ศูนย์ข่าวศรีราชา - นายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทยฯ เชื่อมูลค่าการส่งออกเนื้อไก่ไทยไปยังตลาดต่างประเทศในปี 57 จะมีมูลค่ารวมไม่น้อยกว่า 8 หมื่นล้านบาท หรือเติบโตจากยอดการส่งออกในปีก่อนถึง 18% จากความเชื่อมั่นในมาตรฐานการผลิต และระบบสุขอนามัยในประเทศไทยของคู่ค้าต่างประเทศ ขณะเดียวกัน ยังฝากเตือนเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ ให้เฝ้าติดตามข่าวการแพร่ระบาดของโรคต่างๆ ที่อาจเกิดกับสัตว์ปีกอย่างใกล้ชิด ป้องกันปัญหาที่จะส่งผลกระทบต่อระบบการผลิตของไทย
นางฉวีวรรณ คำพา ประธานกรรมการ บริษัท ฉวีวรรณฟาร์ม จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจผลิตเนื้อสัตว์ปีกเพื่อการส่งออกแบบครบวงจรรายใหญ่ของไทย ในฐานะนายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ออกมาเปิดเผยถึงแนวโน้มมูลค่าการส่งออกเนื้อไก่ของไทยในปี 2557 ว่า น่าจะมีมูลค่าการส่งออกรวมไม่น้อยกว่า 8 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากยอดการส่งออกในปีก่อนถึง 18%
ทั้งนี้ เป็นผลมาจากราคาอาหารที่มีไก่เป็นวัตถุดิบในตลาดต่างประเทศ มีราคาถูกกว่าอาหารที่มีวัตถุดิบเป็นเนื้อหมู และเนื้อวัว ทำให้ผู้บริโภคในต่างประเทศหันมาบริโภคเนื้อไก่มากขึ้น จึงทำให้มีคำสั่งซื้อเนื้อไก่ในรูปแบบต่างๆ จากประเทศไทยเพิ่มตามไปด้วย
นอกจากนั้น จากความมั่นใจในมาตรฐานการผลิตที่ได้รับความไว้วางใจจากตลาดต่างประเทศ รวมถึงระบบสุขอนามัยทั้งระบบการเลี้ยง และการผลิตที่ได้มาตรฐาน Food Safety ก็ทำให้คู่ค้าที่มีคำสั่งซื้อในตลาดที่มีปัญหา หันมาสั่งซื้อจากผู้ผลิตของไทยมากขึ้นด้วย
“เท่าที่ผ่านมาการส่งออกผลิตภัณฑ์เนื้อไก่ไทยไปยังตลาดต่างประเทศยังมีปัญหาไม่มากนัก แม้ตลาดยุโรป และรัสเซีย จะเกิดปัญหาทางเศรษฐกิจ และการเมืองภายในประเทศ เช่นเดียวกับ ฮ่องกง ที่กำลังมีความวุ่นวาย ก็ต้องมีการจับตาอย่างใกล้ชิด และต้องประเมินภาวะตลาดกันอีกทีในเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ปีหน้าว่า จะมีผลกระทบต่อคำสั่งซื้อผลิตภัณฑ์จากไทยหรือไม่ อย่างไรก็ดี จากภาพรวมการส่งออกเนื้อไก่ของไทยในปีนี้ จะดีไปจนถึงปลายเดือนธันวาคมนี้อย่างแน่นอน”
นางฉวีวรรณ ยังเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคต่างๆ ที่เกี่ยวกับสัตว์ปีกในประเทศไทยว่า ขณะนี้ยังไม่มีข่าวการแพร่ระบาดของโรคใดๆ เนื่องเพราะประเทศไทยเป็นเมืองร้อนจึงทำให้การแพร่เชื้อไข้หวัดนก หรือโรคอื่นๆ เป็นไปค่อนข้างยาก แต่ก็อยากฝากเตือนไปยังเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ให้ติดตามข่าวสารในต่างประเทศ เพื่อป้องกัน และเตรียมรับมือต่อสถานการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อภาพรวมการเลี้ยงไก่ของไทย
“และหากมองถึงสถานการณ์การบริโภคเนื้อไก่ในประเทศไทยก็พบว่ามีเพิ่มขึ้น หลังราคาเนื้อหมูและเนื้อวัวมีราคาแพง นอกจากนั้น ยังพบว่ายอดการบริโภคเนื้อไก่ในประเทศสูงขึ้น 3-4 เท่าตัว สวนทางกับยอดการใช้จ่ายสินค่าฟุ่มเฟือยที่ลดลง อาจเป็นเพราะเนื้อไก่สามารถบิรโภคได้ในประชาชนทุกศาสนา ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะความมั่นใจในสถานการณ์ทางการเมือง และเศรษฐกิจหลังเกิดการเปลี่ยนแปลงในประเทศไทย จึงทำให้ประชาชนกล้าใช้จ่ายมากขึ้น”
อย่างไรก็ดี สมาคมฯ ยังฝากความหวังไว้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์คนใหม่ ที่จะประสานงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาตลาดใหม่ในการส่งออกเนื้อไก่ไทย เพื่อยกระดับการค้าของไทยให้ดียิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน
