ประจวบคีรีขันธ์ - ชาวบ้านในตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า เด็กในภาพที่ได้เข้าเฝ้ารับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างใกล้ชิด คือ “นายอัตรภูมิ ภูมิประเทศ” หรือ “หม่อม” พร้อมต่างรู้สึกดีใจที่ “อัตรภูมิ” จะได้มีโอกาสถวายความจงรักภักดีที่โรงพยาบาลศิริราช ถือเป็นตัวแทนของชาวบ้านห้วยสัตว์ใหญ่ และชาวประจวบคีรีขันธ์ด้วย
วันนี้ (16 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีกระทรวงวัฒนธรรม ได้ประกาศตามหาบุคคลในภาพที่ได้มีโอกาสเข้าเฝ้ารับเสด็จอย่างใกล้ชิด เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ.2522 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ ไปทรงเยี่ยมโครงการหมู่บ้านสหกรณ์ห้วยสัตว์ใหญ่ ป่าเด็ง ป่าละอู ตำบลหนองพลับ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งล่าสุด สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เปิดเผยว่าพบบุคคลดังกล่าวแล้ว คือ นายอัตรภูมิ ภูมิประเทศ หรือชื่อเล่นว่า หม่อม ขณะนี้มีอายุ 36 ปี ปัจจุบันประกอบอาชีพเป็นลูกจ้างร้านขายอะไหล่รถจักรยานยนต์ อยู่ในอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
วันนี้ นายอัตรภูมิ ภูมิประเทศ หรือหม่อม พร้อมด้วย นางสุนีย์ มารดา และครอบครัว ได้เดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านที่ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 1 บ้านเฉลิมเกียรติ ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมได้พบปะพูดคุยกับ นายมนูญ ทองแย้ม กำนันตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ รวมทั้งชาวบ้านบ้านเฉลิมเกียรติ ที่ทราบข่าวต่างก็มีการจับกลุ่มคุยกันในเรื่องนี้ และต่างรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก และรู้สึกยินดีที่นายอัตรภูมิ ภูมิประเทศ จะมีโอกาสได้ไปเข้าเฝ้าถวายความจงรักภักดี และถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งก็เท่ากับเป็นตัวแทนของชาวบ้านตำบลห้วยสัตว์ใหญ่
พร้อมกันนี้ ยังได้พาผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังสถานที่ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินฯ ทั้งที่อ่างเก็บน้ำพุไทร และบ้านของนางสุนีย์ ที่ปัจจุบันบ้านหลังเดิมผุพัง และมีการก่อสร้างใหม่ จากเดิมเป็นบ้านฝาผนังมุงด้วยไม้ไผ่ยกสูง ปัจจุบันเหลือเพียงชั้นเดียว
นางสุนีย์ มารดา นายอัตรภูมิ ภูมิประเทศ หรือหม่อม กล่าวอีกว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระราชทานต้นมะขามหวานใส่ชะลอม ให้แก่ นายอัตรภูมิ ภูมิประเทศ ซึ่งสามีของตนได้นำมาปลูกไว้ข้างบ้าน ตอนนี้มีอายุ 35 ปีแล้ว ส่วนบริเวณหน้าบ้านในปัจจุบันก็ยังคงเป็นถนนดินลูกรังในสมัยที่พระองค์เสด็จ
ลุงสำรวย ปุจฉาการ ชาวบ้านเฉลิมเกียรติ อายุ 77 ปี กล่าวว่า เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเยี่ยมโครงการหมู่บ้านสหกรณ์ห้วยสัตว์ใหญ่ ป่าเด็ง ป่าละอู ในปี 2522 นั้น ตนมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน ตนและชาวบ้านบางส่วนรอเฝ้ารับเสด็จฯ ที่บ้านของนางสุนีย์ ซึ่งเป็นบ้านเครื่องไม้ไผ่ต้นแบบของโครงการฯ
เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินที่อ่างเก็บน้ำพุไทร แล้วก็เสด็จพระราชดำเนินมายังบ้านของนางสุนีย์ ซึ่งอยู่ไม่ไกลมากนัก และได้เห็นโดยชัดเจนว่า นายธำรงค์ และนางสุนีย์ นำ ด.ช.อัตรภูมิ ในขณะนั้นเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างใกล้ชิด โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงใช้พระหัตถ์ซ้ายลูบศีรษะ ด.ช.อัตรภูมิ และมีพระราชปฏิสันถารกับนายธำรงค์ และนางสุนีย์
พร้อมกันนี้ ยังมีชาวบ้านอีกหลายคนได้ทูลเกล้าฯ ถวายพืชผลทางการเกษตรอีกหลายคน ซึ่งตนและชาวบ้านต่างก็ยืนยันว่า ด.ช.ในภาพที่กระทรวงวัฒนธรรม ประกาศตามหาคือ นายอัตรภูมิ อย่างแน่นอน
“ภายหลังจากทราบข่าวทุกคนที่อยู่เหตุการณ์วันนั้น และชาวบ้านห้วยสัตว์ใหญ่ต่างก็รู้สึกดีใจที่ นายอัตรภูมิ เป็นบุคคลที่ได้รับมงคลสูงสุดของชีวิต ได้ถวายความจงรักภักดี ณ โรงพยาบาลศิริราช”
ขณะที่ นายมนูญ ทองแย้ม กำนันตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ เล่าย้อนหลังกลับไปถึงเหตุการณ์ในวันที่ 7 มิถุนายน 2522 ว่าขณะนั้นตนมีอายุประมาณ 21 ปี ได้มีโอกาสเฝ้ารับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ ที่บริเวณอ่างเก็บน้ำพุไทร ในช่วงบ่ายของวันนั้น ร่วมกับชาวบ้านอีกหลายคน ซึ่งก็ยืนยันเช่นเดียวกันว่า บุคคลที่ได้เข้าเฝ้ารับเสด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างใกล้ชิดในวันนั้นคือ นายอัตรภูมิ
ภายหลังได้ทราบว่ากระทรวงวัฒนธรรม ประกาศตามหาบุคคลในภาพ ทางวัฒนธรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ก็ได้มาสอบถามชาวบ้านห้วยสัตว์ใหญ่ ซึ่งชาวบ้านต่างก็ระบุตรงกัน วันนี้ทุกคนในหมู่บ้านต่างรู้สึกดีใจต่อ นายอัตรภูมิ ถือเป็นตัวแทนของชาวบ้านห้วยสัตว์ใหญ่ และชาวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ถือเป็นความภาคภูมิใจของชาวห้วยสัตว์ใหญ่ ซึ่งทุกคนต่างก็สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระราชทานความช่วยเหลือแก่ชาวบ้านห้วยสัตว์ใหญ่ ทำให้ชาวบ้านมีอาชีพมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นจนถึงทุกวันนี้
พร้อมกันนี้ ชาวบ้านห้วยสัตว์ใหญ่ ได้ขอให้ทางจังหวัด อำเภอหัวหิน และองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ จัดปรับปรุงสถานที่เส้นทางเสด็จ และติดตั้งป้ายพร้อมสื่อความหมายประชาสัมพันธ์ถึงพระราชกรณีกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเสด็จเยี่ยมราษฎรในพื้นที่เพื่อให้เยาวชนในรุ่นหลังได้ทราบถึงความเหนื่อยยากของพระองค์ท่านที่ทรงช่วยเหลือพสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดด้วย