อุบลราชธานี - แก๊งค้าไม้พะยูงข้ามชาติใช้รถเก๋งโปรตอนดัดแปลงสภาพ ขนไม้พะยูงไปลงเรือข้ามแม่น้ำโขง ถูกสกัดจับได้เสนอสินบน 1 แสนบาท แลกปล่อยตัว เจ้าหน้าที่แกล้งทำยอมล่อให้นางนกต่อนำเงินมาส่ง จึงรวบตัวไว้ได้ทั้งแก๊ง
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (2 พ.ย.) พ.ต.อ.สหรัฐ ประสงค์นิจกิจ รอง ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี รักษาราชการแทน ผกก.สภ.เมืองอุบลราชธานี พ.ต.ต.สันติภาพ สายงาม สว.จร.สภ.เมืองอุบลราชธานี แถลงผลจับกุมผู้ต้องหาค้าไม้พะยูงชนิดท่อนกลมขนาดใหญ่ยังไม่ได้ถาก ยาวท่อนละ 50-200 เซนติเมตร จำนวน 49 ท่อน มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ผู้ต้องหา 3 คน
ทั้งนี้ เมื่อเวลาประมาณ 03.40 น.วันเดียวกัน ขณะที่ พ.ต.ต.สันติภาพ สายงาม สว.จร.นำกำลังตั้งจุดสกัดสิ่งผิดกฎหมายบริเวณสี่แยกตลาดสดหนองบัว ถ.ชยางกูร ต.ในเมือง อ.เมือง พบรถยนต์นั่งขนาด 7 ที่นั่ง โปรตอนสีขาว ทะเบียน กน 2726 อุบลราชธานี แล่นผ่านลักษณะบรรทุกของหนัก จึงเรียกตรวจค้นทราบชื่อคนขับคือ นายเกษม ฉิมกลาง อายุ 36 ปี ราษฎรอำเภอคง จ.นครราชสีมา เป็นคนขับ นายพงษ์ศักดิ์ ถิ่นนาเมือง อายุ 25ปี ราษฎรอำเภอเขมราฐ จ.อุบลราชธานี นั่งข้าง
เมื่อตรวจในรถพบมีการดัดแปลงสภาพถอดเบาะที่นั่งด้านหลังออกทั้งหมด เพื่อใช้ขนไม้พะยูงตบตาการตรวจจับของเจ้าหน้าที่ จึงจับกุมคนทั้ง 2 คนไว้ และรับสารภาพว่า ขับรถขนไม้ทั้งหมดมาจากป่าสงวนแห่งชาติใน อ.นาจะหลวย นำไปลงเรือข้ามแม่น้ำโขงเข้าประเทศลาว ส่งต่อไปประเทศจีน
ระหว่างนั้น น.ส.พลอยไพลิน กอบเกื้อ อายุ 18 ปี ญาติผู้ต้องหาได้โทรศัพท์เข้ามาเสนอสินบน 1 แสนบาท แลกต่อการปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน พ.ต.ต.สันติภาพ จึงแกล้งทำยอมรับเงื่อนไงและนัดส่งมอบเงินที่บริเวณตู้ยามหอนาฬิกาในเทศบาลนครอุบลราชธานี และได้จับตัว น.ส.พลอยไพลิน ดำเนินคดีฐานให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงานเพื่อจูงใจให้กระทำการ ไม่กระทำการตามกฎหมาย
ส่วนผู้ต้องหาชายทั้ง 2 คน ถูกดำเนินคดีร่วมกันมีไม้หวงห้าม (ไม้พะยูง) ไว้ในครอบครองเกินกว่ากฎหมายกำหนดโดยผิดกฎหมาย และเสพสารเสพติดให้โทษ (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมายดำเนินคดีต่อไป