ชาวบ้านแห่ร้องเจ้าคณะตำบล-ศูนย์ดำรงธรรม ถูกพระวัดดังกำแพงเพชรฟ้องรุกที่วัด

กำแพงเพชร - ชาวบ้านชุมนปากอ่าง เข้าพบเจ้าคณะตำบลอ่างทอง ยื่นหนังสือร้องศูนย์ดำรงธรรม ครวญเดือดร้อนหนัก ถูกพระวัดสวนม่วงหรือวัดปากอ่างน้อย ฟ้องร้องกล่าวหารุกที่วัด

วันนี้(21 ต.ค.) ชาวบ้านชุมชนปากอ่าง ต.อ่างทอง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ประมาณ 200 คน รวมตัวกันที่วัดอ่างทองพร้อมถือป้ายข้อความโจมตีพระสงฆ์ เช่น "สึกเลยชาวบ้านไม่ต้องการ เอาผ้าเหลืองไปหากิน" , "เราไม่ต้องการพรรังสีกับลูกทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน" , "สึกไปเถอะ อย่าทำให้เดือดร้อน" , "ขี้โกงที่ดินชาวบ้าน(หน้าด้านด้าน)" เป็นต้น

จากนั้นนายคำรณ หินแก้ว กำนันตำบลอ่างทอง และนายกฤษดา วัฒนศิริ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 และนายกมล สิมเมือง สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชร เป็นตัวแทนเข้าถวายหนังสือให้กับพระครูวชิรธรรมคุณ เจ้าอาวาสวัดอ่างทอง เจ้าคณะตำบลอ่างทอง เพื่อรับทราบข้อร้องเรียนพฤติกรรมพระรังสี สุทธสีโล อายุ 55 ปี และพระมหาวิชชา อัจฉริยะปาฬี อายุ 25 ปี พระสงฆ์ 2 พ่อ-ลูก วัดสวนม่วง ต.อ่างทอง

จากนั้นชาวบ้านทั้งหมดพากันเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนในเรื่องเดียวกันต่อนายเอกราช เสมาทอง นักวิชาการศาสนาชำนาญการ สำนักงานพระพุทธศาสนา และนายธิติวัฒน์ สิริโรจน์รัตน์ หัวหน้าฝ่ายป้องกันและปฏิบัติการ ช่วยราชการงาน ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกำแพงเพชร ตามลำดับ

นายกมล นายคำรณ และนายกฤษดาร่วมกันเปิดเผยถึงเหตุผลที่ออกมาร้องเรียน ว่าชาวบ้านปากอ่าง และชุมชนละแวกใกล้เคียง ได้รับความเดือดร้อนจากพฤติกรรม และการกระทำของพระรังสี สุทธสีโล อายุ 55 ปี และพระมหาวิชชา อัจฉริยะปาฬี อายุ 25 ปี พระสงฆ์ 2 พ่อ-ลูกวัดสวนม่วง

เนื่องจากพระสงฆ์ 2 พ่อ-ลูกร่วมกันฟ้องร้องชาวบ้านที่ทำมาหากินปลูกมันสำปะหลังในที่ดินมรดกตกทอด จากรุ่นสู่รุ่นว่ารุกที่วัด ซึ่งชาวบ้านทราบดีว่าขอบเขตของวัดอยู่ตรงไหน เท่าไหร่ เพราะก่อนหน้านั้นชาวบ้านผู้มีจิตศรัทธาได้ร่วมกันบริจาค และอยู่ร่วมกับทางวัดด้วยความร่มเย็นเป็นสุขเสมอมา ไม่เคยมีปัญหาอะไร เลื่อมใสศรัทธาต่อพระภิกษุสงฆ์

แต่หลังจากพระรังสีย้ายมาจำวัด ก็มีแต่เรื่องราววุ่นวายต่างๆเกิดขึ้นในชุมชนบ้านปากอ่าง ซึ่งก็มีแต่พระรังสี รูปเดียวที่มีปัญหากับชาวบ้าน จนในปัจจุบันทั้งวัดสวนม่วง มีพระจำพรรษาอยู่แค่ 2 รูป คือ พระรังสี สุทธสีโล และ พระมหาวิชชา อัจฉริยะปาฬี ล่าสุด มีต้นไม้ล้มขวางทางเข้าวัด ซึ่งชาวบ้านอ้างว่าเคยใช้เส้นทางนี้เป็นประจำ ขณะนี้มีต้นไม้ขวางทำให้ไม่สามารถใช้รถเข้าไปขนมันในไร่ของตนเองได้ แต่ถ้าเอาต้นไม้ออกเกรงจะถูกพระแจ้งความเอาผิดได้ได้

ตัวแทนชาวบ้านบ้านปากอ่างยังกล่าวอีกว่า ปกติแล้ววัด ชุมชน และธุรกิจที่อาศัยอยู่ในชุมชน จะต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ในการร่วมกันสร้าง พัฒนาชุมชน แต่จากพฤติกรรมของพระภิกษุ 2 พ่อ-ลูก มีสิ่งผิดปกติ และน่าสงสัยในหลายๆด้าน เช่น ไม่มีส่วนร่วมในชุมชน มีเรื่องฟ้องร้อง ร้องเรียนชาวบ้าน จนเป็นที่ระอาของชาวบ้าน ทำให้ไม่มีชาวบ้านเข้าวัดทำบุญ จึงทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนเป็นทุกข์อย่างมาก
นอกจากนี้ยังมีการใช้สังคมในโลกออนไลน์ หาเงินบริจาคเข้าวัด อ้างว่าเพื่อการตอสู้คดีกับนักการเมือง โดยการเผยแพร่ข้อความลงในเว็บไซต์ “ธรรมะไทย”อีกด้วย จึงอยากจะขอให้ผู้เกี่ยวข้องได้สอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป ภายใน 7 วัน เพื่อการดำรงรักษา พระพุทธศาสนาที่น่าเลื่อมใสศรัทธาต่อไป

ด้านสำนักพุทธศาสนาจังหวัดกำแพงเพชรและศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกำแพงเพชร รับหนังสือ พร้อมแจ้งว่าจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมตรวจสอบโดยด่วน เพื่อแก้ปัญหาให้กับชาวบ้าน