รอยเตอร์ - เจ้าหน้าที่มาลีในวันพุธ(12พ.ย.) กักกันโรคประชาชนหลายสิบคนที่คลิกนิกและบ้านพักของพยาบาลวัย 25 ปีที่เสียชีวิตจากอีโบลาในกรุงบามาโก หลังบุรุษพยาบาลรายดังกล่าวเป็นผู้ดูแลอิหม่ามคนหนึ่งที่ต้องสงสัยว่าอาจป่วยตายด้วยไวรัสมรณะชนิดนี้เช่นกัน ท่ามกลางความกังวลว่าอีโบลาอาจกำลังระบาดโดยไม่มีใครสืบทราบมาก่อนในดินแดนแห่งนี้
อิหม่ามรายดังกล่าวที่มาจากเมืองโคอูเรมาเล ตามแนวชายแดน ไม่เคยผ่านการตรวจโรคอีโบลา และมีการอาบน้ำศพของเขาในมาลี ก่อนส่งกลับไปฝังในกินี โดยปราศจากมาตรการป้องกันไว้รัสมรณะใดๆ
เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์เผยว่ามีบุคคลอื่นอีกรายที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกับอิหม่ามรายนี้ในกรุงบามาโก เสียชีวิตเมื่อช่วงต้นสัปดาห์และถูกฝังโดยไม่ผ่านการตรวจโรคเช่่นกัน ขณะที่แพทย์คนหนึ่งซึ่งทำงานในคลินิกเดียวกับบุรุษพยาบาล ก็ต้องสสัยว่าอาจติดเชื้ออีโบลาด้วย
เวลานี้ มาลี ประเทศแอฟริกาตะวันตกชาติที่ 6 ที่พบผู้ติดเชื้ออีโบลา กำลังแกะรอยตามหาคนกลุ่มใหม่ที่ต้องสงสัยติดเชื้อจากบุรุษพยาบาล ขณะที่กลุ่มคนที่มีความเชื่อมโยงกับผู้ติดเชื้อรายแรกของประเทศ ซึ่งเป็นเด็กหญิงวัย 2 ขวบและเสียชีวิตเมื่อเดือนที่แล้ว เพิ่งพ้นจากมาตรการกักกันโรค 21 วันในวันอังคาร(11พ.ย.)
มีความกังวลมากขึ้นเรื่อยๆต่อช่วงเวลาที่อิหม่ามล้มป่วยกับมาตรการยับยั้งอีโบลาที่เพิ่งมีผลบังคับใช้ โดยดอกเตอร์แซมบา โชว์ หัวหน้าหน่วยตอบสนองอีโบลาของมาลี เผยว่าอิหม่ามรายนี้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม หรือ 2 วันหลังจากเข้ารักษาตัวที่คลินิกเท่านั้น
"กรณีนี้แสดงให้เห็นว่าการฝึกฝนคณะแพทย์และพยาบาลในโบมาโกยังไม่เพียงพอ การฝึกฝนควรทำมาตั้งแต่ 6 เดือนก่อนแล้ว" เจ้าหน้าที่สาธารณสุขคนหนึ่งบอกับรอยเตอร์
รัฐบาลระบุในถ้อยแถลงในวันพุธ(12พ.ย.) ว่าบุรุษพยาบาลรายนี้ได้รับคำยืนยันว่าติดเชื้ออีโบลาในวันอังคาร(11พ.ย.) และเสียชีวิตในช่วงค่ำวันเดียวกันนั้น พร้อมบอกว่าจะใช้ทุกมาตรการที่จำเป็นเพื่อระบุตัวกลุ่มคนที่สัมผัสใกล้ชิดกับพยาบาลรายดังกล่าว
อุสมาเน โดอุมเบีย เจ้าหน้าที่ระดับสูงกระทรวงสาธารณสุขมาลี บอกว่ามีประชาชนอยู่ภายใต้มาตรการกักกันโรค 70 คนและตำรวจเข้าปิดการเข้่าออกคลินิกตั้งแต่คืนวันอังคาร(11พ.ย.)
มาลี มีชายแดนติดกับกินีเป็นระยะทางกว่า 800 กิโลเมตร ขณะที่กินี เป็นหนึ่งใน 3 ชาติของแอฟริกาตะวันตกร่วมกับไลบีเรียและเซียร์ราลีโอน ที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุดจากการแพร่ระบาดของอีโบลาครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ที่คร่าชีวิตผู้คนแล้วเกือบ 5,000 ศพ