อุบลราชธานี - ทหารกองกำลังสุรนารีร่วมกับป่าไม้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ายอดโดม จ.อุบลราชธานี จับเขมรลอบเข้ามาตัดไม้พะยูงบนยอดเขาเส้นกั้นพรมแดนไทย-กัมพูชา สารภาพได้รับว่าจ้างให้มาตัดไม้ส่งข้ามไปประเทศกัมพูชาราคากิโลกรัมละ 10,000 เรียล หรือคิดเป็นเงินไทยราว 78 บาท
เมื่อเย็นวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา นายวรปรัชญ์ ทาสอน เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าไม้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ายอดโดม ร่วมกับทหารกองร้อยทหารพรานที่ 2310 ประจำช่องอานม้า ชุดลาดตระเวนร้อย ร.113 กองพันทหารราบที่ 11 (ฉก.1) กองกำลังสุรนารี ประจำอำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี ได้รับแจ้งมีกลุ่มชาวเขมรเข้ามาลักลอบตัดไม้พะยูงบริเวณป่าพลาญยาว ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ายอดโดม เส้นแบ่งพรมแดนไทย-กัมพูชา
เมื่อกำลังเจ้าหน้าที่ไปถึงได้ยินเสียงเลื่อยยนต์ขนาดใหญ่ที่ใช้ตัดไม้ดังก้องออกมาจากป่า จึงแสดงตัวเข้าจับกุม ปรากฏกลุ่มลักลอบตัดไม้ชาวกัมพูชาที่มีประมาณ 10 คน ทั้งทำหน้าที่ตัดไม้และชุดคุ้มกันได้พากันวิ่งหลบหนีหายเข้าไปในเขตแดนของกัมพูชาที่อยู่ห่างไปประมาณ 2 กิโลเมตร
แต่เจ้าหน้าที่สามารถจับนายพี เป๊ะ อายุ 36 ปี อ้างตัวเป็นราษฎรกัมพูชาจากบ้านจะกรอง ตำบลกระแจะ อำเภอจอมกระสาน จังหวัดพระวิหาร ได้พร้อมเลื่อยโซ่ยนต์ พร้อมบาร์และโซ่ใช้ตัดไม้ขนาดใหญ่จำนวน 1 เครื่อง และอุปกรณ์ใช้ทำไม้อีก 2 รายการ พร้อมตอไม้พะยูงขนาดใหญ่ที่ถูกตัดใหม่กระจายอยู่ในป่าจำนวน 3 ตอ แต่ไม่พบไม้พะยูง คาดกลุ่มลักลอบตัดไม้ชาวกัมพูชาได้เคลื่อนย้ายไม้ข้ามแดนเข้าไปยังประเทศของตนแล้ว
จึงคุมตัวนายพี เป๊ะ มาสอบสวนให้การว่า ได้รับการชักชวนจากกลุ่มตัดไม้ชาวกัมพูชาเดินทางข้ามแดนเข้ามาตั้งค่ายพักแรมทยอยตัดไม้ตั้งแต่เย็นวันที่ 11 พ.ย. และทยอยลำเลียงไม้ที่ตัดส่งข้ามแดนเข้าไปในประเทศกัมพูชาตามคำสั่งของนายทุน โดยได้รับจ้างกิโลกรัมละ 10,000 เรียล หรือ 78 บาทต่อคน
ระหว่างตัดไม้จะมีกองกำลังท้องถิ่นของกัมพูชาคอยทำหน้าที่คุ้มกันอยู่ด้วย กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ไทยบุกเข้าจับกุม ทำให้กลุ่มเพื่อนของตนและชุดคุ้มกันต่างพากันหลบหนีข้ามแดนกลับเข้าประเทศ ส่วนตนถูกจับไว้ได้
หลังการจับกุมหน่วยทหารได้ใช้กฎอัยการศึกนำตัวนายพี เป๊ะ ไปสอบสวน เพื่อขยายผลหากลุ่มนายทุนไทยและนายทุนกัมพูชาที่อยู่เบื้องหลังขบวนการตัดไม้กลุ่มนี้ พร้อมตั้งข้อหาเป็นคนต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรและตัดไม้หวงห้ามในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตดำเนินคดีต่อไป