ตราด - ชาวเกาะช้าง ไม่พอใจพระสุพจน์ถ่ายรูปกอดกับสาวต่างชาติ เตรียมรวมตัวขับไล่ออกจากวัด ส่วนบรรยายกาศวัดเงียบเหงา ด้านกำนัน ต.เกาะช้าง บอกเป็นเรื่องไม่เหมาะสม พบพระมาจากจังหวัดอื่น และไปปริวาสกรรม เสนอ สนง.พุทธจัดการด่วน
นายวันรุ่ง ขนรกุล กำนัน ต.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง จ.ตราค เปิดเผยถึงกรณีที่พระสุพจน์ พระลูกวัดคลองพร้าว ต.เกาะช้าง ถ่ายรูปกับหญิงสาวชาวต่างชาติในลักษณะกอดกัน และมีการโพสต์ลงในเฟซบุ๊กต่างๆ รวมทั้งเฟซบุ๊กของกลุ่มวิพากษ์เกาะช้าง ว่า เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมสำหรับชาวพุทธ เพราะถือเป็นเรื่องที่ผิดธรรมวินัยของสงฆ์ที่ไม่ควรปฏิบัติ
ชาวเกาะช้างที่ได้รับทราบจากเฟซบุ๊กของชาวเกาะช้าง และที่เผยแพร่จากสื่อออนไลน์ต่างไม่พอใจในเรื่องนี้ และได้เข้าไปติดตามความเคลื่อนในวัดคลองพร้าว และทราบว่า พระสุพจน์ได้ออกจากวัดไปแล้วเพื่อไปปริวาสกรรม 7 วัน คาดว่าใน 2 วันนี้จะเดินทางกลับวัด
เมื่อเดินทางกลับมาจะได้เดินทางไปวัดพร้อมกับชาวเกาะช้างเพื่อเรียกร้องให้เจ้าอาวาสได้ดำเนินการในเรื่องการลงโทษ หรือจับสึกไปตามระเบียบของสงฆ์ เพราะหากไม่ดำเนินการโดยเร็วจะเกิดความเสื่อมเสียเพิ่มมากขึ้น
“ชาวบ้านที่อยู่ใกล้วัดต้องการที่จะขับไล่พระรูปนี้ออกไป แต่ทราบว่า พระสุพจน์ไม่ใช่เป็นพระในจ.ตราด แต่เดินทางมาจำพรรษาในวัดคลองพร้าวอยู่ระยะหนึ่ง ซึ่งเมื่อเกิดเรื่องขึ้นมาจึงเดินทางออกไปปริวาสกรรม เรื่องนี้เจ้าอาวาสกำลังรอให้เดินทางกลับมาที่วัดก่อนเพื่อทำการสอบสวนและดำเนินการลงโทษ ซึ่งเรื่องนี้ทางเจ้าคณะตำบลต้องลงดำเนินการเองรวมทั้งให้สำนักงานพุทธศาสนา จ.ตราด เข้ามาจัดการจะสึก หรือลงโทษตามระเบียบของสงฆ์ก็ต้องว่ากันไปชาวบ้านไม่ สามารถสึกพระได้”
ขณะที่พระครูสุเมธจริยาลังกา เจ้าอาวาสวัดคลองสน ต.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง จ.ตราด ในฐานะเจ้าคณะตำบลเกาะช้าง กล่าวว่า เรื่องได้รับรู้มาแล้วหลายวัน และได้เข้าไปแก้ปัญหาให้แล้ว โดยเดินทางไปพบเจ้าอาวาสวัดคลองพร้าว และพระสุพจน์ ด้วยตัวเอง และได้สอบถามในเรื่องนี้ ซึ่งพระสุพจน์ ได้ยอมรับและได้ขอร้องให้เดินทางกลับไปบ้านเดิมของท่านเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา
ในทางพระสงฆ์ ความผิดของพระสุพจน์ เป็นความผิดที่ทางพระที่เรียกว่าโลกติเตียน ไม่ต้องสึกก็ได้ เพราะไม่ถึงกับมีเพศสัมพันธ์กัน ส่วนพระอุปัฌชาย์ หรือพ่อแม่จะให้สึกหรือไม่ต้องตัดสินใจเอาเอง แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องไม่เหมาะสม และไม่ถูกต้องที่พระสงฆ์จะกระทำเช่นนี้
“ทางเจ้าคณะจังหวัดตราดได้โทรศัพท์มาสั่งการให้แก้ไขในเรื่องนี้แล้ว และได้ให้ทางเจ้าคณะตำบลแก้ไขในเรื่องนี้ และพยายามแก้ภาพลักษณ์ของพระในเกาะช้าง เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ และการที่พระสงฆ์ปฏิบัติผิดธรรมวินัยจะส่งผลทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อม ขณะเดียวกัน ได้แจ้งไปยังเจ้าอาวาสทั้ง 6 วัดในเกาะช้างได้ออกข้อบังคับควบคุมไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้อีก”
ส่วนบรรยากาศที่วัดคลองพร้าว ที่อยู่ท่ามกลางโรงแรมทั้งขนาดใหญ่ และขนาดเล็ก ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเดินทางผ่านเข้าไปในวัดตลอดทั้งวัน รวมทั้งมีถนนผ่านกลางวัด และทุกวันจะมีนักท่องเทีทยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศเดินทางถ่ายรูป และถวายสังฆทานจำนวนมากทุกวัน แต่ใน 2-3 วันที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวลดลงแต่ไม่มากนัก เนื่องจากพระสุพจน์ ไม่อยู่ที่วัด เดินทางมาสอบที่วัดแหลมงอบ อ.แหลมงอบ จ.ตราด มาแล้วหลายวัน และจำวัดที่วัดแหลมงอบด้วย ขณะที่พระลูกวัดไม่กล้าให้ข้อมูลเกี่ยวกับพระสุพจน์ จึงเรียกให้กรรมการวัดคนหนึ่งเดินทางมาให้ข้อเท็จจริง
นายนิติธร กาวิวัฒน์ ผู้ช่วยกำนัน ต.เกาะช้าง และเป็น 1 ในกรรมการวัดบอกต่อสื่อมวลชนว่า เหตุการณ์เรื่องนี้เกิดขึ้นมาเมื่อ 10 วันที่แล้ว ระหว่างที่นักท่องเทีทยวชาวออสเตรเลีย 2 คน คนหนึ่งเป็นลูกครึ่งกัมพูชา ไม่ทราบชื่อ เดินทางเข้ามาที่วัดตามปกติที่ทุกวันวัดคลองพร้าวจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศเดินทางมาชมที่โบสถ์ที่สร้างใหม่ และถ่ายรูปเป็นที่ระลึก และหากเป็นคนไทยก็จะทำบุญ ทำสังฆทาน ซึ่งนักท่องเที่ยวทั้ง 2 คนเดินทางเข้ามา และเข้าไปในโบสถ์ และกราบไหว้พระ ซึ่งช่วงนั้นพระสุพจน์ นั่งรับสังฆทานอยู่
เมื่อเห็นมีนักท่องเที่ยวเข้าไปในโบสถ์จึงเดินเข้าไปพบว่า กำลังจุดธูปเทียน จึงเข้าไปห้าม แต่เมื่อเป็นนักท่องเที่ยวต่างประเทศจึงได้ทำท่าทางห้าม แต่นักท่องเที่ยวคนหนึ่งขอให้ผู้สายสิญจน์ให้ที่ข้อมือ ทำให้พระสุพจน์ เดินมาหยิบสายสิญจน์ให้ และเมื่อผูกข้อมือเสร็จจึงขอถ่ายรูป
เวลานั้นไม่มีใคร และไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจึงเกิดภาพในลักษณะนี้ขึ้นมา ยอมรับว่ารู้สึกไม่ดี และเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งความเสียหายที่ขึ้นต่อวัดคลองพร้าว และชาวเกาะช้าง รวมทั้งศาสนาพุทธ แต่เรื่องนี้ได้มีการแก้ปัญหาไปแล้ว
“ผมได้โทรศัพท์คุยกับพระสุพจน์ เป็นการส่วนตัว หลังจากที่พระสุพจน์ เดินทางออกไปจากวัดแล้วเดินทางไปยัง จ.อุทัย ที่เป็นบ้านเกิด ซึ่งท่านยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม และไม่รู้ว่าจะอธิบายในเรื่องนี้อย่างไรดี แต่ในขณะนี้อยู่ระหว่างการปริวาสกรรมของท่านเอง และท่านอาจตัดสินใจสึกเพราะรูสึกผิด ทั้งที่ท่านบวชมานานถึง 23 พรรษา และจำวัดที่วัดคลองพร้าวมานานถึง 5 ปี แล้ว”
นายนิติธร กล่าวว่า ส่วนนักท่องเที่ยวรายนี้มีประวัติที่ไม่ดีนัก เคยถูกจับเรื่องเสพกัญชา และเคยอ้างว่าถูกลวนลามทางเพศ ซึ่งชาวเกาะช้างทราบเรื่องดี และเคยมีประวัติที่สถานีตำรวจเกาะช้าง ซึ่งกำนันเกาะช้างได้ขอให้ตนเองมาดู และและแก้ปัญหาในเรื่องนี้เพราะเสียภาพลักษณ์ รวมทั้งนักท่องเที่ยวเดินทางมาที่วัดคลองพร้าวลดลง แต่เชื่อว่าจะกลับมาดีเหมือนเดิมได้เพราะทางวัดได้แก้ปัญหาในเรื่องนี้แล้วอย่างดีที่สุด