ชาวโคราชร้อง! เทศบาลฯ ผลาญงบสร้างถนนสั้นจุ๊ดจู๋แพงเวอร์ แต่เมินแก้ภัยแล้ง

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ชาวบ้านโคราชสุดทน ร้องเทศบาล ต.หัวทะเล ผลาญงบฯ สร้างถนนหินคลุกสั้นจุ๊ดจู๋เพียง 75 เมตร แพงเวอร์ 3 แสน เพื่อเป็นทางเข้าบ้านแค่ 2 หลัง หนำซ้ำถมคลองส่งน้ำ แต่กลับเมินไม่อนุมัติงบโครงการเร่งด่วนแก้ภัยแล้งที่ ปชช.เดือดร้อน จี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ

วันนี้ (26 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านถึงความไม่ชอบมาพากลในการก่อสร้างถนนของเทศบาลตำบลหัวทะเล ที่บริเวณบ้านท่ากระสัง หมู่ 9 ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา ว่า ราคาจ้างเหมาก่อสร้างสูงผิดปกติมาก ทั้งที่เป็นเพียงถนนหินคลุกและมีระยะทางสั้นแค่ 75 เมตร แต่กลับใช้งบประมาณร่วม 3 แสนบาท อีกทั้งยังมีการถมคลองส่งน้ำสาธารณะอีกด้วย

ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่าโครงการก่อสร้างถนนที่ได้รับร้องเรียนดังกล่าว เป็นถนนเทหินคลุกปะหน้าบางๆ สามารถมองเห็นพื้นดินได้อย่างชัดเจน และเป็นเส้นทางระยะสั้นๆ สร้างตัดออกจากถนนสายหลักที่เป็นทางลูกรัง มุ่งตรงไปสิ้นสุดที่บริเวณหน้าบ้านที่มีบ้านเรือนตั้งอยู่จำนวน 2 หลังเท่านั้น และเป็นที่สังเกตว่าด้านหลังห่างออกไปอีกพบมีหมู่บ้านจัดสรรขนาดใหญ่ตั้งอยู่

ตรวจสอบป้ายรายละเอียดโครงการที่ติดตั้งไว้บริเวณหัวถนน ระบุว่า “เทศบาลตำบลหัวทะเล งบประมาณปี 2556 โครงการก่อสร้างถนนหินคลุกบ้านท่ากระสัง ซอยถนนหินคลุกไปหมู่บ้านสุรนารีวิลล์ หมู่ที่ 9 ชุมชนที่ 7 ขนาดกว้าง 3.00 เมตร ยาว 75.00 เมตร วางท่อขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 เมตร จำนวน 50 ท่อน งบประมาณ 299,500 บาท แหล่งเงินงบประมาณเทศบาลตำบลหัวทะเล วันเริ่มต้นประกันสัญญา 9 ก.ย. 57-29 ก.ย. 2559”

ชาวบ้านกระสังรายหนึ่งบอกกับผู้สื่อข่าวว่า พื้นที่ก่อสร้างถนนหินคลุกดังกล่าวเดิมเป็นคลองส่งน้ำสาธารณะที่ชาวบ้านใช้ประโยชน์ในการผันน้ำเข้าที่นา แต่เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมาทางเทศบาลตำบลหัวทะเลได้จ้างผู้รับเหมามาทำการถมคลองเพื่อสร้างถนนหินคลุกเป็นทางเข้าบ้านของผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 และบ้านชาวบ้านอีก 1 หลัง ชื่อ นายสมพงษ์ และมีการวางท่อปูนซีเมนต์เพื่อเชื่อมกับท่อถนนหลัก

โดยในระหว่างการก่อสร้างนั้น ผู้รับเหมาได้ทำบ้างหยุดบ้างเนื่องจากเป็นช่วงหน้าฝน กระทั่งแล้วเสร็จเมื่อหลายเดือนก่อน แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่เคยเข้าไปใช้ถนนนี้เลย เพราะไม่ใช่ถนนหลักที่จะใช้สัญจรผ่านไปไหนมาไหนได้ นอกจากใช้เป็นทางเข้าบ้าน 2 หลังดังกล่าวเท่านั้น ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นหัวคะแนนของนักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่ง อีกทั้งในช่วงหน้าฝนรถยนต์ก็ไม่สามารถเข้าไปได้เนื่องจากเป็นถนนดินเหนียวโรยด้วยหินคลุกบางๆ เมื่อฝนตกถนนจึงเละเป็นโคลน

ชาวบ้านคนเดิมเล่าต่อว่า ที่ผ่านมาชาวบ้านเคยแจ้งไปยังสมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.)ตำบลหัวทะเลที่ดูแลพื้นที่ให้มาทำการย้ายป้ายโครงการดังกล่าวออกไปจากที่ดินของชาวบ้านที่อยู่ด้านข้างเพราะเป็นที่ส่วนบุคคล โดยให้ย้ายไปติดริมถนนที่สร้างใหม่แต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไข

นอกจากนี้ ชาวบ้านพากันตั้งข้อสังเกตว่า ถนนหินคลุกดังกล่าวแม้ว่าเคยนำเสนอเข้าสู่ประชาคมหมู่บ้านก็จริงแต่เป็นโครงการที่ไม่เร่งด่วน ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่อยากได้ฝายกั้นน้ำลำตะคองและผนังกั้นตลิ่งลำตะคองเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนทั้งน้ำท่วมและน้ำแล้งเป็นการเร่งด่วนก่อน แต่ก็ไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณลงมา กลับไปให้งบสร้างถนนทางเข้าบ้านคนไม่กี่คน และที่สำคัญถนนเส้นดังกล่าวมีความยาวแค่ 75 เมตร แต่ใช้งบประมาณก่อสร้างร่วม 3 แสนบาท คิดว่าแพงมากเกินไป

อีกทั้งการสร้างถนนเส้นดังกล่าวก็ไม่เกิดประโยชน์แก่ประชาชนส่วนรวมเพราะประชาชนไม่ได้ใช้เส้นทางสัญจรไปมาเลย มีเพียงผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านอีก 1 หลังคาเรือนที่ได้ใช้ถนนสายนี้ ฉะนั้นถนนเส้นนี้จึงมีความจำเป็นน้อยมากยกเว้นเวลาชาวบ้านเดินไปธุระบ้านผู้ใหญ่บ้านเท่านั้น

“จึงอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบได้ชี้แจงข้อสงสัยให้ชาวบ้านได้รับทราบโดยละเอียด พร้อมขอให้ดำเนินโครงการแก้ปัญหาภัยแล้งที่เป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนอยู่ในขณะนี้ และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบการใช้งบประมาณการก่อสร้างถนนหินคลุกระยะทางสั้นๆ ดังกล่าวด้วยว่าแพงเกินจริงหรือไม่และมีความโปร่งใสมากน้อยแค่ไหน” ชาวบ้านคนเดิมกล่าวในตอนท้าย