ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เลขาธิการ กสทช.นำคณะชี้แจงหัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานในจังหวัด ทำความเข้าใจก่อนเริ่มแจกคูปองดิจิตอลทีวีรอบ 2 วันพรุ่งนี้ (28 พ.ย.) ระบุได้เฉพาะ 7 อำเภอที่สัญญาณครอบคลุมเกิน 80%
วันนี้ (27 พ.ย.) ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) พร้อมคณะ ร่วมประชุมชี้แจงทำความเข้าใจแนวทางการแจกคูปองดิจิตอลทีวีรอบที่ 2 กับหัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานต่างๆ ในการประชุมประจำเดือนของหัวหน้าส่วนราชการจังหวัด ซึ่งมีนายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เป็นประธาน
นายฐากรระบุว่า เชียงใหม่เป็น 1 ใน 20 จังหวัดที่ กสทช.จะแจกคูปอง ซึ่งเริ่มวันพรุ่งนี้ (28 พ.ย.) โดยจะแจกเฉพาะในอำเภอที่มีสัญญาณดิจิตอลครอบคลุมเกินกว่า 80% ก่อน ซึ่งมี 7 อำเภอ ได้แก่ เมือง สารภี สันกำแพง สันป่าตอง สันทราย หางดง และดอยสะเก็ด ที่จะได้รับคูปองรอบนี้
ทั้งนี้ 7 อำเภอของเชียงใหม่มีจำนวนคูปองรวม 194,090 ใบ แบ่งเป็น อ.เมือง 56,525 ใบ อ.สารภี 21,770 ใบ อ.สันกำแพง 22,940 ใบ อ.สันป่าตอง 19,366 ใบ อ.สันทราย 31,878 ใบ อ.หางดง 23,073 ใบ และ อ.ดอยสะเก็ด 18,538 ใบ ส่วนอำเภอที่เหลืออีก 18 อำเภอจะมีการทยอยแจกให้เมื่อมีสัญญาณดิจิตอลครอบคลุมเกินกว่า 80% ซึ่งคาดว่าจะไม่เกินภายในเดือนธันวาคมนี้
สำหรับการแจกคูปองรอบ 2 นั้น ยังใช้วิธีการนำส่งยังเจ้าบ้านโดยไปรษณีย์ลงทะเบียนเช่นเดียวกับครั้งแรก เมื่อประชาชนได้รับคูปองแล้วสามารถนำคูปองไปใช้ได้ 3 แบบ คือ 1. ใช้แลกกล่องเซตท็อปบอกซ์ ราคา 690 บาท 2. ใช้เป็นส่วนลดในการซื้อกล่องเซตท็อปบอกซ์ ที่ราคาสูงกว่า 690 บาท และ 3. ใช้เป็นส่วนลดในการซื้อทีวีดิจิตอล จากจุดบริการของเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ หรือรับการรับรองจาก กสทช. ซึ่งจะมีสัญลักษณ์รับแลกคูปองแสดงอยู่หน้าร้าน
นายฐากรกล่าวถึงกรณีที่อาจจะมีกลุ่มผู้ที่ไปอ้าง และทำการรวบรวมคูปองจากประชาชนว่า อย่าไปหลงเชื่อ หากพบข้อสงสัยหรือต้องการร้องเรียน ให้แจ้งที่สายด่วน กสทช. 1200 ส่วนกรณีปัญหาสัญญาณยังไม่เสถียรและครอบคลุมนั้น ขณะนี้กำลังเร่งรัดเต็มที่ ทั้งการปรับปรุงสัญญาณ และติดตั้งโครงข่ายให้ครอบคลุมโดยเร็วแล้ว
นอกจากนี้ กำลังเสนอให้ คสช.พิจารณาแจกคูปองเพิ่มให้ในส่วนบ้านพักราชการ และบ้านที่มีผู้อยู่อาศัยแต่ไม่ได้เป็นเจ้าบ้าน เช่น บ้านเช่า เป็นต้น ซึ่งประเมินว่ามีถึง 2.4 ล้านครัวเรือน รวมทั้งกลุ่มตกสำรวจที่อาศัยอยู่ในบ้านไม่มีทะเบียนบ้าน เช่น ตามชุมชนแออัด แต่ต้องได้รับรองทะเบียนบ้านชั่วคราว ซึ่งน่าจะมีอยู่อีกประมาณ 7 แสนครัวเรือน ทั้งนี้คาดว่าน่าจะได้รับความเห็นชอบ เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงระบบดิจิตอลทีวีอย่างเท่าเทียมกัน