แพร่เร่งปัดกวาดแหล่งมั่วสุมเซ็กซ์-ยา ชาวบ้านเหน็บอย่าเป็นแค่ไฟไหม้ฟาง

แพร่ - ตำรวจ สภ.เมืองแพร่กำชับสายตรวจคุมเข้มมุมอับที่รวมตัวเด็กชอบลองของ เทศบาลฯ ติดตั้งเสาไฟฟ้าให้แสงสว่างในพื้นที่ ชาวบ้านพอใจแต่ขอให้ดำเนินการสม่ำเสมอ ด้านพ่อเมืองออกมาย้ำให้ทุกฝ่ายต้องเข้ามาร่วมช่วยกันแก้ไข โดยเฉพาะปัญหาเด็กนักเรียนออกมาค้าประเวณี

รายงานข่าวจากจังหวัดแพร่แจ้งว่า หลังจากกลุ่มเยาวชนอาสาสมัครที่ออกมาพูดในเวทีประชาคมถึงร่องรอยการเสพติดแบบใหม่ รวมทั้งการมั่วสุมมีเพศสัมพันธ์กันในมุมอับของเมืองแพร่หลายจุด จนเป็นที่สนใจของกลุ่มประชาสังคมในจังหวัดแพร่ และนำไปสู่การเสนอเป็นข่าวในสื่อต่างๆ เพียงสัปดาห์เดียว ขณะนี้ได้มีการคุมเข้มและกวดขันพร้อมทั้งมีมาตรการออกมาป้องกันปัญหาเหล่านี้แล้ว

แหล่งที่มีเยาวชนในวัยเรียนจากโรงเรียนชื่อดังในเขตเทศบาลเมืองแพร่ โรงเรียนในเขต อ.สูงเม่น ทั้งเตรียมอุดมฯ และวิชาชีพ ไปมั่วสุมเสพยาและมีเพศสัมพันธ์บริเวณแนวกำแพงเมืองโบราณที่เป็นมุมอับไม่มีแสงสว่างเพียงพอ โดยเฉพาะบริเวณชุมชนทุ่งต้อม และร่องซ้อ และที่บริเวณส่วนนอกของเขตเทศบาลฯ อยู่บริเวณประตูระบายน้ำ ถนนพยาพล ต.ป่าแมต อ.เมือง จ.แพร่นั้น

ล่าสุดในบริเวณที่เป็นปัญหาไม่มีวัยรุ่นออกมามั่วสุมอีกเลย โดยนายโชคชัย พนมขวัญ นายกเทศมนตรีเมืองแพร่ กล่าวว่า ความจริงแล้วที่เทศบาลฯ แก้ไขปัญหาจุดมุมอับต่างๆ มีการตั้งเสาไฟฟ้าและให้แสงสว่างในบริเวณดังกล่าวนั้นถือเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ทางเทศบาลฯ และตำรวจได้เข้าควบคุมจุดเสี่ยงได้ แต่วัยรุ่นเหล่านี้ก็จะไปหาจุดอื่นๆ ทำกิจกรรมกันต่อ ซึ่งอาจมองได้ว่าเป็นวัยชอบลองของ แต่การลองของที่เป็นกิจกรรมดีๆ ก็น่าสนับสนุน ซึ่งในสังคมเมืองแพร่ยังขาดกิจกรรมที่เด็กๆ ชอบและไม่สร้างปัญหาตามมา ซึ่งหลายฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชนต้องเข้ามาให้ความสนใจร่วมกันพูดคุยเพื่อทำให้เมืองแพร่เป็นเมืองที่น่าอยู่มากขึ้น

นอกจากนี้ พ.ต.อ.ทรงกริช อ่อนตะไคร้ ผกก.สภ.เมืองแพร่ ได้มีคำสั่งให้ชุดสายตรวจออกตรวจในบริเวณดังกล่าวอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในช่วงกลางคืน จากการทำงานดังกล่าวเป็นการป้องปรามกลุ่มเด็กๆ ที่เข้าไปมั่วสุมทำกิจกรรมที่ไม่เหมาะสม โดยวัยรุ่นเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นที่อยู่ต่างอำเภอห่างไกลผู้ปกครองส่งเข้ามาเรียนในตัวเมืองอาศัยหอพักที่ไม่มีระเบียบมากนักทำให้สามารถออกมาเที่ยวในเวลากลางคืนได้อย่างเสรี และยังไม่กวดขันเรื่องการดื่มสุรามากนัก หลังจากนี้คงต้องมีการกวดขันให้มากขึ้น

หนึ่งในสมาชิกกลุ่มเด็กอาสาเล่าให้ฟังว่า พวกตนยังคงทำงานในชุมชนเขตเทศบาลเมืองแพร่ไปอย่างต่อเนื่อง โดยมีเยาวชนที่มีพฤติกรรมเสี่ยงกลับใจหันมาทำกิจกรรมที่เหมาะสม เช่น การตั้งทีมเล่นกีฬา ซึ่งการกีฬาของพวกเขาไปแข่งที่ไหนไม่เคยประสบชัยชนะ แต่สิ่งที่พวกเขาได้คือการปลูกฝังสำนึกร่วมความรักความสามัคคี การแข่งขันทำให้สนุก สร้างร่างกายให้แข็งแรง ไม่จำเป็นต้องมุ่งที่ชัยชนะ

นอกจากกิจกรรมสันทนาการที่เหมาะสมกับวัยแล้ว เด็กอาสาดังกล่าวยังลงพื้นที่สำรวจจุดเสี่ยงที่พวกเขาพบเห็นเข้าใจมากกว่าผู้ใหญ่ที่มองไม่เห็นหรือคาดไม่ถึง แต่พวกเขาเข้าใจพฤติกรรมของเพื่อนๆ ซึ่งการทำงานมานานกว่า 2 ปีแล้วที่เด็กกลุ่มนี้ทำงานได้ผลสามารถนำเอาเยาวชนที่ใกล้เข้าไปสู่จุดเสี่ยงออกมาสู่สังคมที่ดีได้ แม้เด็กๆ เหล่านี้จะมาจากต่างอำเภอแต่สามารถรวมตัวกันทำงานได้เป็นอย่างดี

จากการสอบถามชาวบ้านในบริเวณริมกำแพงโบราณ บ้านทุ่งต้อม ที่เอือมระอากับพฤติกรรมของกลุ่มวัยรุ่น ต่างแสดงความคิดเห็นในทำนองเดียวกันว่า ถ้ามีมาตรการป้องกันทำให้วัยรุ่นไม่สามารถใช้เป็นที่มั่วสุมได้ ชาวบ้านในละแวกบ้านทุ่งต้อมที่ต้องใช้เส้นทางผ่านก็ปลอดภัย ที่ผ่านมาไม่กล้าให้ลูกออกจากบ้านในเวลากลางคืน จะไปซื้ออะไรก็ทำไม่ได้เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตรายแก่บุตรหลานได้ การเข้ามาควบคุมของทางราชการไม่ควรทำแบบไฟไหม้ฟาง ควรมีมาตรการที่สม่ำเสมอต่อเนื่อง และพัฒนาบริเวณเหล่านี้ให้สวยงานต่อไป ชุมชนพอใจมากในการทำงานครั้งนี้หลังสื่อมวลชนออกมาตีแผ่

อย่างไรก็ตาม ปัญหาดังกล่าว นายศักดิ์ สมบุญโต ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ มีความห่วงใยและได้มอบนโยบายให้ข้าราชการมหาดไทย รวมทั้ง อปท.ทุกแห่งให้มีการกวดขันไม่ให้เด็กเยาวชนออกไปค้าประเวณีให้ได้ โดยนายศักดิ์ได้ยกตัวอย่างยังพบเยาวชนในระบบโรงเรียนออกไปค้าประเวณีในราคาเพียง 650 บาทเท่านั้น ซึ่งจุดเสี่ยงเหล่านี้อาจเป็นแหล่งเพาะความกล้าที่จะออกไปค้าประเวณีในอนาคตถ้าไม่รีบช่วยกันแก้ปัญหา