จันทบุรี - ผู้ว่าฯ จันทบุรี เตรียมใช้มาตรการ 3 ป. เอาผิดผู้หลอกลวงต้มตุ๋นซื้อขายลำไยส่งออกล่วงหน้า ป้องกันความเสียหายทางเศรษฐกิจ
วันนี้ (8 พ.ย.) ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัด นำส่วนราชการที่เกี่ยวข้องพบปะแลกเปลี่ยนพูดคุยกับผู้ประกอบการส่งออก และตัวแทนชาวสวนลำไยนอกฤดู อำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาว เพื่อรับทราบปัญหาอุปสรรคและวางแนวทางแก้ป้องกันแก้ไขปัญหาลำไยนอกฤดู
โดยเฉพาะการหลอกลวงต้มตุ๋นขายลำไยล่วงหน้าแบบซ้ำซ้อน สร้างความเสียหายแก่เกษตรกรโดยรวม อันจะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม ทั้งนี้ การส่งออกลำไยนอกฤดูของจังหวัดจันทบุรี มีรายได้มากถึงปีละกว่า 7 พันล้านบาท
ทั้งนี้ จังหวัดจันทบุรีมีพื้นที่ปลูกลำไยนอกฤดูพันธุ์อีดอ ประมาณ 1 แสน 5 หมื่นไร่ ผลผลิตประมาณ 2 แสน 6 หมื่นตัน ส่งออกไปยังประเทศจีนเป็นหลัก และจากการที่มีรายได้ดี รวมทั้งช่องว่างทางกฎหมาย จึงมีกลุ่มมิจฉาชีพปลอมตัวหลอกลวงต้มตุ๋นว่าเป็นเจ้าของสวนลำไย และนำผลผลิตไปขายล่วงหน้าแก่ผู้ประกอบการส่งออกซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนชาวจีน ทำให้เกิดปัญหา และอาจบานปลายส่งผลกระทบต่อราคาผลผลิตในอนาคต จังหวัดจันทบุรี จึงได้ประชุมหารือทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือ และวางมาตรการป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น
โดยเบื้องต้น นายสามารถ ประกาศจะใช้แนวทางทางสังคม 3 ป. คือ 1.ประกบ ให้เจ้าหน้าที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประกบติดตามดูพฤติกรรมของบุคคลที่มีพฤติกรรมหลอกลวง ต้มตุ๋นไม่ให้มีโอกาสกระทำ 2.ประกาศ ให้ผู้ซื้อผลผลิตลำไยส่งออกเฝ้าระวังบุคคลอันตรายคนนั้น และ 3.ประจาน บุคคล หรือเกษตรกรที่เห็นแก่ได้เอารัดเอาเปรียบ มีพฤติกรรมต้มตุ๋น หลอกลวง ให้สังคมได้รู้ และเฝ้าระวัง
ขณะเดียวกัน ได้วางแนวทางป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นโดยการซื้อขายล่วงหน้าลำไยส่งออก ในการทำสัญญาซื้อขายจะให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือผู้นำชุมชน ลงลายมือชื่อรับรองการซื้อขายล่วงหน้า หรือให้นายอำเภอ หรือผู้ที่นายอำเภอมอบหมายเป็นผู้รับรองอีกทางหนึ่ง ซึ่งจะเป็นทางป้องกันแก้ไขปัญหาการซื้อขายล่วงหน้าลำไยส่งออกนอกฤดูของจังหวัดจันทบุรีอีกทางหนึ่ง ส่วนมาตรการทางกฎหมาย การสืบสวน ฟ้องร้องเอาผิดต่อผู้หลอกลวง ต้มตุ๋น ก็จะดำเนินการควบคู่กันไป ซึ่งผู้เจตนากระทำความผิดดังกล่าวเข้าข่ายหลอกลวงต้มตุ๋นมีความผิดทางคดีอาญาโทษทั้งจำ และปรับ