เชียงราย - ชาวบ้านรอบพระธาตุจอมกิตติร่วมอนุรักษ์ประเพณีลอยโคมยักษ์บูชาพระธาตุเกตุแก้วจุฬามณี ใช้พลาสติกยาวเท่าความสูงตึก 6 ชั้น กว้าง 1 ไร่ 40 ตร.ว. พร้อมจัดแข่งลอยโคมลอดห่วงให้คนในชุมชนร่วมกิจกรรมเทศกาลลอยกระทงเชียงแสน
วันนี้ (5 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ชาวบ้านจอมกิตติ ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เกือบทุกครัวเรือนต่างออกมาทำโคมควันกันอย่างคึกคัก เพื่อเตรียมนำไปลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าตามประเพณีลอยโคมควัน ที่ถือปฏิบัติกันมานานในเทศกาลลอยกระทง ระหว่างวันที่ 6-8 พ.ย.นี้
นอกจากนี้ยังทำโคมที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ที่ศาลาวัดพระธาตุจอมกิตติ ซึ่งใช้พลาสติกที่มีความยาวเท่ากับตึก 6 ชั้น กว้างประมาณ 1 ไร่ 40 ตารางวามาทำเป็นโคม ขณะที่ปากโคมสำหรับให้ควันเข้าไปอัดอากาศเพื่อการลอยตัวกว้างกว่า 1.60 เมตร รวมทั้งยังมีการจัดทำโคมขนาดกลางยาวประมาณ 3 เมตร และโคมขนาดเล็กเหมือนที่พบเห็นกันโดยทั่วไป แต่ใช้สำหรับการแข่งขันลอดห่วงบนไม้ไผ่สูงประมาณ 13 เมตร
นายภานุวัฒน์ ศรีสุข ผู้ใหญ่บ้านจอมกิตติ กล่าวว่า หมู่บ้านของเรามีประเพณีการลอยโคมขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และเล็กมานานตั้งแต่มีการตั้งหมู่บ้านบริเวณรอบพระธาตุจอมกิตติ หรือกว่า 40 ปีมาแล้ว ชาวบ้านเกือบทุกคนในหมู่บ้านได้รับการถ่ายทอดความรู้ จนสามารถประดิษฐ์โคมลอยได้เหมือนกันหมด เมื่อถึงเทศกาลลอยกระทงชาวบ้านจะออกมาทำโคมลอยขนาดต่างๆ กันทุกหมู่บ้าน
และมาช่วยกันทำโคมลอยขนาดใหญ่ปีละ 1 ลูก เพื่อบูชาพระธาตุเกตุแก้วจุฬามณี ซึ่งประดิษฐานพระธาตุอยู่บนสรวงสวรรค์ เมื่อถึงวันปล่อยโคมก็จะช่วยกันทั้งหมู่บ้าน โดยชายฉกรรจ์หลายสิบคนก็จะช่วยกันจับและรมควันเข้าไปในโคมเพื่อให้ลอยสูงเด่น ด้านใต้โคมมีตะกร้าใบใหญ่ เพื่อให้ชาวบ้านนำอาหาร ขนม ธูปเทียน ใส่ลงไปเพื่อให้ลอยขึ้นไปสู่ท้องฟ้าบูชาพระธาตุเกตุแก้วจุฬามณี
นายภานุวัฒน์กล่าวอีกว่า หลังจากลอยโคมขนาดใหญ่ดังกล่าวแล้ว ชาวบ้านก็จะแข่งขันลอยโคมขนาดกลาง โดยหมู่บ้านเรามีอยู่ 3 ชุมชน ก็จัดให้แต่ละชุมชนทำโคมลอยขนาดกลางขึ้นมาชุมชนละ 10 ลูก รวม 30 ลูก เพื่อนำมาแข่งขันด้านความสวยงามตามกฎที่วางไว้ เช่น ขึ้นลอยสูงสวย มีหางยาว หางจะหลุดจากโคมลงมาหลังการจุดประทัดตั้งเวลาเอาไว้ในระดับที่กำหนด เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันโคมเล็กลอยเข้าห่วง โดยนำไม้ไผ่สูงประมาณ 13 เมตร และทำห่วงเอาไว้ตรงปลายด้านบน ชาวบ้านแต่ละชุมชนก็จะนำโคมขนาดเล็กพอลอดห่วงได้ประมาณ 30 ลูกมาแข่งกันอีก โคมของใครสามารถลอดผ่านห่วงได้ก็จะได้รับรางวัล ท่ามกลางความสนุกสนานของชาวบ้านที่รักษาประเพณีนี้เอาไว้
“พื้นที่ของเราถือว่าอยู่ห่างไกลจากสนามบินจึงไม่น่าเป็นห่วงว่าจะกระทบต่อการบินแต่อย่างใด”
สำหรับประเพณีลอยโคมที่หมู่บ้านจอมกิตติจัดขึ้นในวันที่ 6 พ.ย. และช่วงเวลาเดียวกันทางฝ่ายปกครอง อ.เชียงแสน ก็จะจัดให้งานประเพณีลอยกระทงประจำอำเภอ ณ หน้าว่าที่ว่าการ อ.เชียงแสน เริ่มด้วยการประกวดโคมแขวนในวันนี้ (5 พ.ย.) ก่อนที่จะจัดให้มีการประกวดโคมไฟลอยห่วง การประกาศหนูน้อยนพมาศ ในวันที่ 6 พ.ย. และวันที่ 7 พ.ย.จะจัดการแข่งขันโคมควัน ขบวนกระทง และนางนพมาศ