เสี่ยขับรถ BMW ถูกคนร้ายขับ จยย.ประกบจี้ชิงทรัพย์ระหว่างรอกลับรถกลางถนน จึงขับรถไล่ตามจนเกิดอุบัติเหตุชนคนร้ายดับที่ซอยนวมินทร์ 14
เมื่อเวลา 01.30 น.วันนี้ (9 พ.ค.) พ.ต.ท.พงศักด์ การรัตน์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สน.ลาดพร้าว ได้รับแจ้งเหตุมีรถยนต์เสียหลักพุ่งชนเข้าไปในอาคารพาณิชย์ เลขที่ 1030 ซ.นวมินทร์ 14 แยก 3 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาก่อนเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.วิทวัฒน์ ชินคำ ผกก.สน.ลาดพร้าว พ.ต.ต.ธานี จิตรธรรม สว.สส. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดพบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู รุ่น X1 สีขาว หมายเลขทะเบียน ฆว 938 กรุงเทพมหานคร เสียหลักพุ่งชนเข้าไปในตัวอาคารอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น จำนวน 2 คูหา ที่ชั้นล่าง ใกล้กับพบจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นคลิก 125 สีแดง-ดำ หมายเลขทะเบียน อฬบ 6 กทม. อยู่ในสภาพเสียหายพังยับเยิน ห่างกันเล็กน้อยพบศพนายสมควร ไทยเดชา อายุ 34 ปี สภาพศพสวมเสื้อยืดสีเขียวสกรีนตัวอักษรที่หน้าอกว่า “กองทัพบก” สวมเสื้อคลุมสีดำ ปักตัวอักษรที่หน้าอกด้ายซ้ายคำว่า “คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ สภาผู้แทนราษฎร นพ.เหวง โตจิราการ” มีบาดแผลที่ศีรษะจนกระโหลกเปิด แขนขาหักผิดรูป และยังพบกระเป๋าสะพายสีดำที่ตัวผู้ตายอีกด้วย
จากการสอบสวนนายทวิช กิตนิยม อายุ 32 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว กล่าวด้วยอาการตกใจเสียงสั่นว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถบีเอ็มดับเบิลยูคันดังกล่าวมาตามถนนลาดพร้าว เมื่อมาถึงช่วงกลับรถหน้าปากซอยลาดพร้าว 130 จึงได้จอดรอเพื่อรอกลับรถ ระหว่างนั้นได้มีคนร้ายขับจักรยานยนต์เข้ามาจอดด้านข้างคนขับก่อนจะเคาะกระจก ตนคิดว่าเป็นคนมาถามทางจึงลดกระจกลง จังหวะดังกล่าวคนร้ายได้ชกเข้ามาที่บริเวณใบหน้าของตนหลายครั้งโดยไม่ทันตั้งตัว พร้อมกับชักมีดออกมาจี้ขู่ว่าจะทำร้าย พร้อมกับให้ส่งทรัพย์สินหรือของมีค่าออกมาให้หมด ด้วยความกลัวตนจึงหยิบกระเป๋าสะพายที่มีเงินและโทรศัพท์ส่งให้คนร้ายไป ก่อนที่คนร้ายจะขับจักรยานยนต์หนีไป เมื่อตนตั้งสติได้จึงขับรถตาม โดยหวังว่าจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านอยู่หรือผ่านมา
นายทวิชกล่าวต่อว่า เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุเป็นทางสามแยก คนร้ายได้พยายามหักรถเลี้ยวกะทันหันเพื่อจะหลบหนี ด้วยความที่ตนขับมาเร็วจึงเบรกไม่อยู่ทำให้รถเสียหลักพุ่งชนคนร้าย ก่อนจะพุ่งไปเข้าไปในร้ายขายของชำ เมื่อลงมาก็เห็นคนร้ายนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น ตนจึงรีบโทรศัพท์ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ
ด้าน น.ส.หนูดี (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ผู้เสียหายรายหนึ่งกล่าวว่า ภายหลังทราบว่าคนร้ายถูกรถชนเสียชีวิตจึงรีบเดินทางมาดู โดยก่อนหน้านี้เมื่อหลายเดือนที่ผ่านมาตนได้ถูกนายสมควร ไทยเดชา หรือบอล ใช้อาวุธมีดและปืนจี้ชิงทรัพย์สินจากตนเองไปจำนวนหลายครั้ง พร้อมกับขู่ว่าถ้าแจ้งความก็จะกลับมาทำร้ายแม่ของตน และก่อนหน้านี้คนร้ายได้มาจีบตนแต่ตนไม่เล่นด้วย หลังจากนั้นนายสมควรจะมาคอยดักปล้น จี้ชิงทรัพย์ชาวบ้านในย่านนี้อยู่เป็นประจำ และทราบมาว่าหลังก่อเหตุก็จะกลับเข้าไปในกรมทหาร ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่านายสมควรยังรับราชการอยู่หรือไม่
พ.ต.อ.วิทวัฒน์กล่าวว่า จากการสอบประวัติผู้ตายพบว่าไม่ได้ประกอบอาชีพอะไรเป็นหลักแหล่ง โดยผู้ตายจะมาคอยดักชิงทรัพย์ชาวบ้านในละแวกดังกล่าว และบางครั้งก็จะมีการแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เบื้องต้นจะได้สอบประวัติคนร้ายว่าเคยก่อเหตุที่ใดบ้าง ส่วนผู้เสียหายที่ขับรถชนคนร้ายนั้นอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อแจ้งข้อกล่าวหา โดยยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างเต็มที่
