กาญจนบุรี - ตำรวจสุพรรณบุรี รวบผู้ต้องหาบุกเดี่ยวยิงเซียนพระดับต่อหน้าลูกเมียกลางดึกได้แล้ว สารภาพเนื่องจากเข้าใจผิดคิดว่าผู้ตายเป็นสายของตำรวจ ขณะเข้าไปนั่งดื่มสุราที่คาราโอเกะ ซึ่งเป็นร้านของภรรยาแล้วมีเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจค้นยาเสพติดจึงเกิดความแค้น
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีคนร้ายบุกเดี่ยวเข้าไปในบ้านเลขที่ 133 หมู่ 2 ต.บ้านกร่าง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ใช้อาวุธยิงนายนิพนธ์ บัวเอี่ยม อายุ 33 ปี เจ้าของบ้าน อาชีพรับเช่าซื้อพระ เสียชีวิตต่อหน้า น.ส.ธนพรรณ อ่วยสกุล อายุ 21 ปี ภรรยา และลูกชายวัย 8 เดือน เหตุเกิดเมื่อเวลา 02.30 น. ของวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (20 ส.ค.) ที่หน้า สภ.ศรีประจันต์ พ.ต.อ.อนุสรณ์ วนาปกรณ์ รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี ในฐานะหัวหน้าชุดคลี่คลายคดี พร้อมด้วย พ.ต.อ.อภิชิต สุรพินิจ ผกก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.ไพฑูรย์ อยู่พะเนียด ผกก.สภ.ศรีประจันต์ ได้นำตัวนายจักรินทร์ หรือริน พลายละหาร อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/2 หมู่ 4 ต.บ้านกร่าง อ.ศรีประจันต์ ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุตามหมายจับศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ มจ.406/2557 ลงวันที่ 19 ส.ค.2557
พร้อมของกลางที่ใช้ก่อเหตุ อาวุธปืนขนาด .38 ไม่มีทะเบียน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 2 นัด เศษเสื้อผ้าที่สวมใส่ขณะก่อเหตุสภาพถูกไฟไหม้ 1 ตัว รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าคลิก สีแดงดำ หมายเลขทะเบียน 1 กข 6620 สุพรรณบุรี พาหนะที่ใช้ก่อเหตุ จำนวน 1 คัน และรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีแดง หมายเลขทะเบียน กน 6869 พระนครศรีอยุธยา จำนวน 1 คัน
พ.ต.อ.อนุสรณ์ แถลงว่า สืบเนื่องจากเวลาประมาณ 02.30 น. วันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา มีคนร้ายบุกเดี่ยวเข้าไปในบ้านเลขที่ 133 หมู่ 2 ต.บ้านกร่าง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ใช้อาวุธยิงนายนิพนธ์ บัวเอี่ยม อายุ 33 ปี อาชีพรับเช่าซื้อพระ และเจ้าของบ้านเสียชีวิตต่อหน้า น.ส.ธนพรรณ อ่วยสกุล อายุ 21 ปี ภรรยา และลูกชายวัย 8 เดือน
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธ์ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ชัชชรินทร์ สว่างวงศ์ ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี ได้สั่งการให้ตน และ พ.ต.อ.อภิชิต สุรพินิจ ผกก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.ไพฑูรย์ อยู่พะเนียด ผกก.สภ.ศรีประจันต์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ศรีประจันต์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี ร่วมกันเร่งรัดติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากคนร้ายได้ก่อเหตุอย่างอุกอาจ เป็นที่สนใจของผู้บังคับบัญชาระดับสูง และประชาชน
จากการสืบสวนทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายจักรินทร์ หรือ ริน พลายละหาร จากพยาน และหลักฐาน ศาลจังหวัดสุพรรณบุรี จึงอนุมัติหมายจับให้แก่เจ้าหน้าที่ และทราบว่าผู้ต้องหาหลบหนีไปอยู่ในพื้นที่บ้านท่ามะกรูด หมู่ 3 ต.กระเสียว อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี โดยใช้รถยนต์เก๋งยี่ห้อ โตโยต้า วีออส สีแดง หมายเลขทะเบียน กน 6869 พระนครศรีอยุธยา เป็นพาหนะ ในที่สุดช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงสามารถจับกุมตัวเอาไว้ได้ และนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.ศรีประจันต์
จากการสอบสวน นายจักรินทร์ หรือริน ผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด .38 บุกเข้าไปยิงนายนิพนธ์ ภายในบ้านจริง สาเหตุมาจากคืนวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา นายนิพนธ์ ได้ไปนั่งดื่มสุราที่ร้านน้องคาราโอเกะ ตั้งอยู่ริมถนนสายสุพรรณบุรี-ชัยนาท ที่ภรรยาของผู้ต้องหาเป็นหุ้นส่วนอยู่ ส่วนนายจักรรินทร์ กับพวกก็นั่งอยู่ภายในร้าน
ต่อมา ได้มีชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารนำกำลังเข้าไปตรวจค้นยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายภายในร้านดังกล่าว ทำให้นายจักรินทร์ เข้าใจว่า นายนิพนธ์ ที่เพิ่งเข้าไปใช้บริการที่ร้านเป็นสายให้แก่เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้น ด้วยความแค้น นายจักรรินทร์ ได้เดินทางไปดูลาดเลาที่บ้านพักของผู้ตาย จากนั้นจึงกลับมาที่ร้านรอจนกว่านายนิพนธ์ เช็กบิลค่าเครื่องดื่มเพื่อกลับบ้าน โดยมีน้องชายขับขี่รถจักรยานยนต์มารับ
จากนั้นผู้ต้องหาได้ให้ลูกน้องขับขี่รถจักรยานยนต์ติดตามไป โดยบอกว่าจะตามไปทวงเงิน เมื่อนายนิพนธ์ ไปถึงบ้านจึงเปิดไฟ และนำน้ำยามาย้อมผมที่ข้างเตียงนอน ส่วนผู้ต้องหาให้ลูกน้องจอดรถรออยู่ในที่มืด และขณะที่กำลังเดินย่องเข้าไปภายในบ้าน สุนัขเกิดเห่าเสียงดังขึ้นมา ผู้ต้องหาจึงใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่สุนัขตัวดังกล่าว 1 นัด กระสุนโดนเข้าที่ขาได้รับบาดเจ็บ นายจักรินทร์ จึงตัดสินใจรีบวิ่งเข้าไปภายในบ้าน และใช้อาวุธปืนยิงใส่ นายนิพนธ์ เข้าที่ลำคอซ้าย 1 นัด ชายโครง 1 นัด และที่แขนซ้าย 1 นัด รวม 3 นัด แต่นายนิพนธ์ ยังใจแข็งพยายามวิ่งหลบหนีออกไปหลังบ้าน แต่ก็สิ้นใจตายในที่สุด
หลังก่อเหตุได้วิ่งไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่ลูกน้องจอดรออยู่หลบหนี และได้นำเสื้อที่สวมใส่ไปเผาทิ้งระหว่างทาง และจากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหาพบว่า เคยถูกจับกุมในคดีอาวุธปืน และพัวพันเกี่ยวกับเรื่องยาเสพติด มีชื่ออยู่ในบัญชีของเจาหน้าที่ตำรวจ โดยหลังจากผู้ต้องหายอมรับสารภาพ จึงคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
จากนั้นจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ศรีประจันต์ ดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์