“ทำไมเดี๋ยวนี้ไก่โตเร็วจังเลี้ยงไม่กี่วันก็จับขายได้แล้ว?” “ให้ลูกกินไก่ระวังจะโตเร็วนะ?” “ไม่กล้าให้ลูกกินไก่เพราะกลัวจะเป็นหนุ่มเป็นสาวเร็ว” “กินไก่เยอะๆ เดี๋ยวจะนมโตนะ”....คำพูด และคำถามเหล่านี้เชื่อว่าผู้อ่านต้องเคยได้ยินมาบ้าง ด้วยเพราะยังมีความเชื่อที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับ “ไก่เนื้อ” และการบริโภค “เนื้อไก่” ว่ามีการใช้ฮอร์โมน และสารเร่งการเจริญเติบโต
เมื่อวันก่อนมีโอกาสได้ร่วมงานสัมมนาวิชาการของสมาคมวิทยาศาสตร์สัตว์ปีกโลก สาขาประเทศไทย ที่ได้เชิญ ผศ.ดร.ยุวเรศ เรืองพานิช ภาควิชาสัตวบาล คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน มาเป็นวิทยากรบรรยายในหัวข้อ “เทคโนโลยีที่ชี้นำการผลิตสัตว์ปีกให้ปลอดจากฮอร์โมน และสารเร่งการเจริญเติบโต” ที่ทำให้รู้ว่าเพราะเหตุใดไก่เนื้อสมัยนี้ถึงโตเร็วโดยไม่ต้องใช้สารเร่งใดๆ
ผศ.ดร.ยุวเรศ กล่าวว่า วันนี้ยังคงมีข้อสงสัยว่า ทำไมการเลี้ยงไก่เนื้อนับวันจะใช้เวลาในการเลี้ยงน้อยลงจากอดีต อย่างเมื่อปี 1957 ที่ต้องใช้เวลาเลี้ยงถึง 84 วันในการทำน้ำหนักไก่ให้ได้ 2.3-2.5 กก./ตัว แต่ปัจจุบันนี้ใช้เวลาเพียง 37 วันเท่านั้น ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่า “เทคโนโลยีสมัยใหม่” เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อวงการอุตสาหกรรมไก่เนื้ออย่างมาก เนื่องจากมีการวิจัย และพัฒนาอยู่ตลอดเวลา กระทั่งปัจจุบันสามารถยืนยันได้ว่า เทคโนโลยีด้าน “พันธุกรรมสัตว์” เป็นปัจจัยชี้นำที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตของไก่
ภาครัฐ และเอกชนนั้นมีการปรับปรุงพันธุ์ไก่มาอย่างยาวนาน โดยในสหรัฐฯ ทำการปรับปรุงพันธุ์มานาน 60-70 ปีแล้ว และจากงานวิจัยในอดีต ของ Dr.Havenstein แห่ง North Carolina State University ในปี 2006 ได้ทำการเปรียบเทียบไก่เนื้อสายพันธุ์ดั้งเดิมที่มีการเจริญเติบโตช้ากับสายพันธุ์ลูกผสมในปัจจุบัน เช่น ROSS 308 และในระยะ 10 ปีที่ผ่านมา พบว่า การเลี้ยงไก่เนื้อให้ได้น้ำหนักส่งตลาด จะใช้เวลาเลี้ยงเหลือเพียงครึ่งหนึ่งก็ได้น้ำหนักเท่ากับสายพันธุ์ดั้งเดิม ขณะที่วิวัฒนาการการเลี้ยงไก่ปรับตัวดีขึ้นเป็นลำดับ ในการเลี้ยงยังได้มีการปรับสภาพโรงเรือน-สิ่งแวดล้อม และการจัดการสุขภาพสัตว์ควบคู่ไปในทิศทางเดียวกัน ทำให้ได้สมรรถภาพการผลิตสัตว์ปีกที่ดี และนอกจากจะใช้ระยะเวลาเลี้ยงน้อยลงแล้ว สัตว์ยังใช้อาหาร และพลังงานในการเลี้ยงต่ำลงอีกด้วย
นอกจากนี้ สายพันธุ์ไก่ยุคใหม่ที่โตเร็วนั้น พบว่า มีการพัฒนาของขนาดหัวใจ และระบบทางเดินอาหารที่สอดคล้องต่อน้ำหนักตัวที่เพิ่มอย่างเร็ว อีกทั้งยังมีโครงสร้างกระดูกที่แข็งแรงขึ้นด้วย เรียกได้ว่าอวัยวะภายในมีพัฒนาการสอดคล้องสมดุลต่อการเจริญเติบโต ไก่เนื้อมีพื้นที่ผิวในการดูดซึมสารอาหารมากขึ้นถึง 55% เมื่อเทียบกับสายพันธุ์ในอดีต ในระยะเวลาการเลี้ยงเพียง 37 วัน พบว่า อัตราแลกเนื้อต่ำลง และมีอัตราการสะสมโปรตีนในเนื้อสูงขึ้น ฉะนั้น จึงไม่จำเป็นต้องเร่งการเจริญเติบโตโดยการใช้ฮอร์โมน หรือสารเร่งการเจริญเติบโตอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันที่ไก่มีการเจริญเติบโตที่เร็วนั้น จะมีกระบวนการเผาผลาญสารอาหารและเกิดการสร้างความร้อนในร่างกายที่สูง มีการปล่อยความร้อนออกสู่สภาพแวดล้อมที่สูง การจัดการด้านการระบายอากาศในโรงเรือนจึงควรมีการปรับให้เหมาะสมด้วย มิเช่นนั้นจะมีผลโดยตรงต่อการทำงาน และการเจริญเติบโตของร่างกาย
ปัจจัยสุขภาพทางเดินอาหารไก่นั้นก็ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากสัตว์ปีกมีทางเดินอาหารที่ค่อนข้างสั้น สุขภาพทางเดินอาหารจึงเป็นสิ่งสำคัญที่มีผลต่อสุขภาพโดยรวมของไก่ จึงมีความจำเป็นต้องจัดการให้มีความสมดุลของประเภทจุลินทรีย์ทั้งดี และก่อโรค จึงควรต้องให้ความสำคัญต่ออาหารสัตว์ที่ให้ไก่กิน
ปัจจุบัน การผลิตอาหารไก่เนื้อนั้นนับว่ามีเทคโนโลยีที่ทันสมัย อาจกล่าวได้ว่าเราสามารถผลิตอาหารที่มีคุณภาพดี ปลอดภัย และมีสารอาหารครบถ้วนแทบจะใกล้เคียงกับเทคโนโลยีการผลิตอาหารที่มนุษย์บริโภคกัน ตลอดจนเราสามารถคำนวณได้ว่า ไก่จะย่อย และดูดซึมสารอาหารได้เท่าใดซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการคำนวณอัตราการเติบโตของไก่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ องค์ประกอบทั้งหมดนี้เมื่อประกอบเข้าด้วยกันย่อมส่งเสริมให้ไก่เนื้อเติบโตได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่จำเป็นต้องใช้สารเร่งโตแต่อย่างใด
ที่สำคัญประเทศไทยมีกฎหมายห้ามใช้ฮอร์โมนผลิตไก่เนื้อมาตั้งแต่ 2529 ใครลักลอบฝ่าฝืนย่อมต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะเดียวกัน ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตและส่งออกไก่รายใหญ่ของโลก การผลิตอาหารเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคในแต่ละประเทศ ก็เป็นกฎระเบียบที่ประเทศเราต้องปฏิบัติตาม หากยังมีคำถามว่าไก่ในประเทศมีมาตรฐานเดียวกับส่งออกหรือไม่ ก็ตอบได้เลยว่า ไม่มีผู้ประกอบการรายใดลงทุนสร้างสายการผลิตให้เป็น 2 รูปแบบ เพราะเท่ากับเป็นการเพิ่มต้นทุน สู้ทำมาตรฐานเดียวได้ทั้งส่งออก และขายในประเทศไปด้วยเลยย่อมคุ้มค่ากว่า
“ด้วยศักยภาพของพันธุ์ที่นักปรับปรุงพันธุ์ได้ทำงานมาตลอดระยะเวลากว่า 60-70 ปี ที่ปรับสายพันธุ์ให้มีการเจริญเติบโตที่สูงกว่าเดิม สามารถใช้อาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพสำหรับการเจริญเติบโตเพื่อให้ไก่มีน้ำหนักส่งตลาดได้ในระยะเวลาค้อนข้างสั้น รวมถึงระบบการจัดการการเลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของโรงเรือน การควบคุมโรค หรือการให้สัตว์มีสวัสดิภาพ (Animal Welfare) และสุขภาพที่ดี ซึ่งมีวิวัฒนาการที่ดี และสอดคล้องกัน ทำให้มั่นใจได้ว่า ไม่จำเป็นต้องพึ่งฮอร์โมน หรือสารเร่งการเจริญเติบโตเพื่อช่วยให้ไก่เนื้อโตได้เร็วอย่างที่บางคนเข้าใจ” ผศ.ดร.ยุวเรศ กล่าว
ในส่วนของผู้ปกครองอาจมีความกังวลว่าการรับประทานเนื้อไก่อาจมีส่วนทำให้บุตรหลานได้รับฮอร์โมนที่ตกค้างแล้วทำให้เจริญเติบโตเร็วกว่าปกติหรือเปล่า ผศ.ดร.ยุวเรศ บอกว่า ค่อนข้างเชื่อมั่นเทคโนโลยีการผลิต และวิทยาการสมัยใหม่ที่ไม่มีการใช้ฮอร์โมนเร่งโตอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม พ่อแม่ผู้ปกครองควรเลือกซื้อเนื้อไก่จากแหล่งผลิตที่มีคุณภาพเชื่อถือได้
หลังจากนี้ คนที่ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้คงได้คลายความกังวล และสามารถรับประทานเนื้อไก่ได้อย่างมั่นใจ อย่างปล่อยให้ความเข้าใจผิดๆ กลายเป็นการปิดกั้นการเข้าถึงโปรตีนคุณภาพดีเสียที