เอเอฟพี - องค์การอนามัยโลกอัพเดทข้อมูลล่าสุดเมื่อวันศุกร์ (7 พ.ย.) ระบุยอดผู้ติดเชื้ออีโบลาเพิ่มเป็น 13,268 รายใน 8 ประเทศ ในนั้นเสียชีวิต 4,960 คนและจำนวนหลายร้อยคนเป็นบุคลากรด้านการแพทย์
ตัวเลขข้างต้นถือว่าปรับขึ้นพอสมควรจากข้อมูลเมื่อวันพุธ (5 พ.ย.) ที่พบผู้ติดเชื้อ 13,042 คนและเสียชีวิต 4,181 ราย อย่างไรก็ตาม ทางหน่วยงานสาธารณสุขของสหประชาชาติ ยอมรับว่ายอดผู้เสียชีวิตแท้ที่จริงน่าจะสูงกว่านี้มาก เนื่องจากเข้าใจว่าอัตราการตายของการแพร่ระบาดครั้งปัจจุบันน่าจะอยู่ราวๆร้อยละ 70
เหล่าประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุดจากการระบาดของอีโบลาครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ ยังเป็นไลบีเรีย กินี และเซียร์ราลีโอน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไลบีเรีย ที่พบผู้เสียชีวิตแล้วถึง 2,766 ราย จากผู้ติดเชื้อทั้งหมด 6,619 คน
ในเซียร์ราลีโอน พบผู้ติดเชื้อ 4,862 ราย ในนั้นเสียชีวิต 1,130 คน ส่วนกินี มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1,054 ราย จากผู้ติดเชื้อ 1,760 คน ส่วนข้อมูลจากไนจีเรียกับเซเนกัล 2 ชาติที่ได้รับการประกาศว่าปลอดเชื้ออีโบลาแล้ว ไม่เปลี่ยนแปลง โดยไนจีเรีย ยอดสรุปอยู่ที่ติดเชื้อ 20 รายเสียชีวิต 8 คน ด้านเซเนกัล ติดเชื้อคนเดียวและไม่มีผู้เสียชีวิต
ขณะเดียวกัน ที่ มาลี มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นเด็กหญิงวัย 2 ขวบที่เดินทางมาจากกินี ส่วนสเปน พบผู้ติดเชื้อ 1 ราย เป็นพยาบาล และตอนนี้เธอหายจากอาการป่วยแล้ว ขณะที่สหรัฐฯ พบผู้ติดเชื้อทั้งหมด 4 คน โดยหนึ่งในนั้นชายชาวไลบีเรียเสียชีวิตจากไวรัสมรณะชนิดนี้
อีโบลา จะติดต่อผ่านการสัมผัสกับสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อที่แสดงอาการป่วยต่างๆ อย่างเช่นเป็นไข้หรืออาเจียนแล้วเท่านั้น เพราะฉะนั้นบุคคลที่ดูแลคนไข้หรือจัดการกับศพของผู้ป่วยอีโบลา จึงเป็นกลุ่มเสี่ยงที่สุด และในรายงานขององค์การอนามัยโลกวันศุกร์ (7 พ.ย.) มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขติดเชื้อไวรัสมรณะรวม 549 คน ในนั้นมีถึง 311 คนที่เสียชีวิตแล้ว