xs
xsm
sm
md
lg

เจรจาเงินจำนำข้าวชาวนาเชียงรายหายเหลว โรงสีไม่ยอมจ่ายอ้างไม่ผิด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เชียงราย - เวทีเจรจาทวงเงินจำนำข้าวนาปรับปี 56 ของชาวนาเชียงรายที่หายไปล้มเหลว หลังดำเนินคดีเถ้าแก่โรงสีจนถูกควบคุมตัวในเรือนจำแล้ว 2 ราย อีกรายยันไม่ผิด ไม่จ่าย ยันเป็นผู้เสียหายด้วย พบตัวละครใหม่ ออกตระเวนโกงชาวนา

วันนี้ (28 ต.ค.) นายชาติชาย สงวนพงษ์ ปลัดจังหวัดเชียงราย, นายวุฒิชัย วิชิตนาค อัยการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน, ฝ่ายทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยปัญหาเงินจำนำข้าว ระหว่างตัวแทนของชาวนาจาก อ.แม่ลาว ที่ประสบความเดือดร้อนไม่ได้รับเงินตามโครงการรับจำนำข้าวนาปรังปี 2556 กับนางธมลพรรณ คำรังษี เจ้าของท่าข้าวรุ่งเรือง อ.แม่ลาว และโรงสีข้าว ก.เทพสวัสดิ์ และโรงสีข้าวแม่จันโกลเด้นแกรนด์ จ.เชียงราย

เพื่อหาทางช่วยเหลือชาวนาที่ยังไม่ได้รับเงินจากการจำนำข้าวดังกล่าวจำนวนนับร้อยคน รวมกว่า 5,356,980 บาท เพราะเอกชนที่อยู่นอกโครงการรับจำนำฯ คือ ท่าข้าวนิธิผลสหการเกษตรกรตั้งอยู่ อ.แม่ลาว ออกรับข้าวจากชาวนาแล้วนำไปส่งยังโรงสีทั้งใน และนอกโครงการ

แต่กลับไม่สามารถนำใบประทวนมาให้ชาวนา จนเกิดการฟ้องร้องนายณัชสัณห์ รัศมิ์ธนหิรัญ เจ้าของท่าข้าวนิธิผลสหการเกษตร, นางธนัญรัตน์ รัศมิ์ธนหิรัญ ภรรยาของนายณัชสัณห์ และนางธมลพรรณ คำรังษี เจ้าของท่าข้าวรุ่งเรือง อ.แม่ลาว ในข้อหาฉ้อโกง ซึ่ง 2 คนแรกถูกดำเนินคดี และควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำ อ.เทิง แล้ว ส่วนนางธมลพรรณ ได้ประกันตัวออกมาสู้คดี

โดยทางจังหวัดได้แจ้งถึงเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นและความเดือดร้อนจากปัญหาเงินคงค้างที่ไม่ได้รับของชาวนาดังกล่าว ก่อนให้ทั้งสองฝ่ายได้แสดงความเห็นเพื่อหาทางออก

นายพินิต ชัยรัตน์ และนายสุคำ สุวรรณ พร้อมตัวแทนชาวนา ที่เข้าร่วมเจรจาต่างระบุว่า ข้าวที่ชาวนานำไปส่งให้ท่าข้าวนิธิผลสหการเกษตร ถูกส่งไปยังท่าข้าวรุ่งเรือง อ.แม่ลาว จึงสงสัยว่าจะพัวพันด้วยตามที่พนักงานสอบสวนได้มีการสอบสวนจนสาวไปถึงโรงสีอีก 2 แห่งดังกล่าว จึงขอให้หาวิธีนำเงินค่าข้าวมาคืนให้ชาวนาด้วย

หลังจากก่อนหน้านี้ชาวนาได้เรียกร้องไปยังหน่วยงานต่างๆ และยื่นฟ้องร้องจนทำให้โรงสีทั้งสองแห่งเยียวยาตามปริมาณข้าวที่ถูกนำไปส่งให้แล้วจำนวน 4,215,420 บาท แต่เนื่องจากปริมาณข้าวที่ชาวนานำไปให้ท่าข้าวนิธิผลสหการเกษตร รวมเป็นเงินกว่า 9,572,400 บาท เมื่อได้รับค่าเยียวยาจากโรงสีแล้วจึงคงเหลืออีกกว่า 5,356,980 บาท

ด้านนางธมลพรรณได้ชี้แจงว่า ตนไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับการฉ้อโกงเงินจากชาวนาใดๆ ทั้งสิ้น แต่นายณัชสัณห์ และภรรยา เป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด ส่วนตนก็เป็นผู้ถูกกระทำเช่นกัน โดยมีการนำข้าวของชาวนาไปฝากโดยไม่ได้แจ้งรายละเอียดหรือไม่ได้เกี่ยวข้องกัน พวกเราก็เหมือนถูกโกงด้วยกันหมด แต่ที่ผ่านมากลับมีการเพ่งเล็งมาที่ตน และยื่นร้องทุกข์ไปถึงคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และหน่วยงานอีกหลายแห่ง จนทำให้ตนเสียหายด้วย

ขณะที่นายศิริ ชัยสถิตวาณิชย์ ประธานชมรมโรงสีข้าว จ.เชียงราย กล่าวว่า เรื่องนี้เกิดจากแก๊งที่เข้ามาอาละวาดใน จ.เชียงราย เพราะก่อนหน้านี้ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เลย โดยตนเห็นว่ามีตัวละครที่ถูกมองข้ามไป ซึ่งตนทราบว่ามีคนชื่อนายบัญชา ตระเวนโกงข้าวจากชาวนา โดยรับข้าวจากชาวนาอ้างว่าจะให้ใบประทวนแล้วนำข้าวไปส่งโรงสีข้าวต่างๆ อ้างว่าเป็นข้าวที่ซื้อขาดจากชาวนามาแล้ว บางครั้งก็ตั้งเป็นท่าข้าวแล้วแอบนำข้าวไปขาย เมื่อมีการตรวจสอบก็เปลี่ยนชื่อไปเรื่อยๆ จึงเชื่อว่านายบัญชา กับนายณัชสัณห์ เกี่ยวข้องกัน

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า เมื่อการเจรจาไกล่เกลี่ยไม่เป็นผล ทางปลัด จ.เชียงรายจึงสรุปว่า ทางจังหวัดเห็นใจชาวนาที่ยากจนอย่างยิ่ง แต่เรื่องนี้ยังไม่ได้สรุปความจริงทั้งหมด และเชื่อว่านายณัชสัณห์ยังพูดความจริงออกมาไม่หมด รวมไปถึงเรื่องทรัพย์สินที่อาจจะตรวจสอบไม่ทั่วถึงด้วย จึงต้องเดินหน้าดำเนินคดี โดยทางอัยการจังหวัดจะรับไปตรวจสอบสำนวนที่มีอยู่ 3-4 แฟ้มอย่างละเอียด และประสานกับพนักงานสอบสวนเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมโดยเฉพาะกรณีที่ชมรมโรงสีข้าวให้ข้อมูลกรณีนายบัญชาเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านโดยเร็วต่อไป

ปลัดจังหวัดเชียงรายกล่าวว่า นอกจากนี้ยังจะตรวจสอบเส้นทางข้าวที่ทราบว่ามีข้าวกว่า 840 ตันที่ถูกส่งไปยังโรงสีข้าวต่างๆ ในพื้นที่ภาคกลาง รวมไปถึงเส้นทางอื่นๆ ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายต่อไปอีกด้วย ซึ่งเมื่อคำนวณจากปริมาณข้าวที่ตรวจสอบดังกล่าวพบว่ามีมากกว่าข้าวที่หายไปจาก อ.แม่ลาว เสียอีก เชื่อว่าส่วนหนึ่งเป็นข้าวที่นำไปจากชาวนาที่ อ.เทิงด้วย เพื่อขยายผลและนำเงินมาคืนชาวนาให้ได้ต่อไป แต่ก็คงต้องใช้เวลาพอสมควร


กำลังโหลดความคิดเห็น