สสจ.เชียงใหม่เตือน เล่นพลุ-ประทัด “ยี่เป็ง” เสี่ยงอันตราย

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่แจ้งเตือนประชาชนและนักท่องเที่ยวเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษในการเล่นพลุ ประทัด และดอกไม้ไฟช่วง “ยี่เป็ง” เพื่อเลี่ยงอันตรายจากอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น หลังพบปีก่อนเจ็บกว่าร้อยราย ส่วนใหญ่เป็นเด็กและวัยรุ่น

นายแพทย์ ไพศาล ธัญญาวินิชกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งเตือนประชาชนและนักท่องเที่ยวว่า ช่วงเทศกาลยี่เป็งหรืองานลอยกระทงเชียงใหม่ ประจำปี 2557 ให้ระมัดระวังอย่างมากในการเล่นพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟ ซึ่งมักจะเกิดอุบัติเหตุมีผู้บาดเจ็บทุกปี ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเด็กและวัยรุ่น

โดยช่วงยี่เป็งปี 2556 พบว่าโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชน 40 แห่ง มีผู้ป่วยที่ได้รับอุบัติเหตุจากการเล่นพลุ ประทัด บั้งไฟ และเล่นดอกไม้ไฟ รวม 106 ราย รับไว้เป็นผู้ป่วยใน (Admit) 7 ราย และส่งต่อเพื่อรับการรักษา (Refer) 17 ราย อวัยวะที่ได้รับบาดเจ็บมากที่สุด ได้แก่ มือ แขน เท้า และขา ร้อยละ 69.81 รองลงมา ได้แก่ บริเวณใบหน้า ตา และหู ร้อยละ 20.75 บริเวณศีรษะ และคอ ร้อยละ 5.66

พื้นที่เกิดเหตุมากที่สุด ได้แก่ อ.เมือง 36 ราย อ.สะเมิง 3 ราย และ อ.ดอยสะเก็ด 8 ราย กลุ่มอายุและเพศผู้บาดเจ็บเป็นเพศชาย 90 ราย และเพศหญิง 16 ราย พบสูงสุด อายุ 10-14 ปี 18 ราย 20-24 ปี 18 ราย และ 15-19 ปี 15 ราย

ทั้งนี้ มีข้อแนะนำในการเล่นพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟว่า ต้องไม่จุดใกล้แนวสายไฟฟ้า สถานีบริการน้ำมัน บริเวณบ้านเรือน หรือในสถานบันเทิง และห้ามประกอบหรือดัดแปลงประทัด พลุ หรือดอกไม้ไฟไว้เล่นเองโดยเด็ดขาด รวมทั้งควรจุดพลุในที่โล่งแจ้ง เพื่อป้องกันสะเก็ดไฟจากพลุ ดอกไม้ไฟ กระเด็นไปติดวัสดุหรือเชื้อเพลิง ทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้ และห้ามโยนดอกไม้ไฟที่จุดแล้วใส่กลุ่มคน

หากพลุ ดอกไม้ไฟดับก่อนระเบิด ห้ามเข้าใกล้ จุดไฟซ้ำหรือใช้ปากเป่าให้ไฟติดอย่างเด็ดขาด เพราะหากพลุระเบิดในจังหวะที่ก้มหน้าไปดูพลุ ดอกไม้ไฟ จะทำให้เกิดอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ และไม่ควรที่จะนำดอกไม้ไฟเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อ กางเกง หากเกิดการเสียดสีจะทำให้ระเบิดหรือเป็นไฟลุกไหม้ได้

ตลอดจนขอความร่วมมือประชาชนให้ช่วยกันสอดส่อง และตักเตือนให้เล่นด้วยความไม่ประมาท ผู้ปกครองดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด ไม่ให้เด็กเล่นประทัดและดอกไม้ไฟตามลำพัง นอกจากนี้ขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ช่วยกวดขันเรื่องการเล่นพลุ ดอกไม้ไฟเป็นพิเศษด้วย เพื่อป้องกันการบาดเจ็บ พิการ หรือเสียชีวิต

“เบื้องต้นได้สั่งการและประสานงานเตรียมความพร้อมหน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉิน และหน่วยตั้งรับในสถานพยาบาลภาครัฐและเอกชนแล้ว และจะรวบรวมข้อมูลผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ระหว่างวันที่ 3-9 พฤศจิกายนไว้เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ต่อไป”