เอเอฟพี/รอยเตอร์ - องค์การอนามัยโลก (WHO) เผยเมื่อวันพุธ (12 พ.ย.) ยอดผู้เสียชีวิตอีโบลาเพิ่มเป็น 5,160 ศพใน 8 ประเทศ จากผู้ติดเชื้อทั้งหมด 14,098 คน แต่พบเห็นอัตราการติดเชื้อชะลอตัวลงในกินีและไลบีเรีย อย่างไรก็ตามยอมรับว่าตัวเลขเหยื่อที่แท้จริงอาจสูงกว่านี้มาก
ตัวเลขดังกล่าวถือว่าเพิ่มขึ้นในอัตราที่ไม่สูงนักจากข้อมูลล่าสุดที่องค์การอนามัยโลกเผยแพร่เมื่อวันศุกร์ (7 พ.ย.) ที่แล้ว โดยคราวนั้นยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 4,960 คนจากผู้ติดเชื้อ 13,268 ราย อย่างไรก็ตาม องค์กรสาธารณสุขของสหประชาชาติแห่งนี้ยอมรับว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจจะสูงกว่านี้มาก เนื่องจากอัตราการตายของเหยื่อในการแพร่ระบาดปัจจุบันสูงถึงร้อยละ 70
“มีหลักฐานบางอย่างชี้ว่าอัตรการการติดเชื้อไม่ได้เพิ่มขึ้นอีกแล้วในกินีและไลบีเรีย แต่ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในเซียร์ราลีโอน” องค์การอนามัยโลกระบุในถ้อยแถลง “อย่างไรก็ตามกรณีผู้ติดเชื้อและยอดผู้เสียชีวิตของการแพร่ระบาดครั้งนี้ยังต่ำกว่าความเป็นจริง”
ถ้อยแถลงขององค์การอนามัยโลกบอกว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในเซียร์ราลีโอน ในรอบสัปดาห์จนถึงวันที่ 9 พฤศจิกายน จำนวน 421 คน โดยเฉพาะทางตะวันตกและทางภาคเหนือ ส่วนในมาลี หน่วยงานสาธารณสุขของสหประชาชาติแห่งนี้บอกว่าพบผู้ติดเชื้อและกรณีต้องสงสัยติดเชื้อเพิ่มเติมอีก 3 คน แต่ทั้งหมดไม่เกี่ยวข้องกับเด็กหญิงวัย 2 ขวบจากกินี ซึ่้งเป็นผู้ติดเชื้อคนแรกของประเทศ
เวลานี้มีประชาชนมากกว่า 90 คนถูกกักกันโรคทั่วเมืองหลวงของมาลีในวันพุธ (12 พ.ย.) ตามหลังบุรุษพยาบาลวัย 25 ปี เสียชีวิตด้วยพิษไข้อีโบลา หลังทำหน้าที่ดูแลผู้ป่วยชาวกินีที่มีอาการต้องสงสัยว่าอาจติดเชื้อไวรัสมรณะชนิดนี้
ในขณะที่การแพร่ระบาดของอีโบลาครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ ยังส่งผลกระทบต่อกินี ไลบีเรีย และเซียร์ราลีโอนหนักหน่วงที่สุด มีรายงานพบผู้ติดเชื้อ 30 คนและเสียชีวิต 13 ราย ในประเทศอื่นๆ 5 ชาติ อันได้แก่ ไนจีเรีย เซเนกัล มาลี สเปน และสหรัฐฯ
จากข้อมูลล่าสุดพบว่า ยอดผู้เสียชีวิตในไลบีเรีย เพิ่มเป็น 2,836 ราย จากผู้ติดเชื้อ 6,822 คน ส่วนเซียร์ราลีโอน มีผู้ติดเชื้อ 5,368 คน เสียชีวิต 1,169 ราย ขณะที่ในกินี เสียชีวิต 1,142 รายจากผู้ติดเชื้อ 1,878 คน
ตัวเลขของไนจีเรียและเซเนกัลไม่เปลี่ยนแปลง โดยไนจีเรียเสียชีวิต 8 รายจากผู้ติดเชื้อ 20 คน ส่วนเซเนกัล พบผู้ติดเชื้อแค่รายเดียวและไม่มีใครเสียชีวิต ขณะที่ทั้งสองชาติได้รับการประกาศให้ปลอดจากอีโบลาตั้งแต่เดือนที่แล้ว
ส่วนสเปน พบผู้ติดเชื้อ 1 ราย เป็นพยาบาล และตอนนี้เธอหายจากอาการป่วยแล้ว ขณะที่สหรัฐฯ พบผู้ติดเชื้อทั้งหมด 4 คน โดยหนึ่งในนั้นชายชาวไลบีเรียเสียชีวิตจากไวรัสมรณะชนิดนี้
“อีโบลา” จะติดต่อผ่านการสัมผัสกับสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อที่แสดงอาการป่วยต่างๆ อย่างเช่นเป็นไข้หรืออาเจียนแล้วเท่านั้น เพราะฉะนั้นบุคคลที่ดูแลคนไข้หรือจัดการกับศพของผู้ป่วยอีโบลา จึงเป็นกลุ่มเสี่ยงที่สุด และในรายงานขององค์การอนามัยโลกวันพุธ (12 พ.ย.) มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขติดเชื้อไวรัสมรณะรวม 564 คน ในนั้นมีถึง 320 คนที่เสียชีวิตแล้ว