให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามตัวมารายงาน และเฝ้าระวังโรคเพื่อป้องกันตัวเขาเองและประชาชนไทยด้วย เมื่อพบตัวแล้วจะต้องมีการเสียค่าปรับไม่เกิน 2,000 บาท
“ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้เฝ้าระวังผู้ที่เดินทางมาจากแอฟริกาจำนวนกว่า 3,000 คน ซึ่งทุกรายได้ผ่านการตรวจสอบประวัติ ตรวจวัดอุณหภูมิ และจัดส่งตัวถึงโรงแรมที่พักทุกราย ทั้งนี้ จากการติดตามการเดินทางไปยังพื้นที่ต่างๆ ของประเทศพบว่า อาศัยอยู่ที่พื้นที่ กทม. 70% ภูเก็ต 10% จันทบุรี 7% และชลบุรี 5% ล่าสุด เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้เดินทางเข้ามาในประเทศไทย 8 คน และหายไปจากการติดตาม 1 คน ซึ่ง 7 คนที่เหลือปฏิบัติตามกฎการเฝ้าระวังโรคติดต่อเป็นอย่างดี” รองปลัด สธ. กล่าว
นพ.วชิระ กล่าวว่า ขณะนี้องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้รายงานสถานการณ์การติดเชื้อไวรัสอีโบลาเริ่มชะลอตัวในประเทศไลบีเรีย และ กินี โดยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพียง 100 - 200 คนต่อสัปดาห์ แต่ประเทศเซียร์ราลีโอนยังน่าเป็นห่วง โดยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่สูง 1,000 คนต่อสัปดาห์ และทั่วโลกกำลังเป็นห่วงและจับตาอย่างใกล้ชิดที่เมืองบามาโก เมืองหลวงของประเทศมาลี เนื่องจากพบการติดเชื้อรอบที่ 2 ของปี นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีการหารือถึงแนวทางการเข้าตรวจพิสูจน์ศพชาวต่างชาติที่เสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ และวิธีการจัดการศพ ซึ่งขณะนี้ได้จัดทำแนวปฏิบัติเรียบร้อยแล้วอยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียด เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับหลายภาคส่วน ก่อนจะประกาศใช้อย่างเป็นทางการ
ด้าน นพ.รุ่งเรือง กล่าวว่า นายซีเซ่ อายุ 31 ปี แจ้งเข้าประเทศไทยว่ามาทำธุรกิจ ซึ่งจากการประสานงานกับผู้กำกับการ สน.ยานนาวา เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมายังไม่พบแหล่งที่อยู่ของชายคนดังกล่าว แต่เชื่อว่ายังอยู่ในประเทศไทย เนื่องจากยังไม่พบหลักฐานการเดินทางออกนอกประเทศ และคาดว่า น่าจะยังอยู่ในพื้นที่ กทม. อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้ประชาชนกังวล เพราะยืนยันว่าชายคนนี้เป็นคนที่แข็งแรง จากการตรวจสอบก็ไม่พบเชื้อไวรัสอีโบลาแต่อย่างใด เพียงแต่อยู่ในรายชื่อที่ต้องเฝ้าระวังในระยะ 21 วันเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการตรวจหาเชื้อไวรัสในน้ำอสุจิด้วยหรือไม่ เพราะเกรงว่าจะมีเชื้อหลบซ่อนแล้วอาจะไปมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงคนอื่นๆ ได้ นพ.รุ่งเรือง กล่าวว่า ไม่ได้มีการตรวจหาเชื้อในอสุจิ เนื่องจากชายคนนี้เป็นคนแข็งแรง และไม่เคยมีประวัติว่าเคยติดเชื้อมาก่อน แต่กรณีประเทศอินเดียตรวจเจอเชื้อไวรัสในอสุจิของชายที่เดินทางมาจากประเทศเสี่ยง เพราะเจ้าตัวรายงานต่อประเทศอินเดียว่าเคยติดเชื้อมาก่อน ดังนั้น ในส่วนของประเทศไทยเองถ้าไม่มีประวัติว่าติดเชื้อมาก่อนก็ไม่ได้ทำการตรวจหาเชื้อในน้ำอสุจิ และองค์การอนามัยโลกก็ไม่ได้แนะนำให้ใช้แนวทางนี้
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
จากกรณีที่ นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อ กรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เข้าแจ้งความที่ สน.ยานนาวา เมื่อวันที่ 21 พ.ย. ที่ผ่านมา ว่า นายซีเซ ซามูลเอล อายุ 31 ปี ชาวสาธารณรัฐเซียร์ราลีโอน เป็นผู้ต้องติดตามสถานการณ์ด้านสุขภาพอย่างต่อเนื่อง 21 วัน เพื่อป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา หลังจากเดินทางจากประเทศติดเชื้อเข้ามาประเทศไทยเมื่อวันที่ 13 พ.ย. และหายตัวไปจากโรงแรมโหมดสาทรนั้น ล่าสุด วันนี้ (24 พ.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัด สธ. ได้ประชุมวอร์รูม “มาตรการติดตามเฝ้าระวังโรคอีโบลา” โดยด่วน โดยมี นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ ผอ.สำนักระบาดวิทยา นพ.รุ่งเรือง และ นพ.ศุภมิตร ชุณห์สุทธิวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิ คร. เข้าร่วมประชุมด่วน
นพ.วชิระ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า นายซีเซ เข้ามาประเทศไทยวันแรกเมื่อวันที่ 15 พ.ย. จากการวัดอุณหภูมิ สอบประวัติแล้วไม่พบว่าเข้าข่ายผิดปกติ จึงได้นำตัวไปส่งยังโรงแรมที่พัก แต่นายซีเซ กลับไม่ได้รายงานตัวเข้าพักที่โรงแรมดังกล่าว และหายจากการติดตามตัวของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ดังนั้น จึงได้อาศัยอำนาจตามมาตรา 8 พ.ร.บ. โรคติดต่อ พ.ศ. 2523 แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้มีอำนาจในการเรียกตัวชายคนดังกล่าวให้มารายงานตัว ตามมาตรการควบคุมป้องกันโรคของ สธ. อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ไม่มีอะไรน่าห่วง เพราะชายคนนี้สุขภาพแข็งแรง เพียงแต่ไม่ปฏิบัติตามกฎการเฝ้าระวังโรคติดต่อของไทย จึงต้องแจ้งความให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามตัวมารายงาน และเฝ้าระวังโรคเพื่อป้องกันตัวเขาเองและประชาชนไทยด้วย เมื่อพบตัวแล้วจะต้องมีการเสียค่าปรับไม่เกิน 2,000 บาท
“ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้เฝ้าระวังผู้ที่เดินทางมาจากแอฟริกาจำนวนกว่า 3,000 คน ซึ่งทุกรายได้ผ่านการตรวจสอบประวัติ ตรวจวัดอุณหภูมิ และจัดส่งตัวถึงโรงแรมที่พักทุกราย ทั้งนี้ จากการติดตามการเดินทางไปยังพื้นที่ต่างๆ ของประเทศพบว่า อาศัยอยู่ที่พื้นที่ กทม. 70% ภูเก็ต 10% จันทบุรี 7% และชลบุรี 5% ล่าสุด เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้เดินทางเข้ามาในประเทศไทย 8 คน และหายไปจากการติดตาม 1 คน ซึ่ง 7 คนที่เหลือปฏิบัติตามกฎการเฝ้าระวังโรคติดต่อเป็นอย่างดี” รองปลัด สธ. กล่าว
นพ.วชิระ กล่าวว่า ขณะนี้องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้รายงานสถานการณ์การติดเชื้อไวรัสอีโบลาเริ่มชะลอตัวในประเทศไลบีเรีย และ กินี โดยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพียง 100 - 200 คนต่อสัปดาห์ แต่ประเทศเซียร์ราลีโอนยังน่าเป็นห่วง โดยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่สูง 1,000 คนต่อสัปดาห์ และทั่วโลกกำลังเป็นห่วงและจับตาอย่างใกล้ชิดที่เมืองบามาโก เมืองหลวงของประเทศมาลี เนื่องจากพบการติดเชื้อรอบที่ 2 ของปี นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีการหารือถึงแนวทางการเข้าตรวจพิสูจน์ศพชาวต่างชาติที่เสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ และวิธีการจัดการศพ ซึ่งขณะนี้ได้จัดทำแนวปฏิบัติเรียบร้อยแล้วอยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียด เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับหลายภาคส่วน ก่อนจะประกาศใช้อย่างเป็นทางการ
ด้าน นพ.รุ่งเรือง กล่าวว่า นายซีเซ่ อายุ 31 ปี แจ้งเข้าประเทศไทยว่ามาทำธุรกิจ ซึ่งจากการประสานงานกับผู้กำกับการ สน.ยานนาวา เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมายังไม่พบแหล่งที่อยู่ของชายคนดังกล่าว แต่เชื่อว่ายังอยู่ในประเทศไทย เนื่องจากยังไม่พบหลักฐานการเดินทางออกนอกประเทศ และคาดว่า น่าจะยังอยู่ในพื้นที่ กทม. อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้ประชาชนกังวล เพราะยืนยันว่าชายคนนี้เป็นคนที่แข็งแรง จากการตรวจสอบก็ไม่พบเชื้อไวรัสอีโบลาแต่อย่างใด เพียงแต่อยู่ในรายชื่อที่ต้องเฝ้าระวังในระยะ 21 วันเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการตรวจหาเชื้อไวรัสในน้ำอสุจิด้วยหรือไม่ เพราะเกรงว่าจะมีเชื้อหลบซ่อนแล้วอาจะไปมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงคนอื่นๆ ได้ นพ.รุ่งเรือง กล่าวว่า ไม่ได้มีการตรวจหาเชื้อในอสุจิ เนื่องจากชายคนนี้เป็นคนแข็งแรง และไม่เคยมีประวัติว่าเคยติดเชื้อมาก่อน แต่กรณีประเทศอินเดียตรวจเจอเชื้อไวรัสในอสุจิของชายที่เดินทางมาจากประเทศเสี่ยง เพราะเจ้าตัวรายงานต่อประเทศอินเดียว่าเคยติดเชื้อมาก่อน ดังนั้น ในส่วนของประเทศไทยเองถ้าไม่มีประวัติว่าติดเชื้อมาก่อนก็ไม่ได้ทำการตรวจหาเชื้อในน้ำอสุจิ และองค์การอนามัยโลกก็ไม่ได้แนะนำให้ใช้แนวทางนี้
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
