สุรินทร์ - ฉาวโฉ่อีก! ตร.เมืองช้างสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธร จ.สุรินทร์ สุดทนแห่ตบเท้าร้องศูนย์ดำรงธรรมช่วยแก้ปัญหาและตรวจสอบการทุจริตเงินสหกรณ์สูญ 168 ล้าน หลังเดือดร้อนหนักหนี้บาน ชวดเงินปันผล ไม่มีการประชุมใหญ่สามัญ และไร้การชี้แจง ด้านรองผู้การฯ ระบุ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และเข้าควบคุมของผู้ตรวจบัญชีสหกรณ์ จึงไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้
วันนี้ (24 พ.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่บริเวณด้านหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุรินทร์ ชั้นล่างศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ ได้มีข้าราชการตำรวจ และข้าราชการตำรวจบำนาญ สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ กว่า 50 คน นำโดย พ.ต.ท.วิโรจน์ มาลีแก้ว ข้าราชการบำนาญ พร้อมด้วยตัวแทนสมาชิกสหกรณ์ฯ จากสถานีตำรวจภูธร (สภ.) ต่างๆ ทั้ง 17 อำเภอของ จ.สุรินทร์ เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนร้องทุกข์กรณีสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ ไม่มีการเรียกประชุมสามัญประจำปี และจ่ายเงินปันผล ซึ่งเชื่อว่ามีการทุจริตภายในสหกรณ์ฯ แต่ยังไม่ดำเนินคดีจับกุมผู้กระทำความผิด และไม่ทำการชี้แจ้งให้สมาชิกกว่า 2,500 คน ได้รับทราบ ทำให้สมาชิกได้รับความเดือดร้อน
พ.ต.ท.วิโรจน์ มาลีแก้ว ข้าราชการบำนาญ แกนนำกล่าวว่า สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุรินทร์ครั้งนี้ เพื่อต้องการความช่วยเหลือกรณี สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ มีแนวโน้มไปในทางทุจริต เพื่อให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง และนำคนผิดมาลงโทษตามกฎหมาย รวมทั้งให้จัดการประชุมสามัญประจำปี และจ่ายเงินให้สมาชิกสหกรณ์ฯ ที่มีกว่า 2,500 คน ซึ่งกำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากการกู้หนี้ยืมสิน
“ผมและเพื่อนตำรวจหวังว่า ศูนย์ดำรงธรรมจะเป็นที่พึ่งสามารถดำเนินการแก้ปัญหาให้ได้ แต่หากแก้ไขปัญหาไม่ได้พวกเราจะยกระดับการเรียกร้องสูงขึ้นไปอีก และขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งทำการตรวจสอบสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ ว่า มีการทุจริตหรือไม่ ซึ่งคาดว่าจำนวนเงินที่หายไปมีประมาณ 168 ล้านบาท” พ.ต.ท.วิโรจน์ กล่าว
ทางด้าน พ.ต.อ.อภิชาติ แจ้งจันทร์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) สุรินทร์ กรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ปีที่ผ่านมา ผู้ตรวจสอบบัญชีสหกรณ์ของสำนักงานสหกรณ์จังหวัดสุรินทร์ ได้เข้าทำการตรวจสอบ และเข้าควบคุมการทำงานของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ หลังตรวจพบว่า มีเงินขาดบัญชี และขณะนี้ยังไม่มีการสรุปตัวเลขที่ชัดเจน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ไม่สามารถกำหนดการจ่ายเงินปันผล หรือประชุมสามัญประจำปีได้ เนื่องจากผู้ตรวจเงินบัญชีสหกรณ์ยังสรุปยอดไม่ได้ชัดเจน 100% ขณะนี้แจ้งเพียงว่าใกล้เสร็จแล้ว
อย่างไรก็ตาม การทุจริตไม่ได้มาจากกระบวนการบริหารจัดการ พบว่า บางเรื่องเป็นการทุจริตของเจ้าหน้าที่ภายในสหกรณ์ฯ ซึ่งได้มีการดำเนินคดีไปแล้ว ทั้งทางแพ่ง และอาญา จำนวน 1 คน ในข้อหาลักทรัพย์นายจ้าง เพราะเป็นลูกจ้างของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ ส่วนที่ตรวจพบว่า มีการทุจริตเพิ่มก็จะดำเนินคดีไปเรื่อยๆ
ส่วนการจ่ายเงินปันผล และประชุมสามัญประจำปี ซึ่งเป็นเรื่องของสมาชิกจำนวนมาก เงินจำนวนมาก ต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบ และการรวบรวมพยานหลักฐานก็ต้องรอบคอบด้วย ซึ่งยอดเงินบริหารจัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ มีประมาณ 2,000 ล้านบาท
สำหรับระยะเวลาในการจ่ายเงินปันผล และประชุมใหญ่สามัญประจำปีนั้น ตนยังตอบไม่ได้ต้องรอผลการตรวจบัญชีสหกรณ์ที่ชัดเจนก่อน ขณะนี้คณะกรรมการบริหารสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ ทุกคนก็พยายามเร่งรัดในทุกๆ เรื่องเพื่อให้เสร็จสิ้นรวดเร็วที่สุด
“ปัญหาทุจริตในสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ เป็นเรื่องที่มีปัญหามานานหลายปี ในลักษณะคล้ายดินพอกหางหมูไปเรื่อยๆ และถือว่าเป็นความโชคดีบนความโชคร้ายของสมาชิกที่ตรวจสอบเจอว่า มีการทุจริต พบการดำเนินการที่บกพร่อง และสามารถดำเนินการได้ในทันที ขณะที่มีสหกรณ์อื่นอีกมากที่ตรวจพบหลังมีความเสียหายเป็นจำนวนมากแล้ว” พ.ต.อ.อภิชาติ กล่าว
พ.ต.อ.อภิชาติ กล่าวอีกว่า กรณีที่ตำรวจ สภ. ต่างๆ จากทั้ง 17 อำเภอ เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุรินทร์นั้น ตนมองว่า ยังไม่ใช่เวลาที่สามารถตอบคำถามได้ในทุกๆ เรื่อง เพราะการตอบคำถามต้องตอบได้ในรายละเอียด 100% ไม่ใช่คาดว่า น่าจะ เพราะในเรื่องของรายละเอียดจะต้องมีการสรุปแล้วว่าเป็นอย่างไร
ทั้งนี้ ได้พยามยามชี้แจ้งไปยังหัวหน้าหน่วยในทุก สภ. ทั้ง จ.สุรินทร์แล้ว ว่า เงินปันผล และการประชุมใหญ่สามัญประจำปียังตอบไม่ได้ เพราะอยู่ในช่วงกระบวนการผู้ตรวจบัญชีสหกรณ์ที่กำลังตรวจสอบบัญชีของสหกรณ์ฯ อยู่ ซึ่งที่มีความล่าช้านั้นเพราะเงิน และมีสมาชิกจำนวนมากกว่า 2,000 ราย เป็นเงินกว่า 2,000 ล้านบาท จึงต้องมีการตรวจสอบให้ละเอียด 100%
“ขอยืนยันว่าสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ ไม่เจอทางตันแน่นอน เพราะเงินที่หายไปต้องมีคนรับผิดชอบ ใครที่ทุจริตไปก็เรียกกลับมา เงินหายไปในระบบไหนก็เรียกกลับมา และยืนยันว่าเงินที่หายไปไม่ถึง 100 ล้านบาท ซึ่งผู้ตรวจบัญชีสหกรณ์แจ้งว่าภายในเดือน พ.ย. นี้ ต้องจบให้ได้ เพราะเขาต้องไปทำงานตรวจสอบที่อื่นต่อไป” พ.ต.อ.อภิชาติ กล่าวในตอนท้าย