xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้านแห่ร้องศูนย์ดำรงธรรม-ทหาร ฝากออมทรัพย์เรือนสิบ-ร้อยส่อถูกเชิด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เชียงราย - ชาวบ้านพญาเม็งราย รวมตัวร้องศูนย์ดำรงธรรม-ทหาร ฝากเงินออมทรัพย์หลักสิบ-หลักร้อย ตามคำชวนแกมขู่ของ ผญบ. หากไม่ฝากไม่ได้เงินกู้หมู่บ้านละล้าน ยอดเงินสะสมกว่า 8 แสน กลับไม่ได้เงินปันผล-เงินต้นคืนแม้แต่บาทเดียว ร้องนอภ.แล้วยังเงียบ ฟ้องศาลกลับบอกจะคืนให้แค่ 2 แสน

วันนี้ (21 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มชาวบ้านจากบ้านทุ่งเจ้าเหนือ หมู่ 13 ต.แม่เปา อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย ประมาณ 50 คนนำบัญชีกลุ่มออมทรัพย์หมู่บ้านทุ่งเจ้าเหนือ ที่เปิดบัญชีเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2554 และจ่ายเงินออมเรื่อยมาเดือนละ 20 บาทจนถึงหลายร้อยบาท รวมยอดบัญชีที่ร่วมกันออมทรัพย์ 222 ราย วงเงิน 835,693 บาท เข้าร้องต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด

ชาวบ้านระบุว่า ชาวบ้านฝากออมทรัพย์ตามคำเชิญชวนของนายสุข ราญรอน ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นประธานกลุ่ม ที่ให้เหตุผลว่าเพื่อออมเงินไว้ให้ลูกหลาน และหากใครไม่ร่วมก็จะไม่ได้รับเงินกู้จากโครงการหมู่บ้านละล้านบาทด้วย แต่ 2-3 ปีที่ผ่านมาไม่ได้รับเงินปันผลคืนเลย

ต่อมาชาวบ้านออกมาทวงคืน และร้องต่อนายอำเภอหลายครั้ง แต่ไม่ได้เป็นผล จึงไปแจ้งความดำเนินคดีนายสุขและกรรมการรวม 11 คน ข้อหาร่วมกันยักยอก ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ศาลได้นัดไกล่เกลี่ย แต่คณะกรรมการกลุ่มเงินฝากกลับไม่ยอมคืนเงินทั้งหมดให้

นายกิตติพงษ์ จันทา ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า ชาวบ้านร่วมออมทรัพย์หวังจะเก็บเงินไว้ให้ลูกหลาน เพราะแต่ละคนมีฐานะยากจน และเป็นชาวนาชาวไร่ เมื่อผู้ใหญ่บ้านประกาศเสียงตามสายเชิญชวน จึงร่วมกันออมทรัพย์คนละ 20 บาทขึ้นไปต่อเดือน จนสะสมมานานหลายปี ช่วงที่ออมเงินก็เปิดให้ชาวบ้านกู้ยืมเงินได้โดยคิดดอกเบี้ยร้อยละ 1 แต่คนที่ไปกู้ก็ไม่เคยได้รับเงินเต็ม หากพ้น 7 เดือนไปแล้วจะคิดดอกเบี้ยร้อยละ 2 อีก ซึ่งตามกำลังของชาวบ้านกู้กันรายละประมาณ 1,000-3,000 บาท เพื่อนำไปทำนาทำไร่ ส่วนเงินต้นที่ออมทรัพย์ไปก็ไม่เคยได้รับคืน จึงพากันไปร้องเจ้าหน้าที่ก็ไม่เป็นผล ต้องไปฟ้องศาล

นายกิตติพงษ์กล่าว่า ล่าสุดเมื่อศาลทำการไกล่เกลี่ยตามที่อัยการได้ร้องไปว่า คดีนี้มีชาวบ้านฟ้องร้อง 80 คน คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 466,560 บาท แต่ทางคณะกรรมการต่อรองว่าจะชดใช้ให้เพียงประมาณ 200,000 บาท อ้างว่าชาวบ้านไม่ได้ฟ้องกันทั้งหมด และในจำนวนนี้ก็ยังเป็นเด็กที่พ่อแม่ไปเปิดบัญชีกลุ่มเงินฝากออมทรัพย์ให้ โดยไม่ได้เป็นผู้ฟ้องร้องจริงด้วย

จึงทำให้ชาวบ้านสงสัยว่าเงินอีกประมาณ 600,000 บาทหายไปไหน กรรมการเอาไปใช้ทำอะไร เหตุใดจึงไม่ยอมนำมาคืนชาวบ้าน เพราะแต่ละคนเป็นลูกบ้านที่กำลังเดือดร้อน จึงได้เข้าร้องต่อเจ้าหน้าที่ดังกล่าว

ด้านยายซิว ซุยหลวง อายุ 67 ปี สมาชิกกลุ่มเงินฝากออมทรัพย์บ้านทุ่งเจ้าเหนือ กล่าวว่า สามีตนเสียชีวิตไปนานแล้ว ส่วนลูกหลานก็ไปทำงานต่างจังหวัด จึงหวังจะมีเงินไว้ใช้ดูแลรักษาตัวเองในยามแก่ชรา จึงได้ออมเงินไว้กับกลุ่มเงินฝากออมทรัพย์ตามคำชักชวน โดยตนมีเงินสะสมอยู่ในบัญชี 12,670 บาท ทำให้เดือดร้อนอย่างหนัก

นางนิชชา จันทาพูน ชาวบ้าน กล่าวว่า ถ้าชาวบ้านยอมรับเงินชดใช้จากคณะกรรมการเพียงแค่ 200,000 บาท จะยิ่งเดือดร้อนกันหนัก เพราะแต่ละคนต่างมีเงินสะสมในบัญชีมากน้อยต่างกันไป บางคนกว่า 5,000 บาท หรือบางคนนับหมื่นบาท หากได้มาก็ต้องนำมาเฉลี่ยกัน ซึ่งไม่ครบตามยอดเงินที่ชาวบ้านเคยจ่ายเข้าบัญชี และไม่ครบจำนวนสมาชิกด้วย

ขณะที่ศูนย์ดำรงธรรมได้แจ้งให้ชาวบ้านส่งข้อมูลทั้งหมดให้เจ้าหน้าที่ใน 7 วัน และทางจังหวัดจะรวบรวมข้อมูลอีก 7 วัน จากนั้นอีก 15 วันจะนำเข้าในการประชุมคณะกรรมการจังหวัด ชาวบ้านจึงย้ายกันไปร้องทุกข์ที่กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดทหารบกเชียงรายอีกทางหนึ่ง

สำหรับคดีดังกล่าว อัยการเป็นโจทก์ฟ้องคณะกรรมการกลุ่มเงินฝากออมทรัพย์บ้านทุ่งเจ้าเหนือทั้ง 11 คน และทางอัยการสรุปว่าทั้งหมดได้กระทำความผิด โดยมุ่งแต่ประโยชน์ส่วนตน ไม่คำนึงถึงความเสียหายที่เกิดแก่ชุมชน หมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบอย่างมาก จึงเห็นว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91, 352 พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 และขอศาลได้สั่งให้จำเลยใช้เงินคืน 466,560 บาทแก่ผู้เสียหาย ศาลจังหวัดเทิง ได้รับเป็นคดีหมายเลขดำที่ 706/2557 เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา



กำลังโหลดความคิดเห็น