xs
xsm
sm
md
lg

ไฟไหม้เรือเพิ่งดับ-เผาเบนซิน 4.2 หมื่นลิตรเกลี้ยง หึ่งส่งออกน้ำมันขายถูกกลางน้ำโขงอื้อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เชียงราย - เผยไฟไหม้เรือบรรทุกน้ำมันในน้ำโขงเพิ่งดับลงตี 3 เผาเบนซิน 42,000 ลิตรแห้งหมด ขณะที่ นรข.เล็งจัดระเบียบเรือน้ำมันใหม่ จี้ท่าเรือฯ ออกระเบียบห้ามเรือไม่ได้มาตรฐานเทียบท่าป้องกันเหตุร้ายซ้ำ หลังใช้กฎหมายคุมไม่ได้ สะพัดคนลอบขนน้ำมันราคาถูกขายกลางน้ำเป็นว่าเล่น กินกำไรหลายต่อ

วันนี้ (9 พ.ย.) น.อ.ภานุ รัตนนันทวาที ผบ.หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยในแม่น้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย นำกำลังทหารเรือเข้าตรวจสอบซากเรือบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิงสัญชาติลาวชื่อเรือโชคพรชัย 0120 ซึ่งบรรทุกน้ำมันเบนซินประมาณ 46,000 ลิตร แล้วถูกไฟไหม้ทั้งลำขณะขนถ่ายน้ำมันจากท่าเรือห้าเชียงในฝั่งไทย บ้านสบรวก ม.1 ต.เวียง อ.เชียงแสน เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (8 พ.ย.) ก่อนไปเกยตื้นที่เกาะดอนใหม่ใกล้ฝั่งไทย พื้นที่บ้านห้วยเกี๋ยง ม.8 ต.เวียง อ.เชียงแสน

จากการตรวจสภาพพบว่า เปลวเพลิงที่ลุกไหม้เรือลำดังกล่าวได้มอดลงเมื่อช่วงเวลาประมาณ 03.30 น.ที่ผ่านมา เนื่องจากน้ำมันที่อยู่ในถังขนาดใหญ่จำนวน 3 ถังตลอดแนวความยาวของลำเรือประมาณ 40 เมตร ลุกไหม้จนแห้งหมด ขณะที่ตัวถังเรือด้านนอกยังคงแข็งแรงแต่อุปกรณ์ภายในเรือไหม้เสียหายทั้งหมด รวมมูลค่าความเสียหายทั้งหมดประมาณ 3.5 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่พบเรือสัญชาติลาว ชื่อ เรือมณีพร 049 เข้าไปบรรทุกน้ำมันดีเซลที่จุดเดียวกัน โดยถูกไฟจากเรือโชคพรชัย 0120 ลามไปลุกไหม้หลังคาผ้าใบจนเสียหาย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ไทยให้เรือดังกล่าวจอดเทียบท่าห้าเชียง โดยไม่ต้องออกจากฝั่งไปแม้ว่าลูกเรือทุกคนจะปลอดภัย และเรือสามารถแล่นออกไปได้ เพื่อตรวจสอบด้านมาตรฐานความปลอดภัยก่อน ส่วนเรือโชคพรชัย 0120 ทางเจ้าหน้าที่จะได้ทำการเก็บกู้ตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

น.อ.ภานุกล่าวว่า ที่ผ่านมา นรข.เขตเชียงราย ในฐานะหน่วยงานที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ได้ประชุมหารือกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรือบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิงในแม่น้ำโขงมาแล้ว 4 ครั้ง ล่าสุดมีการประชุมกันเมื่อวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมานี้เอง เพื่อหาวิธีการทำให้เรือมีมาตรฐานและไม่เกิดอันตราย เพราะเรือที่นำมาใช้บรรทุกน้ำมันในปัจจุบันมีทั้งเรือที่ได้มาตรฐาน มีแท็งก์บรรจุน้ำมันอยู่ภายในลำเรือ ปิดด้านบนด้วยตัวถังเรืออย่างมิดชิด และเรือชนิดดัดแปลง โดยนำถังน้ำมันไปวางยาวไว้บนลำเรือ ส่วนด้านบนก็มีทั้งหลังคาผ้าใบ ข้าวของเครื่องใช้ ที่นอน ฯลฯ ซึ่งล้วนติดไฟง่าย

จากการหารือได้ข้อสรุปว่า เรือบรรทุกน้ำมันในแม่น้ำโขงมีทั้งสัญชาติจีน พม่า และ สปป.ลาว กรณีของเรือลาวพบว่าเป็นเรือดัดแปลง ซึ่งตามมาตรฐานเรือไทยไม่สามารถอนุญาตให้บรรทุกน้ำมันได้ แต่เรือลาวอ้างว่าได้รับใบอนุญาตจากทางการ สปป.ลาว แล้ว ทำให้แล่นในแม่น้ำโขงได้

และในการประชุมครั้งล่าสุดจึงได้กำหนดให้เรือแต่ละลำมีอุปกรณ์รองรับกรณีเกิดอุบัติเหตุ แต่มาเกิดเหตุการณ์เรือเกิดปะทุขึ้นในวันที่ 8 พ.ย. หรือหลังจากมีการประชุมกันเพียงวันเดียว ดังนั้นจะมีการนัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกันอีกครั้ง โดยให้ท่าเรือห้าเชียงส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมด้วย เนื่องจากเป็นท่าเรือเดียวด้าน อ.เชียงแสน ที่มีการจ่ายน้ำมันให้แก่เรือในแม่น้ำโขง เพื่อให้ท่าเรือกำหนดระเบียบสำหรับเรือที่จะเทียบฝั่ง

“เมื่อใช้กฎหมายไทย กำหนดให้เรือน้ำมันในแม่น้ำโขงปรับปรุงเรือใหม่ไม่ได้ ก็ให้ท่าเรือออกระเบียบสำหรับเรือที่จะเข้าเทียบท่าของตัวเอง ซึ่งสามารถทำได้”

ทั้งนี้ ในปัจจุบันเรือดัดแปลงบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิงสัญชาติลาวในแม่น้ำโขงมีประมาณ 7-8 ลำ และเป็นเรือที่ได้มาตรฐานด้วยการติดตั้งแท็งก์ใต้ลำเรืออีกประมาณ 7-8 ลำ ที่เหลือเป็นเรือสัญชาติจีน ที่ได้มาตรฐานดีเช่นเดียวกับเรือสัญชาติพม่า แต่เรือพม่าอาจมีอุปกรณ์ที่ขาดไปบางอย่างเท่านั้น

ด้านนายก่ำ แสงมะนี คนขับเรือโชคพรชัย 0120 กล่าวว่า ตอนเกิดเหตุไม่มีใครสามารถเข้าไปดับเพลิงได้ เพราะลุกไหม้รุนแรงมาก แต่เจ้าหน้าที่ไทยได้เข้าช่วยเหลือดับเพลิงได้ทัน สำหรับเรือของตนบรรทุกน้ำมันกว่า 42,000 ลิตรหากติดไฟคงจะแย่เหมือนกัน ส่วนถ้ามีการแจ้งให้ปรับปรุงมาตรฐานตัวเรือใหม่ไม่ให้เกิดอันตราย ก็ต้องขึ้นอยู่กับเจ้าของเรือว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่ส่วนตัวเห็นว่าถ้าทำให้ไม่เกิดอันตรายก็จะเป็นผลดี

รายงานข่าวจากสำนักงานพาณิชย์ จ.เชียงราย แจ้งว่า การค้าชายแดนทางเรือในแม่น้ำโขงตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.ย.ที่ผ่านมามีมูลค่าการค้ารวมจำนวน 2,494.49 ล้านบาท แยกเป็นการส่งออก 2,089.79 ล้านบาท และนำเข้า 404.7 ล้านบาท

สำหรับสินค้าน้ำมันเชื้อเพลิงและน้ำมันหล่อลื่น มีการส่งออกจาก จ.เชียงราย ไปยังจีนตอนใต้ในช่วงเวลาดังกล่าวมูลค่า 202.3 ล้านบาท ส่งออกไปพม่ามูลค่า 1,591.28 ล้านบาท และส่งออกไป สปป.ลาว เป็นดีเซลหมุนเร็วมูลค่า 2,512.11 ล้านบาท และเบนซินมูลค่า 661.56 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวชายแดนคนหนึ่งกล่าวว่า น้ำมันทั้งหมดส่งออกจากฝั่งไทยในราคาต่ำกว่าราคาน้ำมันในประเทศลิตรละประมาณ 3 บาท เพราะไม่ต้องเสียภาษีและได้คืนภาษีบางรายการ ทำให้ผู้ประกอบการบางส่วนแจ้งว่าจะนำน้ำมันไปส่งยังประเทศปลายทางต่างๆ แต่ไม่ได้นำขึ้นฝั่งจริง แต่นำเรือรอเติมให้กับเรือสินค้าในแม่น้ำโขง ซึ่งมีจำนวนมากเพื่อทำกำไรหลายต่อด้วยกัน







กำลังโหลดความคิดเห็น