xs
xsm
sm
md
lg

หนุ่มใหญ่เมืองคอนจุดโคมลอยหน้าบ้าน เจออริดักยิงเสียชีวิต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นครศรีธรรมราช - หนุ่มใหญ่เมืองคอนถูกคู่อริดักซุ่มยิงขณะจุดโคมลอยหน้าบ้าน ด้านภรรยาเข้าใจว่ามีการจุดพลุในวันลอยกระทง ก่อนสามีเรียกช่วยเหลือ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา (17 พ.ย.) ซึ่งตรงกับงานวันลอยกระทง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากที่หลายจุดในตัวเมืองนครศรีธรรมราชได้จัดงานลอยกระทงแบบเรียบง่าย และได้มีการจุดโคมลอยขึ้นประดับบนท้องฟ้าหลายจุด แต่มีผู้ที่จุดโคมลอยรายหนึ่งถูกคนร้ายลอบยิงเสียชีวิต โดยเบื้องต้นเข้าใจว่าเป็นเหตุพลุระเบิด ซึ่งอยู่ในช่วงที่หลายพื้นที่กำลังมีการลอยกระทง ร.ต.ท.กฤติกร ไทยฤทธิ์ พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองนครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุพลุระเบิดใส่บุคคลจนเสียชีวิตที่หน้าบ้านเลขที่ 587 ซอยริมทุ่ง ม.9 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช หลังจากนั้นจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิประชาร่วมใจเข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

ในที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตทราบชื่อต่อมาคือ นายสุชาติ จงจิตต์ อายุ 34 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ที่เกิดเหตุ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบว่ามีร่องรอยของการระเบิดของพลุ หรือดอกไม้ไฟ และเมื่อตรวจชันสูตรศพจึงพบว่ามีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าบริเวณชายโครงขวา 1 นัด และพบหัวกระสุนตะกั่วตกอยู่ 1 หัว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ใกล้ตัวผู้ตายพบโคมลอยกระดาษสา 1 อัน มีร่องรอยการจุดแล้วแต่ยังไม่ถูกลอยขึ้นบนอากาศ

น.ส.มณฑิชา พิสมัย อายุ 26 ปี ภรรยาผู้ตายแจ้งเจ้าหน้าที่ว่า นายสุชาติ เป็นพนักงานขับรถของบริษัทประกันชีวิตแห่งหนึ่งในตัวเมืองนครศรีธรรมราช ก่อนเกิดเหตุ หลังจากกลับบ้านได้ซื้อโคมลอยกลับมาด้วย ช่วงที่เกิดเหตุ นายสุชาติ ได้ออกไปหน้าบ้านเพื่อจุดโคมลอย และปล่อยขึ้นบนฟ้าแต่ปรากฏว่าได้ยินเสียงคล้ายพลุ หรือประทัดดังขึ้น 1 ครั้ง เข้าใจว่า นายสุชาติ เป็นคนจุด แต่กลับได้ยินเสียงนายสุชาติ สามีร้องขอความช่วยเหลือจึงวิ่งออกไปดู จึงพบว่านอนราบอยู่กับพื้นดินจึงพยายามโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือ เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงจึงรู้ว่า นายสุชาติ ถูกลอบยิง

ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าทำการสอบสวนในที่เกิดเหตุยังไม่แน่ชัดว่าเกิดจากสาเหตุใด แต่พบว่าคนร้ายได้ซุ่มอยู่ในมุมมืดใกล้บ้านใช้อาวุธปืนยิงนายสุชาติ จนเสียชีวิต ก่อนที่จะหลบหนีไป ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการสืบสวนหาสาเหตุความขัดแย้งเพื่อเป็นแนวทางในการสืบสวนดำเนินคดีต่อไป



 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น