บุรีรัมย์ - เกษตรกร อ.ลำปลายมาศ บุรีรัมย์ เร่งเกี่ยวข้าวหนีน้ำท่วมขัง หลังฝนตกหนักและลมแรงทำให้ต้นข้าวล้มรวงข้าวแช่น้ำ หากปล่อยไว้นานหวั่นเน่าเปื่อยเสียหาย พร้อมเรียกร้องรัฐบาลดูแลราคารับซื้อข้าวหวั่นถูกโรงสีฉวยโอกาสกดราคาเอาเปรียบชาวนา เพราะไม่มีโครงการรับจำนำหรือประกันรายได้เหมือนทุกปี
วันนี้ (9 พ.ย.) เกษตรกรบ้านหนองตลาดควาย ต.หนองบัวโคก อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ กว่า 10 ราย ได้เร่งเก็บเกี่ยวข้าวหนีน้ำที่ท่วมขังตามทุ่งนา หลังมีฝนตกหนักและลมแรงจนทำให้ต้นข้าวล้มและรวงข้าวจมน้ำ โดยเกษตรกรบอกว่าหากปล่อยให้รวงข้าวแช่น้ำเป็นเวลานาน 3-4 วันโดยไม่เร่งเก็บเกี่ยวขึ้นไปตากอาจทำให้ผลผลิตเน่าเปื่อยเสียหายได้ ประกอบกับช่วงนี้ข้าวได้สุกแก่เต็มที่แล้ว
ขณะที่บางรายต้องยอมควักเงินจ่ายค่าจ้างแรงงานเก็บเกี่ยวข้าวถึงรายละ 300 บาทต่อวัน เพราะหากปล่อยไว้จะต้องสูญเสียมากกว่านี้
ทั้งนี้ เกษตรกรยังได้เรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาดูแลกำหนดราคารับซื้อข้าวเปลือกไม่ให้ต่ำกว่าตันละ 16,000 บาท เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ประกอบการโรงสีหรือจุดรับซื้อข้าวต่างๆ ฉวยโอกาสกดราคาเอารัดเอาเปรียบเกษตรกร เพราะปีนี้ไม่มีโครงการรับจำนำหรือโครงการประกันรายได้เหมือนกับทุกปีที่ผ่านมา แต่ปล่อยให้มีการรับซื้อตามกลไกตลาด
นางสมัย พิมพ์โคตร อายุ 37 ปี ชาวนาบ้านหนองตลาดควาย ต.หนองบัวโคก อ.ลำปลายมาศ บอกว่า หลังจากมีฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันทำให้เกิดน้ำท่วมขังตามทุ่งนา ทั้งยังมีลมแรงจนทำให้ต้นข้าวล้มและรวงข้าวจมน้ำ โดยในหมู่บ้านประสบปัญหาในลักษณะเดียวกันมากกว่า 10 ราย จึงต้องเร่งพากันเก็บเกี่ยวข้าวหนีน้ำ เพราะหากปล่อยให้รวงข้าวแช่น้ำหลายวันก็จะทำให้เน่าเปื่อยเสียหาย จนไม่สามารถเก็บไว้บริโภคหรือนำไปขายได้