ร้อยเอ็ด - ตำรวจร้อยเอ็ด โชว์ผลงานจับกุมโจรชั่วก่อเหตุลักทรัพย์ตามหอพักในตัวเมืองร้อยเอ็ดถึง 6 ครั้ง ทั้งข่มขืนหญิงสาวเจ้าของทรัพย์ถึง 2 ราย สุดท้ายถูกติดตามสืบสวนจนสามารถกุมตัวได้พร้อมของกลางทั้งรถจักรยานยนต์ โน้ตบุ๊ก มือถือ แนะผู้เสียหายชี้ตัวแจ้งข้อหาเพิ่มเติม
วันนี้ (3 พ.ย.) ที่หน้า สภ.เมืองร้อยเอ็ด พล.ต.ต.ยงเกียรติย์ มนประณีต ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด พร้อมด้วย พ.ต.อ.กิตติรัตช์ น้อยโพนทอง ผกก.เมืองร้อยเอ็ด นำตัว นายฉลอง หรือโก้ โคตะขุน อายุ 31 ปี ชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ ผู้ต้องหาลักทรัพย์ ซึ่งมาทำงานรับจ้างที่โรงสีแห่งหนึ่งในเมืองร้อยเอ็ด ถูกจับกุมได้พร้อมของกลางจำนวนมาก ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ 3 คัน คือ ยามาฮ่า มีโอ ทะเบียน ขฉษ 556 ร้อยเอ็ด ฮอนด้าเวฟ 100 ทะเบียน 2 กท 4339 กทม. และยามาฮ่า สปาร์ค ทะเบียน กรว 105 ร้อยเอ็ด
โน๊ตบุ๊กยี่ห้อ asus, compag, emachines จำนวน 3 เครื่อง พร้อมโทรศัพท์มือถือ ซัมซุง 3 เครื่อง มาแถลงข่าวกับสื่อมวลชน ในข้อหาบุกรุกเคหสถานผู้อื่นในเวลากลางคืนโดยมีมีดเป็นอาวุธก่อเหตุลักทรัพย์ จำนวน 6 ราย ตามหอพักต่างๆ และข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นที่เป็นเจ้าทุกข์ผู้หญิงอายุเพียง 16 ปี 2 ใน 6 ราย ที่พบว่าอยู่คนเดียวในหอหักด้วย ก่อนจะหลบหนีไปพร้อมกับทรัพย์สินดังกล่าว โดยเหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.เป็นต้นมาอย่างต่อเนื่อง จนสามารถจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม และขยายผลจนพบว่า มีการก่อเหตุต่อกันถึง 6 ครั้ง ตรวจค้นได้ของกลางจำนวนมาก
พล.ต.ต.ยงเกียรติย์ มนประณีต ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุขึ้นได้กำชับให้ชุดสืบสวนของ สภ.เมืองร้อยเอ็ด ภายใต้การกำกับดูแลของ พ.ต.อ.กิตติรัตช์ น้อยโพนทอง ผกก.เมืองร้อยเอ็ด ติดตามสืบสวนในเชิงลึกต่อกลุ่มที่เกี่ยวข้อง ขยายผลจากเบาะแสขบวนการกลุ่มเสพยา การพนัน เตร็ดเตร่ ให้สายตรวจลงพื้นที่เข้าไปเป็นนกต่อ และพบว่าผู้ก่อเหตุเหิมเกริมถึงขนาดใช้เบอร์โทรศัพท์ของผู้เสียหายติดต่อกับนกต่อ มั่นใจว่าใช่ผู้ก่อเหตุ สามารถจับกุมตัวได้ที่หอพักแห่งหนึ่งในเขต อ.เมืองร้อยเอ็ด พร้อมของกลางจำนวนมากดังกล่าว
ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ก่อเหตุลักทรัพย์ผู้อื่นในลักษณะต่างๆ กันตามหอพักต่างๆ ถึง 6 ครั้งด้วยกัน นอกจากการลักทรัพย์แล้ว ยังได้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดจี้ข่มขืนเจ้าทรัพย์ที่เป็นผู้หญิงวัยรุ่นที่เจอ และอยู่คนเดียวถึง 2 ราย ก่อนจะหลบหนีไปพร้อมกับทรัพย์สินดังกล่าว และหลังจากได้ทรัพย์สินมาแล้วนำทรัพย์สินไปขาย นำเงินทองที่ได้ไปซื้อยาเสพยาติด เชื่อว่าคนร้ายรายนี้ก่อเหตุมากว่า 6 ครั้ง
ดังนั้น หากใครที่เป็นผู้เสียหายจากคนร้ายรายนี้ให้มาดูตัว หรือหากไม่รู้จักตัวก็สามารถตรวจสอบจากทรัพย์สินที่ยึดได้ เพื่อยืนยันเป็นคดีลักทรัพย์ต่อผู้ต้องเพิ่มเติมได้