ศูนย์ข่าวศรีราชา - บริษัท.วี.พี.แอนด์.วี.อินเตอร์เนชั่นแนล บายโปรดักส์ จำกัด และบริษัท ซี.อี.โอ.อินเตอร์ฯ ซึ่งดำเนินธุรกิจรับกำจัดเศษวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว รวมทั้งสกัดโลหะมีค่าจากน้ำยาชุบโลหะ และคัดแยกสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วจากโรงงาน ทุ่มงบลงทุนด้านเครื่องจักรกลหลังธุรกิจกำจัดของเสียจากโรงงานในพื้นที่ภาคตะวันออกเติบโตไม่น้อยกว่า 30% ตามการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ ขณะเดียวกัน ยังจัดมอบเสื้อสามารถให้พนักงานที่ได้เลื่อนตำแหน่งเพื่อสร้างขวัญ และกำลังใจ
วันนี้ (6 ต.ค.) บริษัท วี.พี.แอนด์.วี.อินเตอร์เนชั่นแนล บายโปรดักส์ จำกัด ได้จัดพิธีมอบเสื้อสามารถให้แก่ น.ส.วลีพร เอี่ยมชูกูล ที่ได้รับคัดเลือกให้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้บริหารรายใหม่ เพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนความบากบั่น อุตสาหะ และความซื่อสัตย์ โดยมี พ.ต.อ.(พิเศษ) บุญญสิทธิ์ ว่องไว รอง ผบก.ภ.จว.นครนายก ที่ปรึกษาบริษัทฯ เป็นผู้มอบ และมี นายกิตติศักดิ์ กิจโชคเจริญสกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วี.พี.แอนด์.วี อินเตอร์เนชั่นแนล บายโปรดักส์ จำกัด และ บริษัท ซี.อี.โอ.อินเตอร์เนชั่นแนล เวสต์ จำกัด รวมทั้ง กก.ตร.สภ.ศรีราชา ร่วมในพิธี
นายกิตติศักดิ์ เผยถึงการเติบโตของธุรกิจกำจัดของเสียและกากขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ภาคตะวันออกว่า มีไม่น้อยกว่า 30% ต่อปี ซึ่งก็เป็นไปตามการขยายตัวทางการลงทุนของภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ ทั้งนี้ การดำเนินงานของกลุ่มบริษัทได้แยกรูปแบบที่ชัดเจนคือ บริษัท วี.พี.แอนด์.วี.อินเตอร์เนชั่นแนล บายโปรดักส์ จำกัด จะดำเนินธุรกิจให้บริการกำจัดเศษวัสดุที่ไม่ใช้แล้วทั้งที่เป็นอันตราย และไม่เป็นอันตรายจากโรงงานอุตสาหกรรมทุกประเภท และยังเป็นโบรกเกอร์ในการส่งกากขยะอุตสาหกรรมที่ต้องใช้ความร้อนในการเผาทำลายสูงถึง 800 องศาฯ ให้แก่โรงงานปูน ที.พี.ไอ. ซึ่งมีเครื่องจักร และมีความพร้อมในการกำจัดกากขยะที่เผาอยาก โดยมีโรงงานอยู่ในอำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี
ส่วนบริษัท ซี.อี.โอ.อินเตอร์เนชั่นแนล เวสต์ จำกัด ประกอบกิจการทำเชื้อเพลิงทดแทนจากน้ำมันหล่อลื่น และตัวทำละลายที่ใช้แล้ว ฯลฯ ร่วมทั้งสกัดโลหะมีค่าจากน้ำยาชุบโลหะ และคัดแยกสิ่งปฏิกูล หรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่ไม่เป็นของเสียอันตราย โดยมีโรงงานอยู่ในอำเภอพนัสนิคมเช่นกัน
“การเติบโตทางธุรกิจก็เป็นไปตามการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมที่มี และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ทั้งท่าเรือแหลมฉบัง และเส้นทางการขนส่งที่สามารถดึงดูดนักลงทุนต่างชาติได้เป็นอย่างดี ซึ่งลูกค้าของเราก็คือ โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ในพื้นที่ภาคตะวันออกที่มีขยะ และกากอุตสาหกรรม รวมทั้งของเสียที่เป็นน้ำ ซึ่งในแต่ละปีเรามีการลงทุนเพื่อพัฒนาเครื่องจักรกลที่ทันสมัย ป้องกันปัญหาด้านมลพิษไม่ให้เกิดขึ้นต่อคนในชุมชนโดยรอบคิดเป็นมูลค่าหลายสิบล้านบาท และในปีนี้ก็มีเป้าหมายที่จะนำเข้าเครื่องจักรสมัยใหม่ ที่ได้รับการตรวจสอบจากอาจารย์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือแล้วว่าได้มาตรฐาน”
นายกิตติศักดิ์ ยังเผยอีกว่า การพัฒนาเทคโนโลยีในการกำจัดของเสียและกากอุตสาหกรรมของบริษัทฯ ถือว่าทันสมัยที่สุดในภาคตะวันออก จึงทำให้จำนวนลูกค้าที่เข้าใช้บริการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
“ในส่วนของปัญหาการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรม และสารเคมีในจังหวัดชลบุรี ปัจจุบันยังคงถือเป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ผมในฐานะประธาน กก.ตร.สภ.ศรีราชา ซึ่งถือเป็นพื้นที่ที่มีการลงทุนภาคอุตสาหกรรมจำนวนมาก ไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้ประสานงานกับสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด เพื่อติดตามดูแลปัญหาดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งรณรงค์ให้ผู้ประกอบการต่างๆ ดำเนินการจัดการของเสียอย่างถูกวิธีเพื่อลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมต่อชุมชน” นายกิตติศักดิ์ กล่าว