สุรินทร์ - กรรมการบริหารสหกรณ์ตำรวจสุรินทร์ฉาวโกง 168 ล้าน เรียกประชุมแจงสมาชิก กรณีไม่จ่ายเงินปันผลประจำปีและปัญหาการทุจริตภายในสหกรณ์ ท่ามกลาง ตร.สมาชิกสหกรณ์เข้าร่วมประชุมกว่า 300 คนจากทั้งหมดกว่า 2,000 คน ท่ามกลางความตึงเครียดและเสียงโห่ สุดท้ายไร้ข้อสรุปไม่มีความชัดเจนทั้งเงินปันผลและการทุจริต อ้างอยู่ระหว่างตรวจสอบเช่นเคย
เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (28 พ.ย.) ที่หอประชุมจังหวัดสุรินทร์ หน้าที่ว่าการอำเภอเมืองสุรินทร์ ทางกรรมการบริหารสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ได้เรียกประชุมสมาชิกสหกรณ์ฯ ซึ่งเป็นข้าราชการตำรวจ และข้าราชการตำรวจบำนาญในพื้นที่ จ.สุรินทร์ เพื่อชี้แจงการดำเนินงานของสหกรณ์ หลังจากเมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมามีกลุ่มสมาชิกสหกรณ์กว่า 50 คนเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนร้องทุกข์ต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุรินทร์ ขอให้ช่วยเหลือแก้ปัญหาความเดือดร้อนและตรวจสอบสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ ที่ไม่มีการเรียกประชุมสามัญและจ่ายเงินปันผลประจำปี ซึ่งเชื่อว่าเกิดการทุจริตภายในสหกรณ์ มีเงินสูญหายไปเป็นจำนวนมากถึง 168 ล้านบาท
โดยมี พล.ต.ต.กาญจน์พศ ชัยศิริชาญพนา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) สุรินทร์ ประธานที่ปรึกษาสหกรณ์ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ พ.ต.อ.ณัฐคมน์ พร้อมสันเทียะ ประธานกรรมการสหกรณ์ฯ พ.ต.อ.อภิชาติ แจ้งจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.สุรินทร์ รองประธานกรรมการสหกรณ์ฯ พ.ต.ท.บุญรอด เจริญยิ่ง กรรมการและเหรัญญิก พ.ต.ท.วรพงษ์ มดทอง กรรมการและเลขานุการ นางสาวอารีรัตน์ สมานดุษนี ผู้ตรวจสอบกิจการสหกรณ์ฯ นางอมรรัตน์ เอกอนันต์วงศ์ หัวหน้าสำนักงานตรวจบัญชี นายสุจินดา อภัยจิตต์ ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมสหกรณ์ พื้นที่ 1 และ นายวิโรจน์ ภู่ไพบูลย์ สหกรณ์จังหวัดสุรินทร์ ได้ร่วมเข้าประชุมชี้แจงทำความเข้าใจกับสมาชิก และผลการดำเนินงานของสหกรณ์ ตามที่มีการร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรม ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ ดังกล่าว
มีสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ เข้าร่วมรับฟังคำชี้แจงจำนวน กว่า 300 คน จากจำนวนสมาชิกสหกรณ์ทั้งหมดกว่า 2,000 คน และบรรยากาศการประชุมค่อนข้างตึงเครียด ทั้งฝ่ายผู้ชี้แจงและสมาชิกที่เข้าร่วมประชุมใบหน้าเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด อีกทั้งมีการส่งเสียงโห่ฮา และปรบมือเป็นระยะๆ หลังจากฟังการชี้แจงของคณะกรรมการบริหารสหกรณ์
พ.ต.ท.วิโรจน์ มาลีแก้ว ข้าราชการตำรวจบำนาญ สมาชิกสหกรณ์ฯ ถามกรรมการบริหารสหกรณ์ฯ ว่า สมาชิกจะได้รับเงินปันผลหรือไม่ ทำไมไม่มีการชี้แจงให้สมาชิกรับทราบ เพราะทุกปีในเดือนตุลาคมสมาชิกจะได้รับเงินปันผล และเงินที่หายไปมีจำนวนเท่าไร มีการทุจริตหรือไม่
พ.ต.อ.ณัฐคมน์ พร้อมสันเทียะ ประธานกรรมการสหกรณ์ฯ ชี้แจงว่า ขณะนี้มีการพูดกันไปถึงว่ายอดเงินที่กล่าวหาว่าทุจริตนั้นมียอด 20 ล้าน 30 ล้าน 40 ล้าน 50 ล้าน จนถึง 168 ล้านบาท ไม่ทราบว่าไปเอาตัวเลขมาจากไหน ขณะนี้กำลังมีการตรวจสอบยอดเงินที่กล่าวหาว่าทุจริตโดยผู้ตรวจสหกรณ์ฯ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐอยู่แล้ว ซึ่งปี 2557 นี้เราตรวจสอบไล่ลงไปจนถึงปี 2550 พบการทุจริตในขั้นตอนไหนก็จะดำเนินคดีในขั้นตอนนั้น แต่ขณะนี้ตรวจสอบยังไม่เสร็จ และหากถามว่าเราดำเนินงานสหกรณ์มีกำไรไหมนั้น ตอบว่ามี แต่เรากู้เงินธนาคารมา 1,600 ล้านบาท ต้องเสียดอกเบี้ยร้อยละ 5-6 บาท ซึ่งเป็นในลักษณะบริหารสหกรณ์ฯ จึงขอให้สมาชิกรอการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ก่อนว่าจะมีความเสียหายเท่าไร เพราะขณะนี้ยังตรวจสอบไม่เสร็จ
พล.ต.ต.กาญจน์พศ ชัยศิริชาญพนา ผบก.ภ.จว.สุรินทร์ ประธานที่ปรึกษาสหกรณ์ฯ กล่าวว่า ขอให้รอการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ก่อนจะชี้ให้ชัดเจนลงไป ทางฝ่ายกฎหมายมองว่าใครคนไหนเอาเงินไปก็จะมีการดำเนินคดีอาญา ยักยอก ฉ้อโกง ลักทรัพย์นายจ้าง ในทางแพ่งก็จะมีตามมาด้วย ว่าการฉ้อโกงอยู่ในคณะกรรมการชุดไหน ก็เข้าใจว่าทุกคนอยากได้เงินปันผล ซึ่งคณะกรรมการที่แต่งตั้งเข้ามาตรวจสอบก็จะดำเนินการให้ทราบข้อเท็จจริงว่าการทุจริตในขั้นตอนไหน และวันนี้ที่มีการประชุมชี้แจงก็อยากให้แก้ไขความสงสัยปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะไปร้องเรียนที่ไหน ไปหาใคร ปัญหาก็จะกลับมาหากรรมการบริหารสหกรณ์ มีอะไรก็ขอให้พูดคุยกันในที่ประชุมวันนี้
นายสุจินดา อภัยจิตต์ ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมสหกรณ์ พื้นที่ 1 กล่าวว่า ขณะนี้การดำเนินการตรวจสอบกำลังดำเนินการไปตามกฎหมายบ้านเมือง ตามกระบวนการกฎหมายยุติธรรม ทั้งแจ้งความร้องทุกข์ต่อผู้ทำความเสียหายแก่สหกรณ์ คือ ได้ดำเนินการทางวินัยต่อผู้ทำความเสียหายแก่สหกรณ์ฯ ตามข้อบังคับของสหกรณ์ฯ และดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ต่อผู้ทำความเสียหายแก่สหกรณ์ ซึ่งต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบ จึงขอให้สมาชิกได้รอผลสรุปที่คณะกรรมการสหกรณ์กำลังทำงานอยู่ในขณะนี้
สำหรับกรณีได้มีบุตรข้าราชการตำรวจ สมาชิกสหกรณ์ฯ ที่ผู้เป็นพ่อได้เสียชีวิตไปแล้ว แต่ไม่ได้รับเงินช่วยเหลือจากสหกรณ์ฯ ทั้งที่ได้จ่ายเงินสมทบให้แก่สหกรณ์มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องแบกรับภาระหนี้สินเป็นจำนวนมากนั้น จะต้องกลับไปตรวจสอบระเบียบที่ออกมาใหม่อีกครั้งว่าติดขัดตรงไหน
อย่างไรก็ตาม หลังจากเสร็จสิ้นการประชุม ผู้สื่อข่าวได้สอบถามสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรสุรินทร์หลายคนที่เข้าร่วมประชุมต่างระบุว่า ไม่พอใจการชี้แจงของคณะกรรมการบริหารสหกรณ์ฯ เพราะไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่าจะมีการจ่ายเงินปันผลหรือไม่ การตรวจสอบทุจริตไปถึงไหน ใช้เวลาอีกเท่าไร เงินหายไปเท่าไร และมีคนทำผิดกี่คน มีแต่เพียงคำตอบว่ากำลังให้คณะกรรมการตรวจสอบขั้นตอนการทุจริต อาจมีการลงตัวเลขผิด มีความคลาดเคลื่อนในการลงตัวเลขในบัญชีหรือไม่ ซึ่งสมาชิกยังไม่ได้ความชัดเจนในประเด็นเหล่านี้ ทำให้บางคนถึงกับบอกว่าให้ยุบสหกรณ์ไปเลย ด้วยการคืนเงินต้นแก่สมาชิก
นอกจากนี้ หลายคนบอกว่าตำรวจที่มาฟังการประชุมชี้แจงในวันนี้มีความกดดันจากผู้บังคับบัญชาจึงไม่มีใครกล้าถาม หากใครถามในที่ประชุมจะถูกผู้บังคับบัญชาจดชื่อและสังกัดไว้ ทำให้กดดัน ทุกคนที่มาฟังการชี้แจงต้องการคำตอบที่ชัดเจน แต่วันนี้ผิดหวัง ไม่มีอะไรคืบหน้าเลย ส่วนผู้ที่ลุกขึ้นถามทั้งหมดล้วนเป็นข้าราชการตำรวจบำนาญ หรือเกษียณอายุราชการแล้ว