ศรีสะเกษ - น้ำเขื่อนชายแดนไทย-กัมพูชาไหลทะลักท่วมนาข้าวไพรบึง ศรีสะเกษ ต้นข้าวล้มจมน้ำเน่าเสียหายแล้วนับพันไร่ ขณะรถเกี่ยวข้าวไม่ยอมรับจ้าง เหตุระดับน้ำท่วมสูง
วันนี้ (14 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ที่บ้านประอาง ต.ปราสาทเยอ อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ น้ำจากเขื่อนที่อยู่ติดกับเทือกเขาพนมดงรัก ชายแดนไทย-กัมพูชาได้ไหลลงมาตามลำห้วยสำราญไหลทะลักเข้าท่วมนาข้าวของชาวบ้าน ระดับน้ำสูงกว่า 30 เซนติเมตร (ซม.) ทำให้ต้นข้าวที่กำลังสุกรอเก็บเกี่ยวล้มจมใต้น้ำเป็นบริเวณกว้าง และเน่าเสียหายแล้วประมาณ 1,000 ไร่ ขณะชาวนาต่างพยายามเร่งเกี่ยวข้าวที่จมน้ำเพื่อนำเอาไปตากแดดให้แห้งเพื่อไล่ความชื้น ส่วนนาที่น้ำยังท่วมไม่ถึงได้จ้างรถเกี่ยวข้าวให้มาทำการเกี่ยวข้าวอย่างเร่งด่วน
นางสาวประสิทธิ์ ทรงจิต อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57 ม.3 บ้านประอาง ต.ปราสาทเยอ อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า น้ำจากเขื่อนชายแดนไทย-กัมพูชาได้ไหลเข้ามาท่วมนาข้าวของชาวบ้านมานานประมาณ 20 วันแล้ว โดยน้ำได้ทะลักเข้าท่วม 3 ระลอก และมีฝนตกต่อเนื่อง แต่ที่หนักมากที่สุดคือ น้ำจากเขื่อนที่ไหลลงมาจำนวนมากทำให้ต้นข้าวที่เกี่ยวไม่ทันต้องล้มจมใต้น้ำเมล็ดข้าวเน่าเสียหาย ซึ่งนาข้าวที่จมน้ำรถเกี่ยวข้าวจะไม่ยอมรับจ้างเกี่ยวให้เนื่องจากระดับน้ำท่วมสูงต้องใช้เวลาเกี่ยวนาน จึงหันไปรับจ้างเกี่ยวข้าวนาน้ำแห้งที่ต้นข้าวยืนต้นก่อน ส่งผลให้ต้นข้าวที่ล้มแช่น้ำต้องเน่าเสียหายจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนราคาค่าจ้างเกี่ยวข้าวจากเดิมปกติเพียงไร่ละ 700 บาท ขณะนี้ได้เพิ่มค่าจ้างเป็นไร่ละ 750 บาทแล้ว ทำให้ชาวบ้านประอางได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก