xs
xsm
sm
md
lg

สธ.มอบใบประกอบโรคศิลปะแพทย์แผนไทยให้เฒ่าชาวสุรินทร์ หลังใช้สมุนไพรรักษาพิษงูได้ผลชะงัด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชายวัย 72 ปีชาวสุรินทร์ เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรใช้รักษาถอนพิษงูได้ จนกระทรวงสาธารณสุขมอบใบประกอบโรคศิลป์แพทย์แผนไทยให้
สุรินทร์ - พบผู้เฒ่าชาวสุรินทร์วัย 72 ปีนำว่านโลดทะนงแดง ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา มาแก้พิษงูกัดได้ทุกชนิด จนกระทรวงสาธารณสุขยอมรับ มอบใบประกอบโรคศิลปะแพทย์แผนไทย รับเป็นหมออาสาร่วมกับแพทย์ทั้ง 3 โรงพยาบาล

รายงานข่าวจาก จ.สุรินทร์แจ้งว่า นายเอี้ยะ สายกระสุน หรือ “หมอเอี้ยะ” อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63 หมู่ 3 ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ปราชญ์ชาวบ้านที่นำว่านโลดทะนงแดงมาฝน (หิน) ลงในน้ำสะอาด ผสมหมากแห้ง ดื่มกินหรือโปะบาดแผลงูกัด ได้ทำหน้าที่เป็นหมออาสาร่วมกับแพทย์แผนปัจจุบัน ที่โรงพยาบาลกาบเชิง โรงพยาบาลปราสาท และโรงพยาบาลพนมดงรัก

โดยหากผู้ถูกสัตว์มีพิษกัดจะรีบเดินทางไปรักษาทันที และทุกวันต้องออกตรวจเยี่ยมผู้ที่มารักษาตัวทั้ง 3 โรงพยาบาลโดยไม่คิดค่าบริการ ส่วนว่านโลดทะนงแดงเปิดให้บูชาชุดละ 100 บาท ซึ่งก่อนหน้านี้จะให้ฟรี แต่ทุกวันนี้ว่านโลดทะนงแดงเริ่มจะหายากมาก ต้องขออนุญาตเข้าหาในเขตพื้นที่ของทหาร ติดกับเขตชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน

หมอเอี้ยะเล่าว่า เมื่อปี 2514 ได้ศึกษาเรื่องการแก้รักษาพิษงูหลังแม่ถูกงูเห่ากัดจนเสียชีวิต ซึ่งทุกคนช่วยอะไรไม่ได้เลย ตั้งแต่นั้นมาได้ขอคำแนะนำจากผู้รู้ คือ ลุง รวมทั้งศึกษาด้วยตนเอง จนมาพบว่านโลดทะนงแดงมีสรรพคุณแก้พิษงูได้ ต่อมาปี 2523 ได้ช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกงูกัด เนื่องจากโรงพยาบาลอยู่ไกลกว่า 40 กิโลเมตร ประกอบกับสถานีอนามัยสมัยนั้นไม่มีเซรุ่มแก้พิษงู ชาวบ้านใกล้ไกลจึงพากันมารักษาจำนวนมาก เกิดการยอมรับในภูมิปัญญาจากสมุนไพร

ขณะที่โรงพยาบาลกาบเชิงได้ศึกษาเรื่องของสมุนไพรด้านพิษงู จึงได้เชิญเข้าร่วมรักษาผู้ป่วยพร้อมกับแพทย์แผนปัจจุบัน และโรงพยาบาลปราสาท ให้เข้าร่วมรักษาเมื่อปี 2525 ขณะที่โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อำเภอพนมดงรัก ก็รู้กิตติศัพท์จนเป็นที่ยอมรับ กระทั่งกระทรวงสาธารณสุขได้ขึ้นทะเบียนใบประกอบโรคศิลปะแพทย์แผนไทยให้ ปัจจุบันเป็นหมออาสารักษาผู้ป่วยทั้ง 3 โรงพยาบาลตามแนวชายแดนด้วย

สำหรับวิธีการใช้ยา จะนำรากโลดทะนงแดง 1 หัวมาฝนกับหมากแห้ง ใช้น้ำสะอาดเป็นกระสายยา ฝนจนกระทั่งน้ำเป็นสีขุ่น แล้วให้ผู้ป่วยดื่ม รอสัก 3-5 นาทีจะอาเจียนออกมา หลังจากนั้นให้ดื่มซ้ำอีก ขณะเดียวกันทำยาปิดปากแผลที่งูกัด โดยบีบมะนาวเป็นกระสายยา นำรากโลดทะนงแดงและหมากแห้งมาฝน ปิดบริเวณปากแผลงูกัด ทำซ้ำไปเรื่อยๆ ทุก 2 ชั่วโมง ส่วนกรณีมีรอยไหม้ แผลเน่า ให้ใช้ว่านอึ่งทุบปิดแผล เด็กต้องลดปริมาณตามขนาด ซึ่งการใช้ยาไม่มีคาถากำกับแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ทางการแพทย์ได้นำรากว่านโลดทะนงแดงไปทดลองแล้ว พบว่าสามารถยับยั้งและลดพิษงูเห่าได้ ซึ่งขณะนี้แพทย์แผนไทยได้ขึ้นทะเบียนเรียบร้อยแล้ว
ปัจจุบันสมุนไพรชนิดนี้หายากมากขึ้น

กำลังโหลดความคิดเห็น