ระยอง - ชาวบ้าน 6 ตำบลรอบโรงไฟฟ้านิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เตรียมยื่นฟ้องศาลปกครอง กรณีเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้าปี 58 รวม 410 ล้านบาทเศษ แบ่งส่วนไม่โปร่งใส
วันนี้ (3 พ.ย.) นายอิทธิ แจ่มแจ้ง ประธานชุมชนบ้านหนองแฟบ ต.ห้วยโป่ง อ.เมืองระยอง ร้องสื่อกรณีเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้าเพื่อการพัฒนาชุมชนที่ยั่งยืน จ.ระยอง จัดตั้งโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) มีวัตถุประสงค์การพัฒนาฟื้นฟูท้องถิ่นอาศัยรอบโรงไฟฟ้า นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมืองระยอง มีโรงไฟฟ้าประมาณ 11-12 แห่ง ใน รัศมี 5 กม.รวม 6 ตำบล
ประกอบด้วย เทศบาล ต.บ้านฉาง เทศบาลเมืองบ้านฉาง ต.มาบข่า ต.ทับมา ต.เนินพระ และเทศบาลเมืองมาบตาพุด ที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้านิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมืองระยอง “เงินกองทุนพัฒนาพัฒนาไฟฟ้า” มาจากผู้ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการไฟฟ้าจะต้องนำเงินเข้ากองทุนพัฒนาไฟฟ้าเป็นรายเดือน
โดยคำนวณตามปริมาณพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตเพื่อจำหน่าย และใช้เองอัตราชนิดของเชื้อเพลิง ดังนี้ ถ่านหิน, ลิกไนต์ 2.0 สตางค์/หน่วยไฟฟ้า พลังหมุนเวียน ประเภทพลังน้ำ 2.0 สตางค์/หน่วยไฟฟ้า น้ำมันเตา, ดีเซล 1.5 สตางค์/หน่วยไฟฟ้า ก๊าซธรรมชาติ 1.0 สตางค์/หน่วยไฟฟ้า พลังหมุนเวียนประเภทลมและแสงอาทิตย์ 1.0 สตางค์/หน่วยไฟฟ้า และพลังหมุนเวียน เช่น ก๊าซชีวภาพ ชีวมวล กากและเศษวัสดุเหลือใช้ ขยะชุมชนและอื่นๆ 1.0 สตางค์/หน่วยไฟฟ้า
นายอิทธิ แจ่มแจ้ง ประธานชุมชนบ้านหนองแฟบ กล่าวต่อไปว่า งบกองทุนพัฒนาไฟฟ้าปี 2558 ซึ่งจัดทำกรอบการจัดสรรงบประมาณโดย กกพ.ได้แจ้งคณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า (คพรฟ.) ซึ่งมี นายธานี สามารถกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธาน ประกอบด้วยคณะกรรมการ 35 คน โดยมี นายธาตรี นามะสนธิ อดีตปลังจังหวัดระยอง เป็นผู้จัดการ ดังนี้ โครงการ 10 ด้าน งบประมาณ 123,285,000 บาท ร้อยละ 30% แผนยุทธศาสตร์ 164,380,000 บาท ร้อยละ 40% และพัฒนาจังหวัด 123,285,000 บาท ร้อยละ 30% รวมทั้งสิ้น 410,950,000 ทาง กกพ.ได้โอนเงินเข้าบัญชี คพรฟ.
สำหรับงบโครงการ 10 ด้าน จำนวน 123,285,000 บาท นำมาจัดสรรให้ 1.เทศบาล ต.บ้านฉาง 11% 13,561,350,00 บาท 2.เทศบาลเมืองบ้านฉาง 9% 11,095,650.00 บาท 3.ต.มาบข่า 8% 9,862,800.00 บาท 4.ต.ทับมา 8% 9,862,800.00บาท 5.ต.เนินพระ 9% 11,095,650.00 บาท และ 6.เทศบาลเมืองมาบตาพุด 55% 67,806,750.00 บาท รวมทั้งสิ้น 123,285,000.00 บาท
นายอิทธิ แจ่มแจ้ง กล่าวว่า การดำเนินการจัดสรรงบกองทุนพัฒนาไฟฟ้า สร้างความไม่เป็นธรรมให้แก่ชุมชนทั้ง 6 ตำบลที่ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้า และเมื่อวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา ชุมชนหลายชุมชน จำนวน 200 คน แต่งดำไปยื่นหนังสือคัดค้านที่ศูนย์ราชการ จ.ระยอง นายธานี สามารถกิจ ผวจ.ระยอง ออกมาชี้แจงว่าการจัดสรรงบประมาณกองทุนพัฒนาไฟฟ้า ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เป็นผู้ดำเนินการ
นายอิทธิ กล่าวว่า การดำเนินงานจัดสรรเงินกองทุนฯ ของ กกพ.ได้นำเงินกองทุนฯ ไปจัดสรรให้งบแผนยุทธศาสตร์จังหวัด และงบพัฒนาจังหวัดคิดเป็น 70% รวม 287,665.000 บาท โดยที่ไม่ผ่านการทำประชาคมชาวบ้าน ซึ่งตามระเบียบต้องมีการทำประชาคมทุกโครงการในเขตพื้นที่ 6 ตำบลดังกล่าวว่า ชุมชนเห็นด้วยหรือไม่ที่นำเงินไปใช้นอกพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบโรงไฟฟ้าโดยไม่ผ่านการทำประชาคม ซึ่งชาวบ้านไม่เคยได้ทราบรายละเอียดเรื่องเงินกองทุนฯ จำนวน 200 กว่าล้านบาท ที่จังหวัดนำไปใช้จ่ายอะไรบ้าง เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง
“กรณีนี้ฝากไปถึงคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ไม่ควรส่งเสริมให้คณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า (คพรฟ.) ใช้จ่ายเงินที่ผิดระเบียบ หากเรียกร้องครั้งนี้ไม่มีความคืบหน้า ชาวบ้านทั้ง 6 ตำบลในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ต้องพึ่งกระบวนการยุติธรรมด้วยการฟ้องศาลปกครองต่อไป”
นายอิทธิ กล่าวอีกว่า มีการจัดซื้อรถดับเพลิงราคา 33 ล้านบาทเศษ โดยรถดับเพลิงนำมาจอดไว้ที่แห่งหนึ่งนาน 2 เดือนแล้ว แต่ผู้ว่าราชการ จ.ระยอง ยังไม่เซ็นอนุมัติ เนื่องจากมีกระแสคัดค้านอย่างหนักทางโซเชียลว่า มีราคาแพงมาก และไม่มีความจำเป็น เนื่องจากโรงงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด มีรถดับเพลิงที่มีสมรรถนะสูงอยู่แล้ว