พระนครศรีอยุธยา - ผกก.พระนครศรีอยุธยา เตรียมแผนเสนอผู้ว่าฯ กรุงเก่าล้อมคอกโรงงานผลิตพลุ และวิสาหกิจชุมชนที่ผลิตพลุ ตะไล ดอกไม้ไฟ เป็นวาระเร่งด่วน แก้ปัญหาพลุระเบิดซ้ำซาก ส่วนเหตุที่พลุระเบิดเมื่อวานนี้เกิดจากความประมาท
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าโรงงานพลุระเบิดที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้นายกัมปนาท งามพรหม อายุ 46 ปี ช่างทำพลุถูกแรงระเบิดฉีกร่างแหลกเสียชีวิตคาบ้านที่เกิดเหตุ เลขที่ 53 หมู่ 3 ต.บ้านเกาะ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา และจากการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุโรงงานพลุระเบิดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา เบื้องต้นพบไม่มีใบอนุญาตในการประกอบการ
ล่าสุด วันนี้ (4 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านที่เกิดเหตุพลุระเบิดพบว่า วันนี้บ้านที่เกิดเหตุถูกปิดใส่กุญแจเงียบสนิท ไม่มีคนอยู่ภายในบ้าน มีเพียงโซ่คล้องกุญแจห้ามบุคคลภายนอกเข้าไป ส่วนภายในบ้านยังคงพบร่องรอยความเสียหายจากแรงระเบิดประตูหน้าแตก หลังคากระเบื้องแตกกระจาย และสภาพความเสียหายส่วนของโรงงานผลิตพลุ ยังคงมีสภาพความเสียหายน่าสะพรึงกลัวจากแรงระเบิด
พ.ต.อ.ศารทูล ประดิษฐ์ ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เตรียมแผนเสนอนายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาให้มีการล้อมคอกโรงงานพลุ และวิสาหกิจชุมชนที่ผลิตพลุ ตะไล ดอกไม้ไฟ ในเขต ต.บ้านเกาะ อ.พระนครศรีอยุธยา และถือเป็นแหล่งผลิตรายใหญ่ของประเทศ อีกทั้งมีชื่อเสียงมานาน เพราะเกือบทั้งชุมชนมีอาชีพเกี่ยวข้องกับการผลิตพลุ ที่สำคัญเคยเกิดเหตุระเบิดมาแล้วหลายครั้ง และมีผู้เสียชีวิตหลายราย
สำหรับเหตุการณ์บ้านที่ดัดแปลงเป็นโรงงานผลิตพลุ บ้านเลขที่ 53 หมู่ 3 ต.บ้านเกาะ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเกิดเหตุระเบิดเมื่อวานนี้จนทำให้ช่างทำพลุ คือ นายกัมปนาท งามพรหม เสียชีวิต ซึ่งตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้วพบว่า สาเหตุเกิดจากความประมาทในการผลิตพลุจนเกิดการระเบิดขึ้น และประกอบผลิตพลุ ดินปืนโดยไม่มีใบอนุญาตด้วย
อย่างไรก็ตาม ในบ้านหลังดังกล่าวยังพบดินประสิว ดินปืน ประทัดยักษ์ รวมถึงพลุอีกจำนวนมาก รวมถึงเครื่องจักรผลิตพลุ ซึ่งต้องตรวจสอบว่ามีใบอนุญาตหรือไม่ และมีการเก็บกักตุนเชื้อวัตถุระเบิด และสารเคมีถูกต้องหรือไม่ ดังนั้น ต่อไปจะต้องมีการตรวจสอบจากฝ่ายปกครอง ตำรวจ และทหารกับชุมชนแห่งนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าโรงงานพลุระเบิดที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้นายกัมปนาท งามพรหม อายุ 46 ปี ช่างทำพลุถูกแรงระเบิดฉีกร่างแหลกเสียชีวิตคาบ้านที่เกิดเหตุ เลขที่ 53 หมู่ 3 ต.บ้านเกาะ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา และจากการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุโรงงานพลุระเบิดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา เบื้องต้นพบไม่มีใบอนุญาตในการประกอบการ
ล่าสุด วันนี้ (4 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านที่เกิดเหตุพลุระเบิดพบว่า วันนี้บ้านที่เกิดเหตุถูกปิดใส่กุญแจเงียบสนิท ไม่มีคนอยู่ภายในบ้าน มีเพียงโซ่คล้องกุญแจห้ามบุคคลภายนอกเข้าไป ส่วนภายในบ้านยังคงพบร่องรอยความเสียหายจากแรงระเบิดประตูหน้าแตก หลังคากระเบื้องแตกกระจาย และสภาพความเสียหายส่วนของโรงงานผลิตพลุ ยังคงมีสภาพความเสียหายน่าสะพรึงกลัวจากแรงระเบิด
พ.ต.อ.ศารทูล ประดิษฐ์ ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เตรียมแผนเสนอนายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาให้มีการล้อมคอกโรงงานพลุ และวิสาหกิจชุมชนที่ผลิตพลุ ตะไล ดอกไม้ไฟ ในเขต ต.บ้านเกาะ อ.พระนครศรีอยุธยา และถือเป็นแหล่งผลิตรายใหญ่ของประเทศ อีกทั้งมีชื่อเสียงมานาน เพราะเกือบทั้งชุมชนมีอาชีพเกี่ยวข้องกับการผลิตพลุ ที่สำคัญเคยเกิดเหตุระเบิดมาแล้วหลายครั้ง และมีผู้เสียชีวิตหลายราย
สำหรับเหตุการณ์บ้านที่ดัดแปลงเป็นโรงงานผลิตพลุ บ้านเลขที่ 53 หมู่ 3 ต.บ้านเกาะ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเกิดเหตุระเบิดเมื่อวานนี้จนทำให้ช่างทำพลุ คือ นายกัมปนาท งามพรหม เสียชีวิต ซึ่งตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้วพบว่า สาเหตุเกิดจากความประมาทในการผลิตพลุจนเกิดการระเบิดขึ้น และประกอบผลิตพลุ ดินปืนโดยไม่มีใบอนุญาตด้วย
อย่างไรก็ตาม ในบ้านหลังดังกล่าวยังพบดินประสิว ดินปืน ประทัดยักษ์ รวมถึงพลุอีกจำนวนมาก รวมถึงเครื่องจักรผลิตพลุ ซึ่งต้องตรวจสอบว่ามีใบอนุญาตหรือไม่ และมีการเก็บกักตุนเชื้อวัตถุระเบิด และสารเคมีถูกต้องหรือไม่ ดังนั้น ต่อไปจะต้องมีการตรวจสอบจากฝ่ายปกครอง ตำรวจ และทหารกับชุมชนแห่งนี้