ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ยอมรับสถานการณ์น้ำในเขื่อนแม่กวงเข้าขั้นวิกฤต หลังพบปริมาณน้ำใช้ได้เหลือน้อยที่สุดในรอบ 16 ปี เผยแก้ปัญหาระยะสั้นแล้วด้วยการชี้แจงขอความร่วมมือเกษตรกรงดปลูกข้าวนาปรัง พร้อมจ่ายน้ำให้ใช้เดือนละครั้ง ครั้งละ 3 วัน เริ่ม ม.ค. 58 ส่วนระยะยาวหวังอุโมงค์ผันน้ำจากเขื่อนแม่งัดช่วยได้
นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำในเขื่อนแม่กวงอุดมธารา อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นเขื่อนสำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ มีปริมาณน้ำที่สามารถจ่ายให้ใช้ได้ประมาณ 28 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น จากความจุอ่าง 263 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยเป็นปริมาณที่น้อยที่สุดในรอบ 16 ปี และต้องถือว่าเป็นสถานการณ์ที่เข้าขั้นวิกฤต ซึ่งน่าเป็นห่วงว่าจะก่อให้เกิดผลกระทบขึ้นแก่เกษตรกรผู้ใช้น้ำในช่วงฤดูแล้งที่จะมาถึงนี้
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริหารจัดการเขื่อนแม่กวงได้มีการจัดการประชุมพูดคุยกับเกษตรกรผู้ใช้น้ำเขื่อนแม่กวง ประกอบด้วย อำเภอสันกำแพง อำเภอดอยสะเก็ด อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอบ้านธิ และอำเภอเมือง จังหวัดลำพูน พร้อมด้วยเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบอีกจำนวนหนึ่ง รวมทั้งมีนายอำเภอและผู้นำท้องถิ่นร่วมด้วย
เบื้องต้นขอความร่วมมือให้งดปลูกข้าวนาปรัง และจะจัดส่งน้ำให้ใช้เดือนละ 1 ครั้ง ครั้งละ 3 วัน ตั้งแต่เดือนมกราคม 2558 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นมาตรการแก้ไขปัญหาในระยะสั้น
ส่วนการป้องกันแก้ไขปัญหาในระยะยาวนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่บอกว่า เวลานี้ทางรัฐบาลได้อนุมัติให้ดำเนินโครงการก่อสร้างขุดอุโมงค์เชื่อมต่อเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลและเขื่อนแม่กวงอุดมธาราแล้ว เพื่อผันน้ำส่วนเกินในช่วงฤดูฝนจากเขื่อนแม่งัดมาไว้ที่เขื่อนแม่กวง ซึ่งใช้งบประมาณหลายร้อยล้านบาทและคาดว่าจะใช้เวลาในการดำเนินการประมาณ 5-7 ปี โดยเมื่อเสร็จใช้งานได้แล้วเชื่อว่าน่าจะเป็นผลดีต่อการบริหารจัดการน้ำของจังหวัดเชียงใหม่อย่างแน่นอน