ขอนแก่นเตรียมสถานที่พร้อมรับคณะนายกรัฐมนตรี

ศูนย์ข่าวขอนแก่น - จังหวัดขอนแก่นเตรียมสถานที่พร้อมรับคณะนายกรัฐมนตรี ที่จะมาปฏิบัติภารกิจตรวจเยี่ยมผู้ประสบภัยแล้งในวันพรุ่งนี้ ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเตรียมยื่นข้อเสนอแก้ไขปัญหาภัยแล้งอย่างยั่งยืน

วันนี้ (18 พ.ย.) ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่นหลังใหม่ นายวิวัฒน เมธีวรรณกิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้ตรวจสอบพื้นที่บริเวณที่จัดงานรับคณะนายกรัฐมนตรี โดยมีการกางเต็นท์ขนาดใหญ่ พร้อมเวทีใช้เป็นสถานที่ปล่อยแถวเครื่องจักรกลสาธารณภัย เพื่อไปปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง โดยทางผู้จัดงานกำลังเร่งติดตั้งเวทีขนาดใหญ่และเครื่องเสียง เร่งให้แล้วเสร็จภายในวันนี้ (18 พ.ย.) ก่อนที่จะทดสอบระบบทั้งหมดไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดในพิธีจริง

ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจำนวนทั้ง 5 เขตในภาคอีสานประกอบด้วย เขต 5 นครราชสีมา เขต 6 ขอนแก่น เขต 7 สกลนคร เขต 15 อุบลราชธานี และเขต 14 อุดรธานี รวมทั้งมณฑลทหารบกที่ 23 ค่ายศรีพัชรินทร์ การประปาส่วนภูมิภาค สำนักทรัพยากรน้ำบาดาลเขต ได้นำรถสูบน้ำระยะไกล รถผลิตน้ำดื่ม รถบรรทุกน้ำดื่ม รถเจาะบาดาล รวม 126 คัน ตั้งขบวนรอพิธีปล่อยแถวในวันพรุ่งนี้ (19 พ.ย.)

ด้านนายกำธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า จังหวัดขอนแก่นพร้อมรับนายกรัฐมนตรี และคณะ อีกทั้งเตรียมเสนอโครงการแก้ไขปัญหาภัยแล้งอย่างยั่งยืน และเตรียมเสนอจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรมไปยังอำเภอและท้องถิ่นต่างๆ เพื่อความสะดวกของประชาชนที่จะเข้ามาแจ้งเรื่องราวร้องทุกข์

พล.ต.ท.บุญเลิศ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวว่า ตำรวจภูธรภาค 4 ได้เตรียมกำลังตำรวจในสังกัดรวมกว่า 1,500 นาย เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยให้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรี ที่จะมาตรวจเยี่ยมการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง และการดำเนินงานของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภาคอีสาน ที่จังหวัดขอนแก่น พร้อมปล่อยแถวเครื่องจักรกลสาธารณภัย

การตรวจเยี่ยมปัญหาภัยแล้งในพื้นที่อำเภอกระนวน และตรวจเยี่ยมเขื่อนลำปาวจังหวัดกาฬสินธุ์ ในวันพุธที่ 19 พฤศจิกายน 2557 ทางตำรวจภูธรภาค 4 ได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับประชาชนที่คาดว่าจะเข้ามายื่นหนังสือร้องเรียนเรื่องต่างๆ ต่อนายกรัฐมนตรี โดยให้จังหวัดและอำเภอจัดเจ้าหน้าที่มารับเรื่องร้องทุกข์ ส่วนกลุ่มต่อต้านรัฐบาลขณะนี้ทางตำรวจสันติบาลได้รายงานมาแล้วว่ายังไม่มีความเคลื่อนไหวของกลุ่มดังกล่าว แต่ตำรวจยังคงต้องใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุดรักษาความปลอดภัยนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะอย่างเข้มงวด