xs
xsm
sm
md
lg

แห่ติดสติกเกอร์ "จางเจี้ยน คนที่รวยที่สุดแห่งโลกอนาคต" เกลื่อนเมือง หวั่นแชร์ลูกโซ่ธุรกิจออนไลน์จีนลาม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - ฉงน! ธุรกิจรูปแบบใหม่คล้ายแชร์ลูกโซ่ ผุดที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังชาวบ้าน-สหกรณ์สองแถวสายวัดห้วยใหญ่ แห่ติดสติกเกอร์ภาษาจีนระบุข้อความ “จางเจี้ยน คนที่ร่ำรวยที่สุดแห่งโลกอนาคต” วิ่งเกลื่อนเมือง ชาวบ้านชี้เสนอให้ผลตอบแทนรายเดือน แต่ต้องสมัครสมาชิก 5,000 บาทก่อน และต้องหาสมาชิกเพิ่มอีก 1 ราย

วันนี้ (28 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ขับรถสองแถวสหกรณ์สองแถวสายวัดห้วยใหญ่ ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และเจ้าของรถยนต์ส่วนบุคคลหลายสิบคัน พากันนำสติกเกอร์ที่เขียนข้อความภาษาจีน “จางเจี้ยน คนที่ร่ำรวยที่สุดแห่งโลกอนาคต” มาติดบนตัวถังรถ สร้างความสงสัยให้แก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก

สอบถาม นางอ้อม โหนแหยม อายุ 44 ปี เจ้าของรถยนต์ส่วนบุคคลได้ข้อมูลว่า ติดสติกเกอร์โฆษณาภาษาจีนนี้มานานกว่า 1 เดือนแล้ว หลังได้รับคำแนะนะจากเพื่อน โดยเสียเงินค่าสมัคร 5,000 บาท ให้แก่บริษัทเอกชนรายหนึ่ง ซึ่งทราบภายหลังว่า เป็นสัญชาติจีน แลกกับการนำสติกเกอร์มาติดที่ตัวรถ โดยจะได้รับผลตอบแทนเป็นเงิน 1,000 บาทต่อเดือน รวมระยะเวลา 8 เดือน และเมื่อคำณวนดูก็พบว่าจะได้กำไร 3,000 บาท จากยอดเงินที่ลงทุนไป

นางอ้อม กล่าวว่า หลังได้รับคำแนะนำจากเพื่อน และเห็นว่าได้กำไรดี รวมทั้งยังมีผู้ขับรถสองแถวและชาวบ้านในตำบล พากันนำสติกเกอร์ลักษณะเดียวกันมาติดที่รถจำนวนหลายสิบคัน จึงเชื่อว่าจะไม่ถูกหลอก แต่จนถึงปัจจุบันติดสติกเกอร์ครบ 1 เดือนแล้ว ก็ยังไม่ได้รับเงินค่าตอบแทน

จากการตรวจสอบเอกสารของบริษัทดังกล่าว พบว่า มีภาษจีนกำกับไว้ ระบุเพียงสำนักงาน แฟรนไชส์ภาคตะวันออก ตั้งอยู่ที่ 165/104 หมู่ 7 ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมระบุเพียงว่า จะมีนายหน้ามาติดต่อให้สมัคร โดยเสียเงินแรกเข้า 5,000 บาท จากนั้นก็จะได้สติกเกอร์ภาษจีนมาติดโฆษณาที่รถ ทั้งยังกำหนดให้ผู้สมัครต้องหาคู่เพื่อเชิญชวนมาสมัครเข้าร่วมอีก 1 ราย คล้ายแชร์ลูกโซ่ จึงจะได้รับเงินค่าแนะนำ 100 หยวน หรือ 800 บาท จากนั้นจึงจะได้รับเงินตอบแทนรายละ 1,000 บาทต่อเดือน รวม 8 เดือน

นอกจากนี้ หากมีการขยายฐานธุรกิจจนถึงระดับที่ทางบริษัทกำหนด ก็จะมีโอกาสได้รับเงินตอบแทนเป็นเงินสด 8 แสนบาท หรือรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู 1 คัน ทำให้ปัจจุบันมีคนแห่ไปสมัครเป็นจำนวนมาก

ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังผู้ประกอบการรถสหกรณ์สองแถว สายพัทยา-ห้วยใหญ่ ได้ทราบข้อมูลในลักษณะเดียวกันว่า มีผู้ติดต่อให้ติดสติกเกอร์ดังกล่าวโดยไม่เสียค่าสมัคร ให้ค่าจ้างคันละ 300 บาทต่อเดือน แต่เมื่อติดมาได้ประมาณ 1 เดือนแล้ว ก็ยังไม่ได้รับเงินค่าตอบแทน ที่สำคัญในช่วงหลังมีการขอถ่ายเอกสารใบขับขี่ ทะเบียนรถ และถ่ายรูปบันทึกรถจากผู้มาติดต่อ จึงรู้สึกแปลกใจและเตรียมที่จะยกเลิกการติดสติกเกอร์ในเร็วๆ นี้ ขณะที่ข้อความที่ระบุก็ไม่เข้าใจว่าเป็นโฆษณาอะไร

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวจะพยายามตรวจสอบรายละเอียดของบริษัทแห่งนี้ ก็ยังไม่สามารถสืบหาตัวผู้แทนของบริษัทได้ ทราบเพียงข้อมูลเบื้องต้นจากเอกสารว่า เป็นบริษัทสัญชาติจีน ที่มีเครือข่ายสมาชิกทั่วโลกกว่า 100 ล้านคน ประกอบกิจการขายสินค้าในเครือ CDTUP ในประเทศจีน มีมูลค่ากว่า 16.8 พันล้านบาท นอกจากนั้น ยังมีการมอบรางวัลแก่สมาชิกเป็นจักรยานยนต์ถึง 3 หมื่นคัน โทรศัพท์ไอโฟนกว่า 6 หมื่นเครื่อง และแจกรถบีเอ็มดับเบิลยูกว่า 1,000 คัน

ขณะที่จากการตรวจสอบเว็บไซต์ของบริษัท www.zgaxlm.com2/dzs.asp และ www.tthgw.com.cn ที่ระบุไว้ในเอกสาร ก็พบว่า เป็นเว็บไซต์บริษัทขายสินค้าของประเทศจีน ซึ่งจะประสานภาครัฐเพื่อเข้ามาตรวจสอบต่อไป

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเพิ่มเติมของผู้สื่อข่าวพบว่า บริษัทที่ดำเนินธุรกิจนี้ชื่อ บริษัท หยุน ซู เม่า (Yun shu mao) สัญชาติจีน ในไทยใช้ชื่อเดียวกัน ประกอบธุรกิจออนไลน์ และ แฟรนไชส์ มีวิดีโอแนะนำบริษัทว่า ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วในประเทศจีนจนไต่อันดับเป็นบริษัทที่ร่ำรวยที่สุดอันดับสาม ขยายสาขาไปหลายประเทศเช่น มาเลเซีย ฮ่องกง และ ไทย

ในวิดีโอระบุว่า นายจางเจี้ยน เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารหนุ่มที่นำเอากลยุทธการตลาดมาดึงดูดใจของสมาชิก โดยยกตัวอย่างใกล้เคียงกับนายตัน ภาสกรนที นักธุรกิจชื่อดังของไทย ที่ชอบแจกของแจกรางวัล โดยจางเจี้ยนจะแจกรถยนต์บีเอ็มดับบลิวทุกๆสัปดาห์ ขณะที่ใครที่รับสติกเกอร์ “จางเจี้ยน คนที่รวยที่สุดแห่งโลกอนาคต”ก็จะถือว่าช่วยประชาสัมพันธ์ให้กับบริษัทจะได้รับเงินตอบแทน 1,000 บาทโดยไม่ต้องลงทุนอะไร แต่หากอยากจะได้มากขึ้นก็สามารถสมัครเป็นสมาชิก ตามที่ชาวบ้านหลายคนได้รับดังกล่าว

อย่างไรก็ดี มีข้อมูลอีกด้านที่เปิดเผยตัวตนของจางเจี้ยน และ ธุรกิจของเขาว่าเป็นพวกต้มตุ๋นหลอกลวงเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ โดยในจีนเขาถูกตรวจสอบอย่างหนักและในมาเลเซียเปิดบริษัทได้ไม่กี่เดือนก็ต้องปิดตัวลง (ชมคลิป)




กำลังโหลดความคิดเห็น