เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (27 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ศก.1 อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ นายธนิต ทวีชื่น หัวหน้าหน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ศก.1 พร้อมด้วย นายสมหวัง โวหาร เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ศก 1 และกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ได้นำตัว นายพงษ์ศิริ ตรีภพ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 ม.8 ต.เขมราฐ อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี ผู้ต้องหาลักลอบขนไม้พะยูงเถื่อนไปทำการตรวจสอบไม้พะยูงเถื่อน จำนวน 38 ท่อน และรถยนต์มิตซูบิชิ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ผน 7120 ขอนแก่น ติดตั้งโครงหลังคาปกปิดด้วยผ้าใบสีดำ ซึ่งเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ศก.1 จับกุมได้เมื่อช่วงเวลา 03.30 น. ของวันนี้ (27 ก.ย.) โดยจับกุมได้ที่บริเวณสามแยกบ้านสวาย ต.ไพรบึง อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ
ทั้งนี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า จะมีการลักลอบขนไม้พะยูงผ่านมาที่บริเวณดังกล่าว จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ไปดักซุ่ม เมื่อพบรถยนต์ต้องสงสัยวิ่งผ่านเข้ามาจึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้นแต่ คนขับรถต้องสงสัยได้ขับรถหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถไล่ติดตาม และเมื่อคนร้ายเห็นว่าไปไม่รอดจึงได้จอดรถวิ่งหนีลงไปในทุ่งนาข้างทาง เจ้าหน้าที่ได้วิ่งไล่ติดตามไปสามารถจับกุมได้อย่างทุลักทุเล เนื่องจากทุ่งนามีต้นข้าว และน้ำท่วมสูง จากนั้นนำตัวผู้ต้องหา และของกลางมาที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ศก.1 เพื่อทำการสอบสวน
เบื้องต้น นายพงษ์ศิริ ตรีภพ ให้การว่า ได้รับการว่าจ้างให้มาขับรถขนไม้พะยูงในราคาค่าจ้างเที่ยวละ 5,000 บาท โดยขับรถออกจาก อ.เขมราฐ มารับไม้พะยูงส่วนหนึ่งที่บริเวณอ่างเก็บน้ำโอตาลัด อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ จากนั้นได้มารับไม้พะยูงเพิ่มอีกที่บ้านลุมพุกน้อย อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเมื่อขนไม้พะยูงสดขนาดใหญ่ จำนวน 38 ท่อน ขึ้นบนรถแล้วปรากฏว่า ได้มีเจ้าหน้าที่หน่วยหนึ่งประมาณ 5 คน ขับรถปิกอัพยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไทเกอร์ ยกสูง สีเขียว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เข้ามาแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ทำการจับกุมตน และรถบรรทุกไม้ไว้ แต่กลุ่มพ่อค้าไม้ที่อยู่บริเวณหมู่บ้านดังกล่าวได้ทำการเจรจาและจ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว จำนวน 140,000 บาท จึงได้รับการปล่อยตัว
จากนั้นตนจึงได้ขับรถบรรทุกไม้พะยูงเถื่อนมุ่งหน้าไปยัง อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี เมื่อเข้าเขต อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ ได้ถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่ ศก.1 จับกุมได้ ซึ่งไม้พะยูงทั้งหมดหากส่งไปขายยังประเทศจีน จะมีมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท
นายธนิต ทวีชื่น หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ศก.1 จึงได้แจ้งให้ผู้ต้องหาทราบว่าไม้พะยูงเป็นไม้หวงห้ามาตามประกาศ คสช.ฉบับที่ 106/2557 มาตรา 7 จากนั้นได้ตั้งข้อหาต่อ นายพงษ์ศิริ ว่า กระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 48, 69 ฐานมีไม้หวงห้ามแปรรูปไว้ในครอบครองเกินกว่า 0.20 ลบ.เมตร มีไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ ก่อนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางไปส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.ไพรบึง ดำเนินคดีตามากฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า จะมีการลักลอบขนไม้พะยูงผ่านมาที่บริเวณดังกล่าว จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ไปดักซุ่ม เมื่อพบรถยนต์ต้องสงสัยวิ่งผ่านเข้ามาจึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้นแต่ คนขับรถต้องสงสัยได้ขับรถหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถไล่ติดตาม และเมื่อคนร้ายเห็นว่าไปไม่รอดจึงได้จอดรถวิ่งหนีลงไปในทุ่งนาข้างทาง เจ้าหน้าที่ได้วิ่งไล่ติดตามไปสามารถจับกุมได้อย่างทุลักทุเล เนื่องจากทุ่งนามีต้นข้าว และน้ำท่วมสูง จากนั้นนำตัวผู้ต้องหา และของกลางมาที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ศก.1 เพื่อทำการสอบสวน
เบื้องต้น นายพงษ์ศิริ ตรีภพ ให้การว่า ได้รับการว่าจ้างให้มาขับรถขนไม้พะยูงในราคาค่าจ้างเที่ยวละ 5,000 บาท โดยขับรถออกจาก อ.เขมราฐ มารับไม้พะยูงส่วนหนึ่งที่บริเวณอ่างเก็บน้ำโอตาลัด อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ จากนั้นได้มารับไม้พะยูงเพิ่มอีกที่บ้านลุมพุกน้อย อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเมื่อขนไม้พะยูงสดขนาดใหญ่ จำนวน 38 ท่อน ขึ้นบนรถแล้วปรากฏว่า ได้มีเจ้าหน้าที่หน่วยหนึ่งประมาณ 5 คน ขับรถปิกอัพยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไทเกอร์ ยกสูง สีเขียว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เข้ามาแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ทำการจับกุมตน และรถบรรทุกไม้ไว้ แต่กลุ่มพ่อค้าไม้ที่อยู่บริเวณหมู่บ้านดังกล่าวได้ทำการเจรจาและจ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว จำนวน 140,000 บาท จึงได้รับการปล่อยตัว
จากนั้นตนจึงได้ขับรถบรรทุกไม้พะยูงเถื่อนมุ่งหน้าไปยัง อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี เมื่อเข้าเขต อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ ได้ถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่ ศก.1 จับกุมได้ ซึ่งไม้พะยูงทั้งหมดหากส่งไปขายยังประเทศจีน จะมีมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท
นายธนิต ทวีชื่น หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ศก.1 จึงได้แจ้งให้ผู้ต้องหาทราบว่าไม้พะยูงเป็นไม้หวงห้ามาตามประกาศ คสช.ฉบับที่ 106/2557 มาตรา 7 จากนั้นได้ตั้งข้อหาต่อ นายพงษ์ศิริ ว่า กระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 48, 69 ฐานมีไม้หวงห้ามแปรรูปไว้ในครอบครองเกินกว่า 0.20 ลบ.เมตร มีไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ ก่อนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางไปส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.ไพรบึง ดำเนินคดีตามากฎหมายต่อไป