อุบลราชธานี - สถานการณ์ภัยแล้งและอากาศหนาวเริ่มส่งผลกระทบต่อเกษตรกรที่เลี้ยงปลาในกระชังตามริมแม่น้ำมูลของจังหวัดอุบลราชธานีทยอยตายวันละนับร้อยตัว สาเหตุเกิดจากปริมาณน้ำที่ลดลงทำให้เป็นกรด มีออกซิเจนน้อย ประกอบกับสภาพอากาศแปรปรวนทำให้ปลาเลี้ยงอ่อนแอ
ผู้สื่อข่าวจังหวัดอุบลราชธานีรายงานว่า ภัยแล้งและอากาศหนาวเริ่มส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบอาชีพเลี้ยงปลานิลในกระชังตามแม่น้ำมูลในเขตบ้านวังยาง ต.บุ่งหวาย อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี กว่า 10 ราย ซึ่งมีปลาเลี้ยงอยู่ในความดูแลเกือบ 100,000 ตัว ทยอยตายจากสาเหตุในน้ำมีออกซิเจนลดลง โรคที่เกิดจากแบคทีเรีย และปรสิต ประกอบกับสภาพอากาศหนาว ทำให้ปลานิลที่เลี้ยงในกระชังปรับตัวไม่ทันอ่อนแอตายลงทุกวัน
นายทินกร กุลพร อายุ 58 ปี เจ้าของกระชังเลี้ยงปลาในบ้านวังยาง ต.บุ่งหวาย อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ระบุว่า ระดับน้ำในแม่น้ำมูลปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง จึงต้องคอยปรับกระชังปลาให้อยู่ในน้ำลึกไม่น้อยกว่า 1.50 เมตร และต้องใส่เกลือกับด่างทับทิมฆ่าเชื้อและลดกรดในน้ำ เพื่อลดการตายจากโรคแบคทีเรียและปรสิตเกาะตามเหงือก ครีบ และโคนหางของปลา ทำให้ปลามีบาดแผลและหายใจไม่สะดวก
รวมทั้งสภาพอากาศที่แปรปรวนกลางคืนหนาวกลางวันร้อน ปัจจุบันทุกกระชังมีปลาตายเฉลี่ยวันละกว่า 10 ตัว หรือวันละกว่า 100 ตัว
สำหรับระดับแม่น้ำมูลที่สถานีวัดน้ำสะพานเสรีประชาธิปไตย อ.เมือง วันนี้มีระดับน้ำสูง 3.58 เมตร และเมื่อเปรียบเทียบกับระดับน้ำในวันเดียวกันของปี 2556 มีระดับต่างกันกว่า 3 เมตร โดยช่วงนั้นมีระดับน้ำสูง 6.61 เมตร และปัจจุบันระดับน้ำยังปรับตัวลดลงวันละ 1-2 เซนติเมตรทุกวัน