องค์การอนามัยโลกเมื่อวันพุธ(22ต.ค.) เผยแพร่ข้อมูลชุดปรับปรุงล่าสุด ระบุยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสมรณะขยับเข้าใกล้ 4,900 คน จากผู้ติดเชื้อเกือบๆ 10,000 คนแล้ว
ในข้อมูลล่าสุด องค์การอนามัยโลกบอกว่าจนถึงวันที่ 19 ตุลาคม มีผู้เสียชีวิตจากอีโบลา 4,877 คน จากผู้ติดเชื้อทั้งหมด 9,936 คนใน 7 ประเทศ เพิ่มจากเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ที่หนนั้นยอดผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 9,216 คน เสียชีวิต 4,555 ราย
อย่างไรก็ตามองค์การอนามัยโลกย้ำว่าการเพิ่มขึ้นอย่างมากของจำนวนผู้เสียชีวิตและผู้ติดเชื้อ ไม่ได้หมายความว่าการแพร่ระบาดหนักหน่วงขึ้นอย่างผิดสังเกต แต่สะท้อนถึงการนับที่ล่าช้า สืบเนื่องจากสภาพการณ์ที่ยุ่งยากในเหล่าชาติแอฟริกาตะวันตก
ตามข้อมูลขององค์การอนามัยโลกนั้นได้แบ่ง 7 ประเทศที่ได้รับผลกระทบออกเป็น 2 กลุ่ม ซึ่งกลุ่มแรกประกอบด้วยกินี ไลบีเรียและเซียร์ราลีโอน เหล่าชาติที่ได้รับผลกระทบหนักหล่วงที่สุด โดยไลบีเรีย จนถึงวันที่ 19 ตุลาคม พบผู้ติดเชื้อ 4,665 ราย เสียชีวิต 2,705 คน ส่วนเซียร์ราลีโอน มีผู้เสียชีวิต 1,259 คน จากผู้ติดเชื้อ 3,706 ราย และกินี จุดเริ่มต้นของการแรพ่ระบาด ยอดผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 1,540 คน เสียชีวิต 904 ราย
ในส่วนของกลุ่มที่สองนั้น ประกอบไปด้วยเหล่าประเทศที่พบผู้ติดเชื้อจำนวนเล็กน้อย ในที่นี้รวมถึงเซเนกัลและไนจีเรีย ที่องค์การอนามัยโลกเพิ่งประกาศให้เป็นดินแดนปลอดอีโบลาก่อนหน้านี้ในวันศุกร์(17ต.ค.) และวันจันทร์(20ต.ค.) ตามลำดับ
นอกจาก 2 ประเทศข้างต้น ในกลุ่มนี้ยังประกอบด้วย สเปน ที่พบพยาบาลนางหนึ่งติดเชื้อจากมิสชันนารีที่เธอให้การดูแลและเสียชีวิตจากอีโบลาไม่นานหลังถูกส่งตัวกลับมาจากไลบีเรีย เช่นเดียวกับสหรัฐฯ ที่พบพยาบาล 2 คนติดเชื้ออีโบลา หลังเป็นหนึ่งในคณะดูแลชายนายโธมัส เอริค ดันแคน ชายชาวไลบีเรีย ผู้ติดเชื้ออีโบลารายแรกที่แสดงอาการบนแผ่นดินอเมริกา ขณะที่ผู้ป่วยรายนี้เสียชีวิตไปแล้วเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม
ในข้อมูลล่าสุด องค์การอนามัยโลกบอกว่าจนถึงวันที่ 19 ตุลาคม มีผู้เสียชีวิตจากอีโบลา 4,877 คน จากผู้ติดเชื้อทั้งหมด 9,936 คนใน 7 ประเทศ เพิ่มจากเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ที่หนนั้นยอดผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 9,216 คน เสียชีวิต 4,555 ราย
อย่างไรก็ตามองค์การอนามัยโลกย้ำว่าการเพิ่มขึ้นอย่างมากของจำนวนผู้เสียชีวิตและผู้ติดเชื้อ ไม่ได้หมายความว่าการแพร่ระบาดหนักหน่วงขึ้นอย่างผิดสังเกต แต่สะท้อนถึงการนับที่ล่าช้า สืบเนื่องจากสภาพการณ์ที่ยุ่งยากในเหล่าชาติแอฟริกาตะวันตก
ตามข้อมูลขององค์การอนามัยโลกนั้นได้แบ่ง 7 ประเทศที่ได้รับผลกระทบออกเป็น 2 กลุ่ม ซึ่งกลุ่มแรกประกอบด้วยกินี ไลบีเรียและเซียร์ราลีโอน เหล่าชาติที่ได้รับผลกระทบหนักหล่วงที่สุด โดยไลบีเรีย จนถึงวันที่ 19 ตุลาคม พบผู้ติดเชื้อ 4,665 ราย เสียชีวิต 2,705 คน ส่วนเซียร์ราลีโอน มีผู้เสียชีวิต 1,259 คน จากผู้ติดเชื้อ 3,706 ราย และกินี จุดเริ่มต้นของการแรพ่ระบาด ยอดผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 1,540 คน เสียชีวิต 904 ราย
ในส่วนของกลุ่มที่สองนั้น ประกอบไปด้วยเหล่าประเทศที่พบผู้ติดเชื้อจำนวนเล็กน้อย ในที่นี้รวมถึงเซเนกัลและไนจีเรีย ที่องค์การอนามัยโลกเพิ่งประกาศให้เป็นดินแดนปลอดอีโบลาก่อนหน้านี้ในวันศุกร์(17ต.ค.) และวันจันทร์(20ต.ค.) ตามลำดับ
นอกจาก 2 ประเทศข้างต้น ในกลุ่มนี้ยังประกอบด้วย สเปน ที่พบพยาบาลนางหนึ่งติดเชื้อจากมิสชันนารีที่เธอให้การดูแลและเสียชีวิตจากอีโบลาไม่นานหลังถูกส่งตัวกลับมาจากไลบีเรีย เช่นเดียวกับสหรัฐฯ ที่พบพยาบาล 2 คนติดเชื้ออีโบลา หลังเป็นหนึ่งในคณะดูแลชายนายโธมัส เอริค ดันแคน ชายชาวไลบีเรีย ผู้ติดเชื้ออีโบลารายแรกที่แสดงอาการบนแผ่นดินอเมริกา ขณะที่ผู้ป่วยรายนี้เสียชีวิตไปแล้วเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม