วัดคลองพร้าว ตัดสินให้พระฉาวถ่ายรูปคู่แหม่มฝรั่งย้ายออกจากวัด

ตราด - เจ้าอาวาสวัดคลองพร้าว สั่งกรรมการวัด และลูกวัดประชุมตัดสินปัญหาพระสุพจน์ สรุปให้ย้ายออกจากวัดแล้ว ด้านสำนักงานพระพุทธศาสนา รายงานผู้ว่าฯ สั่งปกครอง อำเภอ ชาวบ้านช่วยสอดส่อง

วันนี้ (24 พ.ย.) ที่ศาลาการเปรียญวัดคลองพร้าว ต.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง จ.ตราด มีการประชุมแก้ปัญหากรณีพระสุพจน์ ที่ก่อเหตุประพฤติตนไม่เหมาะสมต่อสมณเพศ โดยมีพระวัดคลองพร้าว นายนิติธร กาวิราวรรณ ผู้ช่วยกำนันตำบลเกาะช้าง กรรมการวัดคลองพร้าว นายวันรุ่ง ขนรกุล กำนันตำบลเกาะช้าง และชาวบ้านร่วมประชุมประมาณ 10 คน

นายนิติธร กล่าวว่า เจ้าอาวาสได้โทรศัพท์มาสั่งพระลูกวัดว่า ขอให้แจ้งให้พระสุพจน์ ได้ย้ายออกจากวัดคลองพร้าว เพื่อแก้ปัญหา แม้ในขณะนี้พระสุพจน์ จะไม่ได้จำวัดอยู่ที่วัดคลองพร้าว เนื่องจากเดินทางไปอยู่ปริวาสกรรม ก็เหมือนว่าย้ายออกไปแล้ว เหลือเพียงข้าวของที่จะต้องมาเก็บเท่านั้น ซึ่งคณะกรรมการวัด รวมทั้งชาวบ้านก็เห็นด้วยต่อการให้พระสุพจน์ ย้ายออกไปเพื่อแก้ปัญหา เนื่องจากสร้างความเสื่อมเสียให้แก่วัด และชาวเกาะช้างเป็นอันมาก

ด้านสำนักงานพระพุทธศาสนาจัหวัดตราด ไม่ให้ข้อมูล และสัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน โดยให้เหตุผลว่า หัวหน้าสำนักงานไม่อยู่ แต่ได้นำเอกสารที่ทำการชี้แจงให้ผู้ว่าราชการจังหวัดตราดรับทราบเรื่องแล้ว โดยนำเอกสารดังกล่าวมาให้แก่สื่อมวลชน รายละเอียด คือ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดตราด ได้ติดต่อประสานเพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น ดังนี้

1.ประสานกับพระปลัดศักดา ฐิตธมฺโม เจ้าอาวาสวัดคลองพร้าว แล้วปรากฏว่า ติดต่อไม่ได้ แต่ได้ทราบข่าวจากผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดคลองพร้าว ว่า ท่านได้ขึ้นมาเรียนประกาศนียบัตรการบริหารกิจการคณะสงฆ์ (ป.บส.) ที่พุทธมณฑลตราด โดยมาพักอาศัยอยู่ที่วัดแหลมงอบ เป็นเวลา 1 เดือนแล้ว

2.ประสานกับผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดคลองพร้าว แต่ไม่ได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับพระสุพจน์ แต่อย่างใด เพียงแต่บอกว่า พระสุพจน์ ได้ออกจากวัดไปอยู่ปริวาสกรรมที่ จ.นครสวรรค์

3.ติดต่อกับฝ่ายปกครองสงฆ์ของอำเภอเกาะช้าง พระครูมุนินทร์จริยานุรักษ์ เจ้าคณะอำเภอเกาะช้าง ขณะนี้อยู่ในระหว่างแสวงบุญที่ประเทศพม่า และพระครูสุเมธจริยาลังการ เจ้าคณะตำบลเกาะช้าง ได้ทราบข้อมูลจากพระคุณเจ้าเกี่ยวกับพระสุพจน์ ว่า เป็นชาว จ.อุทัยธานี เดิมสังกัดวัดอ่างหิน ต.เกาะขวาง อ.เมือง จ.จันทบุรี โดยมีพระครูอุทัยธรรมสาร ไม่ทราบสังกัดวัด เป็นพระอุปัชฌาย์

4.ฝ่ายปกครองสงฆ์อำเภอเกาะช้าง ได้พิจารณาความผิดของพระสุพจน์ ซึ่งมีความผิดศีลในหมวดของสังฆาทิเสส อาบัติที่ต้องอยู่ในปริวาสกรรมในข้อ 6 ตามรายละเอียดที่แนบมาพร้อมกันนี้ และสร้างความเสื่อมเสียแก่พระพุทธศาสนา จึงได้มีหนังสือแจ้งให้วัดทุกวัดในเขตการปกครองเกาะช้าง ไม่ให้เข้ามาอยู่ในเขตปกครอง และจะได้รายงานพฤติกรรมส่งตัวพระสุพจน์ ให้แก่ต้นสังกัดเดิมต่อไป

5.เรื่องของการป้องกันเพื่อมิให้เรื่องเกิดขึ้นอีก ฝ่ายปกครองอำเภอเกาะช้าง ได้แจ้งให้เจ้าอาวาสวัดทุกวัด และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้ช่วยดูแลสอดส่องพฤติกรรมของพระในวัด และให้ทำความเข้าใจต่อนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทั้งนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนา จะได้ดำเนินการทำหนังสือชี้แจงสื่อมวลชนได้รับทราบต่อไป

สำหรับการอาบัติสังฆาทิเสสในข้อที่ 2 ที่ระบุว่า เคล้าคลึง จับมือ จับข้องผม ลูบคลำ จับต้องอวัยวะอันใดก็ตามของสตรีเพศ โทษทางโลกพระสงฆ์กระทำผิด เรียกว่าโลกวัชชะ โทษทางโลก อาบัติที่เป็นโทษทางโลก ข้อเสียหายที่ชาวโลกติเตียนว่าไม่เหมาะสมต่อสมณะ คือ สิ่งที่ภิกษุ หรือคนทั่วไปที่ไม่ใช่ภิกษุทำ ก็คือเป็นความผิดความเสียหายเหมือนกัน เช่น โจรกรรม ฆ่ามนุษย์ ทะเลาะวิวาท จึงอยู่ปริวาสกรรม ซึ่งปริวาสหมายถึงการอยู่ชดใช้ เรียกสามัญว่าอยู่กรรม เป็นชื่อวุฏฐานวิธี (ระเบียบปฏิบัติสำหรับออกจากครุกาบัติ) อย่างหนึ่ง ซึ่งภิกษุผู้ต้องอาบัติสังฆาทิเสสแล้วปกปิดไว้ จะต้องประพฤติเป็นการลงโทษตนเองชดใช้ให้ครบเท่าจำนวนวันที่ปิดอาบัติ ก่อนที่จะประพฤติมานัตอันเป็นขั้นตอนปกติของการออกจากอาบัติต่อไป ระหว่างอยู่ปริวาสต้องประพฤติวัตรต่างๆ เช่น งดใช้สิทธิบางอย่าง ลดฐานะของตน และประจานตัว เป็นต้น