สุรินทร์ - ตำรวจชุดปราบปราบยาเสพติด จับกุมแก๊งค้ายาบ้าเครือข่ายนักโทษเรือนจำรัตนบุรี สั่งยาบ้าทางโทรศัพท์ให้ชาวลาวส่งยาบ้ามาให้ชาวอุบลราชธานี และชาวยโสธร ขายในพื้นที่ภาคอีสานแล้วโอนเงินค้ายาบ้าเข้าบัญชี จากนั้นเบิกเงินไปให้ชาวลาว ตำรวจใช้เวลากว่า 6 เดือน ในการสืบสวนสอบสวน จนกระทั่งเข้ารวบตัว พร้อมยึดทรัพย์มูลค่า 500 ล้านบาท
วันนี้ (23 พ.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่บริเวณด้านหน้าสำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ พล.ต.ต.กาญจน์พศ ชัยศิริชาญพนา ผบก.ภ.จว.สุรินทร์ ได้แถลงข่าวการจับกุมแก๊งค์ค้ายาบ้า เครือข่ายเรือนจำรัตรบุรี จังหวัดสุรินทร์ สั่งยาบ้าข้ามชาติจาก สปป.ลาว เข้ามาขายในภาคอีสาน ได้ผู้ต้องหา 5 ราย และยึดทรัพย์สินเงินสดในสมุดบัญชี รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน มีมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท
พล.ต.ต.กาญจน์พศ ชัยศิริชาญพนา ผบก.ภ.จว.สุรินทร์ กล่าวว่า วานนี้ (22 พ.ย.) พ.ต.อ.สมพจน์ ขอมปรางค์ รอง ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประภาส ปิยะมงคล รอง ผบก.ภ.จว.สุรินทร์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ พ.ต.ท.วิษณุ อาภรณ์พงษ์ หังหน้าชุด พ.ต.ต.ชาตรี ทรงพระ ร.ต.ต.ฉัตพัฒน์ ภาสดา นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด พร้อมด้วยหมายศาลจังหวัดสุรินทร์ เข้าตรวจค้น และจับกุม นายเทียม พันที อายุ 54 ปี บ้านเลขที่ 154 หมู่ 2 ต.ขามใหญ่ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี นางชมพู พันที อายุ 45 ปี น.ส.ช่อผกา หรือผิ่ง พันที อายุ 20 ปี พักอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน และเข้าจับกุ่มนายพีรเอก หรือสุทธินาถ ครองยุทธ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 229 หมู่ 13 ต.สวาท อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร
จากการสอบสวนทราบว่า เมื่อวันที่ 8 มี.ค. 2557 ชป.ปส.ภ.จว.สุรินทร์ ได้ร่วมกันทำการจับกุมนายเกื้อกูล นัยนิตย์ พร้อมของกลางยาบ้า 125 เม็ด โดยกล่าวหาว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” ซึ่งจากการจับกุมได้ทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลการจับกุมทราบว่า เครือข่ายการค้าได้ติดต่อสั่งซื้อยาบ้ามาจาก สปป.ลาว
โดยมีนักโทษในเรือนจำรัตบุรี เป็นคนติดต่อสั่งการในการจำหน่ายยาเสพติด และธุรกรรมทางเงินซึ่งจากการสืบสวนทราบว่า เครือข่ายนักค้ามีเงินหมุนเวียนจำนวนมาก (ประมาณ 300 ล้านบาท ระหว่างเดือน ต.ค.56-1 มี.ค.57)
พล.ต.ต.กาญจน์พศ ชัยศิริชาญพนา ผบก.ภ.จว.สุรินทร์ ระบุว่า ผู้ที่ถูกเจ้าหน้าที่ทำการจับกุมในครั้งนี้เป็นผลมาจากการจับกุมผู้ต้องหาค้ายาบ้าในเรือนจำรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ เจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลาในการสืบสวนสอบสวนหาแหล่งที่มาของการค้ายาบ้าในเรือนจำรัตนบุรี กว่า 6 เดือน โดยเริ่มจากการสอบปากคำนักโทษชายเอกชน จันทร์พรหม และนักโทษชายเอกชัย ครองยุทธ ที่สั่งยาบ้าจากเรือนจำผ่านทางโทรศัพท์ไปยังผู้ค้ายาบ้าจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว)
จนทราบแน่ชัดว่าผู้ค้ายาบ้าจากประเทศลาวส่งยาบ้ามาให้ นายเทียม พันที ที่ ต.ขามใหญ่ อ.เมือง จ.อุบราชธานี เป็นผู้รับยาบ้ามาพัก และขายส่งต่อ พร้อมทำหน้าที่ทางการเงินนำเงินไปส่งให้ผู้ค้ายาบ้าชาวลาว โดยมี นายเกื้อกูล นัยนิตย์ เป็นผู้ประสานงานการค้ายาบ้า จากนั้นก็จะมีนายสุทธินาถ ครองยุทธ ซึ่งเป็นพี่ชายของนักโทษชายเอกชัย ครองยุทธ ทำหน้าที่รวบรวมเงินที่ค้ายาบ้าได้ส่งเข้าบัญชีธนาคารให้แก่ น.ส.ช่อผกา พันที
จากนั้น น.ส.ช่อผกา พันที ก็จะเบิกเงินเพื่อนำเงินสดออกไปส่งให้แก่ผู้ค้ายาบ้าชาวลาว โดยจะมีการนำเงินไปจ่ายให้ครั้งละ 300,000-400,00 บาท และทำมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา กว่า 1 ปี
สำหรับทรัพย์สินที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดได้เป็นบัญชีเงินสดจำนวนหนึ่ง ทรัพย์สินที่ต้องสงสัยว่าเกี่ยวเนื่อง หรือได้มาจากการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด มีรถยนต์ จำนวน 4 คัน รถ จักรยานยนต์ จำนวน 5 คัน บ้านพร้อมที่ดิน จำนวน 1 หลัง รวมทรัพย์สินที่ตรวจยึดราคาประมาณ 1,608,900 บาท รวมมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท
เจ่าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหาสมคบกันทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และร่วมกันฟอกเงิน ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
