xs
xsm
sm
md
lg

เรือนำเที่ยวชมโลมาปากอ่าวบางปะกงโอด ถูกประมงอวนป่วนหนีกระเจิงไม่ยอมเข้าใกล้ชายฝั่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ฉะเชิงเทรา - ชาวบ้านผู้ประกอบอาชีพเรือนำเที่ยวชมโลมาปากอ่าวบางปะกงโอด หลังถูกชาวประมงอวนล้อมใช้ระฆังเคาะใต้น้ำไล่ต้อนปลาเข้าตาข่ายรุกหนัก ทำโลมาหนีกระเจิงไม่ยอมเข้าใกล้ชายฝั่ง วอนผู้เกี่ยวข้องเข้าควบคุมดูแล หวั่นกระทบการท่องเที่ยวในท้องถิ่นระยะยาว

วันนี้ (23 พ.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นางบุญช่วย สุวรรณ์ อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 ม.1 ต.ท่าข้าม อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ชาวบ้านผู้ประกอบอาชีพเรือนำเที่ยวชมโลมาล่องปากอ่าวแม่น้ำบางปะกงว่า ในปีนี้ฝูงโลมาไม่กล้าเข้ามาใกล้ชายฝั่ง โดยเฉพาะบริเวณปากอ่าวแม่น้ำบางปะกง ซึ่งเคยเป็นแหล่งชุกชุมที่มีความอุดมสมบูรณ์ด้านอาหารของโลมามาก และโลมาเคยพากันเข้ามาแหวกว่าย กระโดดขึ้นเหนือน้ำโชว์ตัวอวดให้นักท่องเที่ยวได้เห็นอยู่เป็นประจำในทุกๆ ปีนั้น

ในปีนี้กลับไม่มีโลมาเข้ามายังบริเวณปากอ่าวแม่น้ำบางปะกงเลย ทั้งที่ใกล้จะถึงสิ้นเดือน พ.ย.แล้ว ซึ่งปกติโลมาจะพากันเข้ามายังบริเวณปากอ่าวแม่น้ำบางปะกงในช่วงของเดือน ต.ค.-ก.พ.ของทุกปี ซึ่งเชื่อว่าสาเหตุที่ทำให้โลมาไม่ยอมเข้ามายังบริเวณปากอ่าวแห่งนี้น่าจะมีสาเหตุมาจากกลุ่มชาวประมงซึ่งเป็นคนจากต่างพื้นที่ ได้พากันเข้ามาหาปลายังที่บริเวณปากอ่าวแม่น้ำบางปะกง ด้วยวิธีการใช้อวนลอยเข้ามาล้อมจับปลาในแม่น้ำ

โดยใช้วิธีการนำแผ่นเหล็ก หรือกล่องเหล็กลงไปเคาะให้เกิดเสียงดังยังบริเวณใต้น้ำเพื่อทำให้ฝูงปลานั้นตกใจ และพากันแตกตื่นวิ่งหนีแหวกว่ายเข้ามาติดยังภายในอวนที่ล้อมเอาไว้ โดยการกระทำในลักษณะดังกล่าวนี้ได้ส่งผลกระทบไปถึงยังโลมาที่มีประสาทสัมผัสไวต่อคลื่นเสียงใต้น้ำด้วย จึงทำให้ฝูงโลมาที่เคยเข้ามาในบริเวณนี้ไม่ยินยอมกลับเข้ามาอีก เพราะถูกการรบกวนจากคลื่นเสียงดังของระฆังใต้น้ำ หรือเสียงเหล็กกระทบกันจนดังกึกก้อง

โดยในปีก่อนๆ นั้น มีชาวประมงเข้ามาหาปลาในลักษณะดังกล่าวนี้เพียงไม่กี่ราย แต่ในปัจจุบันนี้กลับมีการกระทำในลักษณะเดียวกันนี้เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากจนเต็มแน่นปากอ่าว และชาวประมงเหล่านี้ก็ยังไม่ใช่ชาวตำบลท่าข้ามอีกด้วย เพราะส่วนใหญ่นั้นจะมาจากพื้นที่ข้างเคียง ทั้งตำบลสองคลอง บ้านแสมขาว และคลองด่าน จากพื้นที่รอยต่อกับ จ.สมุทรปราการ รวมไปจนถึงชาว จ.ชลบุรี ด้วย

ผลกระทบดังกล่าวจึงทำให้นักท่องเที่ยวที่ต่างพากันตั้งใจเดินทางมา ซึ่งส่วนใหญ่นั้นเดินทางมาจากในกรุงเทพฯ เพื่อมุ่งหวังที่จะได้เข้ามาชมโลมาที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาตินั้น ต่างพากันผิดหวังกลับไปเป็นจำนวนมาก จนอาจส่งผลเสียต่อทางด้านการท่องเที่ยวในท้องถิ่นในระยะยาวก็เป็นได้ เนื่องจากอาจมีการบอกต่อกันไปในลักษณะปากต่อปากว่า ได้เคยเดินทางเข้ามาแล้วแต่กลับไม่พบ หรือมาแล้วไม่ได้เห็นโลมาสมกับความต้องการที่ได้เดินทางมา จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้นได้รีบเข้ามาช่วยจัดการแก้ไขปัญหาการทำประมงที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ สิ่งแวดล้อม หรือผิดรูปแบบดังกล่าวนี้ด้วย

โดยปัจจุบันนี้การออกเรือพานักท่องเที่ยวไปชมโลมานั้นค้นหายากกว่าในทุกปี โดยต้องใช้เรือตระเวนหาฝูงโลมาออกไปไกลจากชายฝั่งมาก หรือบางครั้งต้องนำพานักท่องเที่ยวออกไปตระเวนไกลจนถึงย่านชายฝั่งในเขต จ.ชลบุรี ด้านหน้าอ่างศิลา หรือออกไปไกลจนถึงรอยต่อในเขตคลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ซึ่งต้องใช้เวลาในการตระเวนค้นหานานหลายชั่วโมง จึงทำให้ต้นทุนของเรือนำเที่ยวสูงขึ้นไปด้วย เนื่องจากต้องใช้เชื้อเพลิงไปเป็นจำนวนมาก

ด้าน นายวัชรพงศ์ คุณปลื้ม อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 144/2 ถ.สันติเกษม ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวชมโลมาในวันนี้ กล่าวว่า วันนี้มาเที่ยวชมโลมาที่ปากอ่าวบางปะกง แต่ไม่ได้เห็นโลมา ทั้งที่เรือนำเที่ยวนั้นได้พยายามใช้เวลาออกเรือนานถึงกว่า 4 ชั่วโมงในการค้นหาไปจนถึงย่านทะเลหน้าตัวเมือง จ.ชลบุรี แล้วก็ตาม แต่ก็ยังประทับใจต่อการให้บริการของเรือนำเที่ยวที่ได้มีการให้บริการด้วยความมุ่งมั่น เต็มใจ และมีความรับผิดชอบที่อยากจะให้เราได้เห็นโลมาในธรรมชาติจริงๆ

รวมทั้งยังได้ช่วยอธิบาย และบรรยายเมื่อถึงจุดต่างๆ ในทะเล ที่มีทั้งโป๊ะเรือ ขนำสำหรับพักในทะเลของผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และการเลี้ยงหอยนางรม ตลอดจนการประกอบอาชีพต่างๆ ของชาวบ้าน และชาวประมงในทะเล อีกทั้งบรรยากาศที่บริเวณปากอ่าวบางปะกงนั้นมีบรรยากาศที่ดีมาก ได้เห็นนกนานาชนิดอาศัยอยู่ และหากินปลาบนผิวน้ำ

สำหรับการเดินทางมาท่องเที่ยวในครั้งนี้ ทราบข่าวจากการค้นหาทางโลกโซเชียลตามเว็บไซต์ต่างๆ ว่า ช่วงนี้เป็นฤดูกาลท่องเที่ยวของเทศบาลตำบลท่าข้าม ปากอ่าวบางปะกง และการมาท่องเที่ยวในครั้งนี้ก็ถือว่าไม่ได้ผิดหวังอะไร เพราะเรือนำเที่ยวนั้นให้บริการดี ตั้งใจพาค้นหาโลมาอย่างจริงจัง ทั้งยังตระเวนถามหากับเรือทุกลำที่ขับผ่านว่าได้พบโลมาบ้างหรือไม่ และหากมีโอกาสก็จะกลับมาท่องเที่ยวอีก

นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายในการล่องเรือชมโลมานั้นยังไม่แพงอีกด้วย โดยราคาค่าเช่าเรือแบบเหมาลำนั้นราคา 1,500 บาท ต่อเวลา 2-3 ชม. ซึ่งในครั้งนี้ออกไปค้นหาโลมานานถึงกว่า 4 ชม.แต่ราคาก็ยังเท่าเดิม และเมื่อเฉลี่ยต่อคนรายหัวแล้วอยู่ที่ราคาเพียง 100 บาทเศษต่อคนเท่านั้นเอง


กำลังโหลดความคิดเห็น