ศรีสะเกษ - ชาวนาโวยน้ำเขื่อนติดชายแดนเขมรไหลทะลักท่วมต้นข้าวที่กำลังสุกเต็มท้องนารอเก็บเกี่ยวเสียหายนับหมื่นไร่ ขณะผู้ว่าฯ ศรีสะเกษเผยเป็นน้ำล้นเขื่อนและฝายแต่ละแห่งตามลำห้วยสำราญได้ปิดประตูกักเก็บน้ำไว้ใช้หน้าแล้ง ทำให้เอ่อล้นไหลเข้าท่วมไร่นาของ ปชช. พร้อมเร่งแก้ไขปัญหาด่วนแล้ว
เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (9 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านสระบานสามัคคี ต.สำโรงตาเจ็น อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ นายอุดมการณ์ บัวเกษ ประธานเครือข่ายลุ่มน้ำห้วยสำราญภาคประชาชน และคณะ ได้นำสื่อมวลชนไปตรวจสอบสภาพนาข้าวของประชาชนที่ต้นข้าวกำลังสุกเต็มท้องนารอการเก็บเกี่ยว แต่ได้มีน้ำไหลทะลักลงมาจากเขื่อนที่อยู่ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เข้ามาท่วมนาส่งผลให้ต้นข้าวจมอยู่ใต้น้ำ
ชาวนาต่างต้องเก็บเกี่ยวข้าวที่จมอยู่ในน้ำอย่างเร่งด่วน รวมทั้งจ้างรถเกี่ยวข้าวเพื่อเร่งเกี่ยวข้าวที่จมอยู่ใต้น้ำมาหลายวันไม่ให้เน่าเสียหาย เนื่องจากน้ำท่วมมานานหลายวันทำให้ต้นข้าวของประชาชนที่เก็บเกี่ยวไม่ทันเน่าเสียหายไปแล้วจำนวนมาก ซึ่งทั้งรถเกี่ยวข้าวและชาวนาต้องลุยน้ำเร่งเกี่ยวข้าวกันอย่างเต็มที่
นายอุดม บัวเกษ ประธานเครือข่ายลุ่มน้ำห้วยสำราญภาคประชาชน กล่าวว่า น้ำจากเขื่อนชายแดนไทย-กัมพูชาได้ไหลทะลักเข้ามาท่วมไร่นาของพวกตนนานร่วม 10 วันแล้ว ส่งผลให้ต้นข้าวจมน้ำเน่าเสียหายหลายหมื่นไร่ จากการตรวจสอบสาเหตุที่มาของน้ำท่วมนาเบื้องต้นคาดว่ามีการปล่อยน้ำจากเขื่อนลงมาตามลำห้วยสำราญไหลทะลักเข้าท่วมนาของชาวบ้าน ซึ่งในช่วงเวลานี้มักมีน้ำท่วมต้นข้าวทุกปี
แต่ขณะที่ช่วงชาวนาต้องการน้ำเพื่อใช้ในการทำนากลับไม่ปล่อยน้ำลง ซึ่งการที่เขื่อนปล่อยน้ำลงมาเช่นนี้เป็นการบริหารจัดการน้ำที่ไม่ถูกต้อง เพราะทำให้นาที่ต้นข้าวกำลังสุกพร้อมเก็บเกี่ยวถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย จึงขอให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาช่วยเหลือชาวนาอย่างเร่งด่วนด้วย
ด้านนายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้เขื่อนทั้ง 14 แห่งของ จ.ศรีสะเกษ น้ำเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ ทำให้น้ำล้นสปรินเวย์ลงมาตามลำห้วยสำราญจำนวนมาก และฝายทุกแห่งที่น้ำไหลผ่านได้ปิดประตูฝายระบายน้ำเอาไว้เพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้ง ส่งผลให้น้ำไหลเอ่อล้นเข้าไปท่วมไร่นาต้นข้าวของชาวบ้านตามเส้นทางที่ลำห้วยสำราญไหลผ่าน ซึ่งตนได้แก้ไขปัญหาโดยด่วนแล้ว โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เปิดประตูระบายน้ำของฝายทุกแห่งตามเส้นทางน้ำที่ลำห้วยสำราญไหลผ่าน เพื่อให้ระดับน้ำที่กำลังท่วมนาข้าวของชาวบ้านให้ลดระดับลงโดยด่วนที่สุด
โดยในเขต อ.ปรางค์กู่ ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมนาข้าวเรียบร้อยแล้ว ส่วนเขตท้องที่ อ.ขุขันธ์ และ อ.วังหิน ได้ดำเนินการสั่งเปิดประตูฝายระบายน้ำแล้ว ซึ่งจะทำให้น้ำลดระดับลงเข้าสู่ภาวะปกติใน 1-2 วันนี้